อีกประมาณ 1 เดือนหลังจากออกพรรษาก็จะเข้าสู่ เทศกาลลอยกระทง ซึ่งจะมีการ รณรงค์มิให้ใช้กระทงที่ทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ เพราะมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์

เนื่องจาก โฟมและพลาสติกที่นิยมใช้กันในหลากหลายรูปแบบ (กระทั่งทำกระทง) สังเคราะห์จากปิโตรเคมี ไม่สามารถย่อยสลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็น 100 ถึง 200 ปี

ปัญหาที่เกิดขึ้นสังคมต่างก็ตระหนัก กันดี นักวิทยาศาสตร์จึงได้คิดค้นสารที่สามารถนำมาทดแทนประโยชน์การใช้งานพลาสติกได้ โดยศักยภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร (สวป.) กรมวิชาการเกษตร มีงานวิจัยหลายชิ้นที่นำ เอาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาประยุกต์ เป็น พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) ซึ่งปัจจุบันได้นำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายและกว้างขวาง เช่น ไหมละลาย สารเคลือบกระดาษ ฟิล์มคลุมดิน ถุงเพาะกล้าไม้ ถุงใส่ของ โฟมเม็ดกันกระแทก และบรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารต่างๆ เป็นต้น

คุณศิริพร เต็งรัง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กลุ่มวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลิตผลเกษตร สวป.บอกถึงงานวิจัยพลาสติกชีวภาพอีกหนึ่งผลงานว่า....

“......เรามองไปที่ทุเรียนด้วยเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีปริมาณการบริโภคสูงทั้งในรูปของผลสดและแปรรูป จึงมีเปลือกถูกทิ้งเป็นขยะจำนวนมาก หากนำมาพัฒนาเป็นพลาสติกชีวภาพ ในเชิงเศรษฐกิจจะสร้างคุณค่าและรายได้ให้กับเกษตรกรไม่น้อย และอาจทดแทนกับผลผลิตที่ราคาตกต่ำในบางช่วงได้อีกด้วย....”

จากการศึกษา วัสดุเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตทุเรียนทอดกรอบ ของ นายลือพงษ์ ลือนาม กับ นายจนูญ เทียมประทีป พบว่า ทุเรียนสด 1 ตัน มีเปลือกสูงถึง 585.60 กก. หรือ 58.60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนนี้จะถูกทิ้งและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำลายด้วย

...

“......เราจึงนำเปลือกทุเรียนมาสกัดเซลลูโลส และ นำเซลลูโลสมาสังเคราะห์ เป็น (Carboxymethyl cellulose, CMC) ซีเอ็มซีเพื่อผลิตเป็นแผ่นฟิล์มพลาสติกชีวภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรแล้ว ยังตอบสนองต่อความต้องการใช้วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต”

หากเกษตรกรสนใจ กระบวนการผลิตเพิ่มเติม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ กลุ่มงานวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลิตผลเกษตร สวป. โทร. 0-2940-5982, 08-4076-2021...เวลาราชการ.

ดอกสะแบง