ดีเจบุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์ เผยเตรียมบินเกาหลีผ่าตัดเนื้อส่วนเกินกลางปีนี้ แต่ต้องลดน้ำหนัก 20 กก. แจงปลูกผมเพราะอยากมีไรผมเหมือนสาวเกาหลี รับถูกทาบเป็นพรีเซ็นเตอร์ศัลยกรรม เผยยังทำงานที่เอไทม์แต่สามารถรับงานนอกได้เพราะเป็นสัญญาใจ

หนก่อนไปอัพหน้ามาแล้ว แถมล่าสุดเพิ่งไปปลูกผม เพราะอยากมีไรผมเหมือนสาวเกาหลี ล่าสุดดีเจสุดจี๊ด บุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ก็แพลนบินไปเกาหลีเพื่อผ่าตัดเนื้อส่วนเกินช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งแว่วมาว่ายังถูกทาบเป็นพรีเซ็นเตอร์ศัลยกรรมอีกด้วย พอได้เจอดีเจบุ๊คโกะมาร่วมงานแถลงข่าว Doonee “It’s Show Time” ที่ลานแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เลยสอบถามถึงแพลนการผ่าตัดครั้งใหม่ของเจ้าตัว

งานนี้ ดีเจบุ๊คโกะ เลยเผยถึงเรื่องนี้ว่า "จริงๆ มีแพลนจะศัลยกรรมตลอดทั้งปีค่ะ แต่พอเริ่มปีนี้ก็มีงานอะไรใหม่ๆ เยอะขึ้น เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาก็เพิ่งไปย้ายเซลล์ผม ปลูกผมข้างหน้า หลายคนถามว่าหัวล้านเหรอ เราก็เปล่าเลย เราแค่อยากมีไรผมเหมือนสาวเกาหลี เลยเลือกที่จะปลูกผมก่อน ซึ่งเราอยากจะทำมากเพราะตอนปีใหม่ก็บินไปปรึกษาคุณหมอ ตอนนี้หมอสั่งให้ลดน้ำหนักก่อน เราเองทำเลเซอร์ไทท์ดูดไขมันมาแล้ว 2 รอบ มันก็ดูผอมสวยอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เรากินไม่หยุดปากไง มันก็เลยกลับมา หมอเลยบอกว่าต่อไปมันคือการผ่าตัดใหญ่แล้วนะ มันคือการตัดเนื้อส่วนที่เกินออกมาทิ้งไป ถ้าคุณลดน้ำหนักได้พอสมควรแล้ว ก็เลยมองว่าครั้งนี้ถ้าไปทำอีกโดยที่น้ำหนักยังไม่ลดลง คุณหมอเลยให้ออกกำลังกาย ปีที่ผ่านมาเราก็ออกกำลังกายลดลงไปได้ 10 กว่ากิโลฯ แต่บางจุดมันก็ยังไม่ลด ถ้าไปผ่าตัดโดยที่ยังไม่ลดน้ำหนักมันก็จะกลับมาเหมือนคราวที่แล้ว จริงๆ อยากจะลดน้ำหนักลง 20-30 กิโลฯ ตอนนี้บอกไม่อายปากเลย บุ๊คโก๊ะน้ำหนัก 115 กิโลฯ จริงๆ แล้วหมออยากจะให้เหลือ 75 กิโลฯ ซึ่งถ้าขนาดนั้นเราคงตายก่อน เลยต่อหมอเหลือสัก 90 กิโลฯ ได้ไหม หมอบอกได้แต่ทางเราก็ทำให้ได้นะ จริงๆ มีแพลนจะทำกลางปี แต่เอาตรงๆ น้ำหนักมันลงยาก ทุกวันนี้ทำงานทุกวัน เวลาออกกำลังกายมันก็น้อย แต่ก็ไม่รู้แหละ ยังไงก็จะทำ"

...

ตั้งใจจะเอาอะไรลงก่อน? "ตรงหน้าท้อง หมอนัดทำหน้าท้อง ขาใน ขานอก ต้นแขน ต้นขา มันก็ค่อนข้างเยอะ เพราะครั้งที่แล้วที่ทำก็ใช้เวลาในการพักเยอะ คือสองครั้งที่ผ่านมาเราทำที่เมืองไทย แต่ครั้งต่อไปเราจะทำที่เกาหลี เพราะหมอเกาหลีทำหน้าให้เรา เราก็จะเอาหมอเดียวกัน เพราะเราคุยกันแต่แรกแล้วว่าจะเอาหมอที่เกาหลี" ต้องเตรียมตัวไงบ้าง? "อย่างแรกเลยสุขภาพต้องแข็งแรง ตอนนี้จะใช้ยาสลบไม่ใช่แค่ 8 ชั่วโมงแล้ว เพราะตอนทำหน้าครั้งที่แล้ว จริงๆ หมอบอกวางยา 4 ชั่วโมง แต่งานเราคงยากมากจริงๆ หมอเลยจัดไป 8 ชั่วโมง คราวนี้เราเลยต้องเตรียมตัวให้ดีกว่าเดิม เราเองก็รับข่าวสารพวกวางยานอนหลับหรืออะไรต่างๆ นานาแล้วหลับไปเลย แต่อย่างที่บอกว่าการทำศัลยกรรมไม่ใช่ว่าใครทำที่ไหนก็ได้ เราเลยค่อนข้างศึกษา แพทย์ที่ทำต้องเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการวางยาสลบจริง เป็นแพทย์วิสัญญีแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่แพทย์ศัลยกรรม" มีแอบกลัวไหมรอบนี้? "เราเลยจุดคำว่ากลัวมาแล้ว เราเปลี่ยนเป็นการทำการบ้านมากขึ้นมากกว่า หลายๆ ครั้งเราก็ตื่นเต้นทุกครั้งเวลาทำ เพราะกลัวว่าหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมา แต่ก็โชคดีทุกครั้งที่ตื่นมาจนได้"

ตั้งเป้าไว้กี่เดือนสำหรับการลดน้ำหนักเพื่อจะไปกรีดไขมันต่อ? "ประมาณ 6 เดือน ต้องทำให้ได้ 20 กิโลฯ แล้วถึงจะไปทำต่อ จริงๆ อยากจะทำมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยเพราะอยากจะให้มันหายพร้อมๆ กัน แต่ถ้าทำอีกแล้วน้ำหนักจะกลับมาเท่าเดิมอีก เราต้องมาใช้ชีวิตแบบอ้วนบ้างผอมบ้าง ก็กลัวคนจะตกใจ มันก็คงไม่ดีต่อสุขภาพ เรื่องแผลก็สำคัญนะ สังเกตที่หน้าบุ๊คโก๊ะจะไม่ค่อยเห็นแผลเลย มันอยู่ที่การดูแลรักษาด้วย ถึงแม้ตอนที่มาหน้าจะบวมมากก็ตาม พอให้เวลาหน้าก็เริ่มเข้าที่ คือตอนนี้ต้องพักหน้าแล้วแหละ เพราะก็แน่นแล้วนะเลยต้องลงมาที่ตัว แต่ก็ไม่รับปากนะว่าจะไม่ต่อเติมอะไรที่หน้าแล้ว เดี๋ยวเผื่อวันนึงอยากจะทำนั่นทำนี่ขึ้นมา ตอนนี้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ทุกครั้งที่ทำเราก็คือลบจุดบกพร่องในใบหน้าเราที่เรารู้สึกว่าเราไม่พอใจตรงนี้ แล้วมันก็ตอบโจทย์กับการทำงานของเราด้วย มันเหมือนเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้น พอมันลงตัวเรารู้สึกว่าเรามั่นใจมากขึ้น"

...

เห็นว่าโดนทาบทามเป็นพรีเซ็นเตอร์ศัลยกรรมด้วย? "เราจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์แต่แรกอยู่แล้ว แต่มันอยู่ที่เรื่องของผู้ใหญ่คุยกัน เราไปในฐานะคนไทยแต่จะมีเอเจนซี่ดูแล แต่ทุกอย่างมันยังไม่ชัดเจน ซึ่งอะไรที่มันยังไม่ชัดเจนเราจะไม่พูดค่ะ อะไรไม่ชัดเจนแล้วไปพูดเราเองก็จะเสียใจด้วย แต่ค่าใช้จ่ายเราแจ้งไปแล้วว่าเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ค่ะ" ข่าวว่าจะไม่ต่อสัญญาเอไทม์? "ตัวบุ๊คโกะไม่ทราบว่าแต่ละคนเซ็นสัญญาหรือทำสัญญายังไง แต่สำหรับบุ๊คโก๊ะ ณ ตอนนี้ยังทำงานที่นี่อยู่ เพราะผู้ใหญ่ก็มอบหมายงานให้เราตลอด และมีงานที่หลากหลายมากมาย สัญญาเองมองว่าน่าจะเป็นสัญญาใจกันมากกว่า บุ๊คโกะว่าเรื่องการฉีกสัญญาอันนี่คิดว่าไม่มีใครทำ ไม่มีใครชิ่ง อย่างคนอื่นที่ออกไปเขาก็ยังมีรายการหรือทำงานอยู่ที่เอไทม์ ก็อาจจะเปลี่ยนบทบาทจากดีเจไปเป็นอย่างอื่นแทน แต่ก็ยังอยู่ในเอไทม์ เราเองอยู่กันแบบครอบครัว เขาให้อิสระในการทำงานของเรา ให้เราสามารถรับงานนอกได้ ให้เราได้ทำงานที่หลากหลาย ณ ตอนนี้เรามีความสุขที่อยู่ที่นี่ เลยไม่ได้คิดว่าจะมองที่อื่น".