ตร.คุมตัว "สมชาย-พรชนก" ทำแผนฆ่าอดีตสามีชาวญี่ปุ่น หลังให้การยอมรับ ลงมือปี 46 อ้าง เพราะหึงหวง-อยากเป็นเจ้าของกิจการของ นายทานากะ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลอาญาทันที
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 2557 พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สมชาย อินตาพวง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาวน์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย เพียขันธ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ร่วมกันนำตัวนายสมชาย แก้วบางยาง ผู้ต้องหาในคดีฆ่าอาจารย์ญี่ปุ่นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่ม
หลังให้การยอมรับว่า ฆ่านายคัตซึโทชิ ทานากะ สามีคนที่ 2 ของนางพรชนก ไชยะปะ ที่อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 99/427-428 ริมถนนบางนา-ตราด กม.18 ย่านบางพลี ซึ่งเป็นบ้านเช่าและบริษัทขายเครื่องมือการเกษตรของ นายทานากะ ด้วยการผลักตกบันได เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2546
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสมชายลงจากรถตู้ ที่มีสีหน้าอิดโรย มาชี้จุดแรกที่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ ต่อด้วยจุดที่นั่งดื่มสุรากับนายทานากะ และนางพรชนก รวมถึงน้องชายและบิดาของนายสมชายด้วย จากนั้นจึงนำตัวขึ้นไปที่ชั้น 2 ครึ่งของบ้าน โดยนายสมชายให้การหลังแยกย้ายกันพักผ่อน ตนก็นอนอยู่ในห้องกับบิดาและน้องชาย ส่วนนายทานากะนอนอยู่บนชั้น 3 กับนางพรชนก จากนั้นช่วงกลางดึก ตนจึงออกไปนั่งรอนายทานากะ ตรงบันไดทางขึ้นชั้น 3 นายทานากะเดินลงมาเข้าห้องน้ำ จึงเดินตามไปที่ทางลงบันไดระหว่างชั้น 2 กับชั้น 3 ของอาคาร ก่อนใช้ขาขัดเพื่อให้นายทานากะเสียหลักก่อนจะใช้มือผลักที่หลัง เพื่อให้นายทานากะตกบันไดลงอยู่ช่วงกลางระหว่างชั้น 2 กับชั้น 3
...
จากนั้นตนก็ตามลงมา พร้อมกับนำศีรษะของนายทานากะยัดเข้าไประหว่างช่องเหล็กของราวบันไดและกระทืบซ้ำ ที่บริเวณต้นคอ จนนายทานากะหน้าซีดหมดลม เสียชีวิต จึงแกล้งส่งเสียงโวยวายว่า นายทานากะตกบันได แล้วจึงให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านช่วยกันนำนายทานากะส่ง รพ.
นายสมชาย ให้การว่า แรงจูงใจในการฆ่านายทานากะนั้นมาจากความหึงหวง ที่นายทานากะมามีความสัมพันธ์กับนางพรชนก ภรรยาของตน และต้องการครอบครองเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร ที่นายทานากะเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนเงินประกันนั้นตนไม่ทราบว่านายทานากะได้ประกันไว้ และที่สามารถเข้าออกบ้านนี้ได้ โดยนายทานากะไม่สงสัย เพราะนางพรชนกบอกนายทานากะว่าตนเป็นพี่ชาย
ส่วนนางพรชนก ให้การว่า หลังเห็นว่านายทานากะตกบันได จึงได้ให้ทุกคนที่อยู่ในบ้านช่วยกันนำนายทานากะส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ยอมรับว่าร่วมกันก่อเหตุฆ่านายทานากะครั้งนี้ ส่วนเงินประกัน 6 ล้านบาทนั้น ได้แบ่งให้ลูกชาวญี่ปุ่นของนายทานากะไป และตนได้มาส่วนหนึ่ง เมื่อใช้หนี้ต่างๆ ก็เหลือใช้เพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น และระหว่างเดินไปทำแผนตรงจุดที่นายทานากะนอนที่กลางบันได นางพรชนกเกิดเป็นลม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยุติการทำแผนและนำตัวทั้งสอง ส่งฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯ ทันที
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ในช่วงเช้าตำรวจ สภ.บางเสาธง ได้นำตัวนางพรชนกไปทำแผนจุดที่กดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มของ ธ.กรุงเทพ สาขานิคมอุตสาหกรรม (บางพลี เมืองใหม่) ปากซอยนิคมฯ 4 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ด้วย
หลังจากนั้นทางชุดสืบสวน สภ.บางพลี ก็ได้นำตัว นายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม น้องชายนายสมชาย แก้วบางยาง ไปชี้จุดตามคำให้การที่ระบุว่า วันเกิดเหตุ เมื่อปี 2546 ตน นายทานากะ นายสมชาย นางพรชนก และบิดาของตน รวม 5 คน ได้นั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน กระทั่งดึกจึงแยกย้ายกันไปนอน โดยตนนอนอยู่ชั้น 2 กับนายสมชาย และบิดา ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ก็ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันเป็นภาษาญี่ปุ่น ดังมาจากชั้นบน แต่ก็ไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก็เลยเดินขึ้นไปดู ก็เห็นนายทานากะนอนแน่นิ่งอยู่กลางบันได ทางขึ้นชั้น 3 พร้อมทั้งเห็นนายสมชายกับนางพรชนก ยืนอยู่ใกล้กับนายทานากะ ก่อนที่นางพรชนกจะให้ตนช่วยนำร่างส่ง รพ.จุฬารัตน์ 1 แต่แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาก่อนแล้ว หลังจากนั้นนางพรชนกบอกให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ บอกกับตำรวจว่า นายทานากะตกบันไดเสียชีวิต
...
ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับสำนวนการสอบสวนในคดีนี้ ได้มีพยานบุคคลที่ยืนยันการกระทำผิดของผู้ต้องหา มีพยานเอกสาร พยานวัตถุ และคำให้การรับสารภาพของผู้กระทำผิด ทั้งในขณะที่สอบปากคำเป็นพยานได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ว่าได้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และได้รวบรวมหลักฐานที่มีทั้งหมด รวมทั้งพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลักฐานทางกองพิสูจน์หลักฐาน เมื่อมารวมกันแล้วสามารถยืนยันได้ว่า การเกิดเหตุในครั้งนั้นไม่ได้เกิดเหตุจากการตกบันได และผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นก็ได้ให้การเป็นประโยชน์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนำเสนอศาล เพื่อขออนุมัติจับกุมและออกหมายจับ นายสมชาย และนางพรชนก ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน” ซึ่งนายสมชายก็ได้มานำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพแล้ว ส่วนนางพรชนกยังให้การภาคเสธ ส่วนขั้นตอนต่อไป ก็จะรวบรวมพยานเอกสารและพยานวัตถุทั้งหมด สรุปสำนวนเสนออัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป
...
ขณะที่ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า หลังจากนี้ที่บุตรสาวของนายทานากะ มาร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจช่วยรื้อฟื้นคดี ทาง พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงลงมาดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งสั่งการให้ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง รอง ผบก. และตำรวจภูธรบางพลี นำสำนวนชันสูตรพลิกศพเก่าจาก สภ.บางแก้ว มาวิเคราะห์ จนพบพยานเก่า คือ นายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นน้องชายของนายสมชาย ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่ม โดยนายสมศักดิ์ให้การไม่ตรงกับสำนวนเดิม และให้การเป็นประโยชน์มาก เนื่องจากนายสมศักดิ์เองก็มีข้อสงสัยติดใจการตายของนายทานากะตั้งแต่แรก เพราะนายทานากะเป็นคนแข็งแรง ไม่ชอบดื่มเหล้าจนเมา จึงสงสัยว่าไม่น่าจะเมาจนตกบันได แต่เพราะนางพรชนกได้ห้ามไม่ให้พูดในขณะนั้น จึงให้การอีกอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมแจ้งข้อหาทั้ง 2 คน คือ นายสมชายและนางพรชนก ว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จของนางพรชนกนั้น หมดอายุความไปก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งส่งเรื่องขออายัดตัวทั้ง 2 คนด้วย.
...