ทั้งที่ค้าขายอะไรก็เจ๊งไปหมดทุกอย่าง เป็นโต้โผใหญ่รับจำนำข้าวขาดทุนมาไม่รู้กี่แสนล้าน...วันนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ยุคผลัดใบ ไม่มีอีกแล้วจำนำข้าว ยังอุตส่าห์หาเรื่องมาทำให้ข้าวไทยเจ๊งจนได้

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์มีแนวคิดจะรื้อมาตรฐานข้าวหอมใหม่ จากเดิมการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย มี 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐาน 98% และมาตรฐาน 92%

ต้องการให้เพิ่มมาตรฐานข้าวหอมมะลิในเกรด 70% หรือ 80% อ้างเหตุผลได้รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดข้าวบางประเทศ ที่นิยมบริโภคข้าวหอมมะลิมีข้าวพันธุ์อื่นมาผสมได้มากถึง 20-30%

แนวคิดนี้จะเป็นการส่งเสริม หรือทำลายข้าวหอมมะลิไทยกันแน่ เพราะเป็นปัญหาเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในบ้านเรา ไม่ต่างอะไรกับการก้าวเดินถอยหลังลงคลอง

วันนี้ “ชมชื่น” จะขอฟื้นฝอยหาตะเข็บเอาข้อมูลของ ดร.อนันต์ ดาโลดม อดีตรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาชี้ให้เห็นในยุคข้าวหอมมะลิมีหลายมาตรฐานนั่นเป็นเยี่ยงไร ...เดิมประเทศไทยมีการกำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลิไว้หลายมาตรฐาน เช่น 70%-80%-90% เป็นต้น

เมื่อมีหลายมาตรฐานทำให้มีหลายราคา สิ่งที่ตามมาทำให้ข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งเป็นข้าวเมล็ดยาวที่ดีที่สุดในโลก สามารถให้ผู้ค้าข้าวต่างประเทศนำข้าวพันธุ์อื่นผสมปนได้มาก เกรดยิ่งต่ำการปนก็ยิ่งมาก ราคาขายเลยถูกกดตามไปด้วย...คงไม่ต้องบอก คนที่ต้องเดือดร้อนหนักสุด หนีไม่พ้นชาวนา

ด้วยเหตุนี้ปี 2539 กระทรวงเกษตรฯกับภาคเอกชนบางราย บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตข้าวหอมมะลิ ตราหงส์ทอง ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ร่วมกันกำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลิขึ้นมาใหม่ และได้ข้อยุติว่า ข้าวหอมมะลิควรมีเพียง 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐาน 98% และมาตรฐาน 92%

...

แต่กว่าจะได้มาตรฐานนี้ออกมา ต้องผ่านการศึกต่อสู้กับกลุ่มข้าราชการและพ่อค้าเจ้าเก่ากันหลายยก...มาตรฐานถึงจะได้ออกมาในปี 2544

แล้วจะสร้างมาตรฐานถอยหลังไปเพื่ออะไร ในเมื่อประวัติศาสตร์มีคำตอบให้อยู่แล้ว.

ชมชื่น ชูช่อ