วันนี้ (30 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะยกทีม ชุดใหญ่ไปเยือนกัมพูชาในฐานะแขกวีไอพีของสมเด็จฮุน เซน

รับประกันซ่อมฟรีว่าจะมีข่าวใหญ่ติดไม้ติดมือกลับมาแน่นอน

เพราะก่อนที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะเดินทางไปเยือนกัมพูชาได้ส่ง “พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” รองนายกฯ และ รมว. ต่างประเทศ เป็นทัพหน้าไปเจรจานำร่องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์

เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ รอให้ “บิ๊กตู่” กับ “บิ๊กฮุน” จับเข่าคุยกันเอง

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการเจรจาระหว่างผู้นำไทย–กัมพูชา ครั้งนี้ ประเด็นฮอตฮิตที่สุด คือ ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 27,000 ตร.กม. ที่คาราคาซังมากว่า 20 ปี

ค้างเติ่งมาแล้ว 8 รัฐบาล 8 นายกรัฐมนตรี

ถึงเวลาแล้วที่ไทย–กัมพูชา (ซึ่งต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย) จะร่วมมือเดินหน้าพัฒนาแหล่งพลังงานใต้ทะเลให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจในระยะยาว

นี่คือเรื่องใหญ่ที่สุด เร่งด่วนที่สุด สำคัญที่สุด ที่นายกฯประยุทธ์กับนายกฯฮุน เซน ต้องเปิดอกคุยกัน

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ผู้นำรัฐบาล 2 ประเทศจะหยิบเรื่องพลังงานขึ้นโต๊ะเจรจา ภายใต้ข้อตกลงที่โปร่งใสและเป็นธรรม

เพราะการเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไม่ใช่โอเคกันได้ภายในวันสองวัน หรือภายในเดือนสองเดือน

ต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการทวิภาคีเจรจารายละเอียดเพื่อกำหนดแนวเขตไหล่ทวีปกันอีกนาน

ถ้าใช้สูตรเจรจาร่วมมือพื้นที่ทับซ้อนไทย–มาเลเซียเป็นแนวทาง

กว่าจะลงเอยกันได้ ยังต้องเจรจายืดเยื้อถึง 10 ปี

“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าอีกครั้งว่าพื้นที่ทับซ้อนในทะเลไทย–กัมพูชา 27,000 ตร.กม. ซึ่งเรียกภาษาเทคนิคว่า “พื้นที่บล็อกบี” ผลการสำรวจเบื้องต้นของผู้เชี่ยวชาญธนาคารโลกระบุว่าจะมีแหล่งพลังงานมหาศาลที่จะนำขึ้นมาใช้ประโยชน์ได้ไม่ตํ่ากว่า 50 ปี

...

ถ้าบรรยายให้เห็นภาพชัดๆ ในระบบเอชดี พื้นที่ตรงนี้จะมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาร์เรล

และมีแหล่งก๊าซธรรมชาติอีกกว่า 11 ล้านล้าน ลบ.ฟุต

ถ้าเทียบกับปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ผลิตในอ่าวไทยปัจจุบันพื้นที่ทับซ้อน 27,000 ตร.กม. มี “ของ” เยอะกว่า 200 เท่าตัว

หรือมากกว่าเรามีอยู่ 2,000 เปอร์เซ็นต์

ถือเป็นแหล่งพลังงานที่มีความบ่ะล่ะฮึ่ม ที่สุดอันดับ 3 ของเอเชีย

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าปัญหาใหญ่ที่จะต้องหาข้อยุติคือไทย–กัมพูชา จะตกลงแบ่งผลประโยชน์อย่างไรให้เกิดความยุติธรรม??

ถ้ายึดแนวทางที่รัฐบาลทักษิณเจรจาค้างไว้จะมีสูตรแบ่งประโยชน์เป็น 3 สูตร ดังนี้คือ

1, ถ้าขุดพบแหล่งพลังงานใกล้เขตไทยมากกว่า ไทยได้ส่วนแบ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ กัมพูชาได้ 20 เปอร์เซ็นต์

2, ถ้าขุดพบแหล่งพลังงานใกล้เขตกัมพูชา กัมพูชาได้ส่วนแบ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ ไทยได้ 20 เปอร์เซ็นต์

3, ถ้าขุดพบแหล่งพลังงานตรงกลาง ไทยได้ส่วนแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ กัมพูชารับไป 50 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าการเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนไทย–กัมพูชาจะยากกว่า ยุ่งกว่า ซับซ้อนกว่าไทย–มาเลเซีย

เพราะฝ่ายกัมพูชาเขี้ยวลากดิน อ้างแผนที่ฝรั่งเศสลากเส้นไหล่ทวีปเว้าเข้ามาในอ่าวไทยเยอะเกินควร

แต่ฝ่ายไทยก็ไม่ยอมเสียเปรียบ ลากเส้นไหล่ทวีปเข้าไปคร่อมทับเขตไหล่ทวีปกัมพูชาเต็มเปาเหมือนกัน

เรื่องนี้ต้องยกความดีให้ “อดีตนายกฯบิ๊กจิ๋วหวานเจี๊ยบ” ที่ชิงจังหวะประกาศขยายเขตไหล่ทวีปจาก 12 ไมล์ทะเล เป็น 24 ไมล์ทะเล

เท่ากับไทยขยายเขตแดนทางทะเลออกไปอีกเท่าตัว

ต้อง “เกลือจิ้มเกลือ” แบบนี้

ถึงไม่กำไร ก็ไม่ขาดทุน.


"แม่ลูกจันทร์"