คดีป้ายไฟพ่นพิษ สีกากีวิ่งวุ่นทั้งนครบาล หลัง ผบช.น.สั่งทุก บก. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนานเดือนเศษ สรุปเอาผิดร้ายแรงรอง ผบก.-รอง ผกก. ที่เกี่ยวข้องกว่า 76 นาย อย่างน้อย 42 โรงพัก ผิดระเบียบราชการ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์หวยมาออกตอนใกล้คลอดโผโยกย้าย กลายเป็นชนักติดหลังที่อาจส่งผลถูกโยนไปนอกหน่วย
ป้ายไฟโฆษณาบนป้อมตำรวจจราจรพ่นพิษฟันรอง ผบก.-รอง ผกก.ทั่วนครบาล เปิดเผยขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. สั่งการให้ทุก บก.สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีป้ายไฟโฆษณาที่ติดอยู่ตามป้อมจราจรทั่วกรุงที่ไม่ได้ขอติดตั้งตามกฎหมาย รวมทั้งรับรายได้ของบริษัทป้ายโฆษณา แบ่งเป็นป้ายโฆษณาแบบจอแอลอีดีตั้งข้างป้อมจราจร และป้ายโฆษณาที่อยู่บนป้อมจราจร เช่น ป้ายโรงพยาบาล ป้ายโฆษณาเครือข่ายโทรศัพท์ เป็นต้น
คณะกรรมการใช้เวลาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงนานเดือนเศษสรุปผลเสนอ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.แล้ว มีคำสั่งให้แต่ละ บก.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรงตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจำนวนไม่ต่ำกว่า 76 นาย และตั้งประธานและคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ระดับ บช.ขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง หากพบมีการกระทำผิดจะมีโทษสูงสุดถึงปลดออก หรือไล่ออก
ทำให้ตลอดทั้งวัน มีนายตำรวจระดับ รอง ผบก. ผกก.และรอง ผกก. ที่ถูกคำสั่งตั้งกรรมการเอาผิดวินัยร้ายแรงทยอยเดินทางไปรายงานตัวและเซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหาในส่วนของ บก.น.1 และ บก.น.5 ซึ่งมีสถานที่ตั้งอยู่ใน บช.น. ตำรวจบางนายโดน 2 คดี ทั้งโรงพักเดิมและโรงพักที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ หลายนายที่ทราบข่าว ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ถึงการตั้งสอบวินัยร้ายแรงนายตำรวจระดับรอง ผบก.-รอง ผกก. ใกล้กับช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายย่อมส่งผลให้ผู้ที่ถูกตั้งคณะกรรมการทั้งหมดมีสิทธิ์อยู่ในข่ายที่ผู้บังคับบัญชาหยิบชื่อขึ้นมาเสนอพิจารณาโยกย้ายออกนอกหน่วยด้วย
...
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ให้สำรวจว่า ป้อมยามตำรวจจราจรที่ควบคุมไฟจราจรทั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ บช.น. ยังไม่มีการจัดทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน จึงให้ บก.จร.และ สน. ทุกแห่งสำรวจป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ มีจำนวนกี่ป้าย ใครเป็นผู้อนุญาตให้ติดตั้ง หน่วยงานใดเป็นผู้ชำระค่าไฟ ใช้งบประมาณของทางราชการ หรือของผู้ประกอบการใดเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย ผู้ใดเป็นผู้ยินยอมให้ติดตั้งมิเตอร์ แล้วให้รายงานผลส่งตรง สำนักงาน ผบช.น.
เมื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบ ผกก.สน.คนปัจจุบัน และในอดีตมีพฤติการณ์ให้บริษัทเอกชนเข้ามาประกอบธุรกิจหาผลประโยชน์บนที่ราชพัสดุ ไม่มีหลักฐานหนังสือยินยอม และไม่ถูกต้องตามระเบียบราชการ ไม่พบผู้ใดอนุญาตมีอย่างน้อย 42 แห่ง ที่พบผิดวินัยร้ายแรง ได้แก่ 1. สน.ดุสิต 2. สน.พญาไท 3. สน.ห้วยขวาง 4. สน.ดินแดง 5. สน.สามเสน 6. สน.บางซื่อ 7. สน.พหลโยธิน 8. สน.ประชาชื่น 9 สน.โคกคราม 10. สน.คันนายาว 11. สน.บางเขน 12. สน.ทุ่งสองห้อง 13. สน.ดอนเมือง 14. สน.มีนบุรี 15. สน.ประชาสำราญ 16. สน.จรเข้น้อย 17. สน.หัวหมาก 18. สน.วังทองหลาง 19. สน.โชคชัย 20. สน.บางชัน 21. สน.ประเวศ 22. สน.อุดมสุข 23. สน.ทุ่งมหาเมฆ 24. สน.ทองหล่อ 25. สน.คลองตัน 26. สน.บางนา 27. สน.ท่าเรือ 28. สน.สำราญราษฎร์ 29. สน.พลับพลาไชย 1 30. สน.บางรัก 31. สน.ปทุมวัน 32. สน.ยานนาวา 33.สน.บางเสาธง 34. สน.ท่าพระ 35. สน.ศาลาแดง 36. สน.ตลาดพลู 37. สน.บุคคโล 38. สน.บางมด 39. สน.บางคอแหลม 40. ผกก.สน.ภาษีเจริญ 41. ผกก.สน.หลักสอง และ 42. สน.หนองค้างพลู