แล้วในที่สุดศาลจังหวัดหัวหิน ก็มีคำพิพากษาประหารชีวิต นายวันชัย แสงขาว หรือ นายเกม และลงโทษจำคุก 4 ปี นายณัฐกร ชำนาญ หรือ นายหนึ่ง สองคนร้ายในคดีร่วมกันข่มขืนฆ่า เด็กหญิง วัย 13 ปี ก่อเหตุบนขบวนรถไฟ ขบวนที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ เมื่อพบว่าพฤติกรรมคนร้าย ลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม เข้าไปข่มขืนเหยื่อ แล้วโยนศพออกจากหน้าต่างรถไฟ เพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา  

ปฐมบทของเหตุการณ์ครั้งนี้ !?!

เริ่มจากการหายตัวไปอย่างลึกลับของ เด็กหญิง วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีแห่งหนึ่ง ที่เดินทางกลับจากเยี่ยมญาติ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสารรถไฟตู้นอนพัดลม มากับพี่สาวและน้องๆ อีก 2 คน ซึ่งระหว่างเดินทาง จู่ๆ เด็กหญิง วัย 13 ปี ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ญาติตามหาทั่วขบวนรถ ก็ไม่พบ กระทั่งมาพบศพนอนเปลือยกายอยู่ริมป่าหญ้าข้างทางรถไฟ ในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนเช้ามืดของวันที่ 7 กรกฎาคม

...

หลังเกิดเหตุ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเร่งคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด มอบหมายให้ พลตำรวจตรี ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จัดทีมตามจับกุมคนร้าย ซึ่งคดีนี้ตำรวจพยายามเก็บหลักฐานทุกอย่าง เพื่อใช้มัดคนทำผิด โดยพบว่าที่นอนของเด็กหญิง วัย 13 ปี มีสภาพถูกรื้อค้น และที่สำคัญ ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน รวมทั้งกระเป๋าเป้ของเด็กหญิง วัย 13 ปี รวมทั้งโทรศัพท์มือถือไอโฟน ก็สูญหายไป ดังนั้น คนร้ายจะเป็นใครไปเสียมิได้

นอกจากคนในรถไฟขบวนนั้น ???

ในเบื้องแรกตำรวจควบคุมตัวพนักงานประจำขบวนรถ ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย 4 คน เอาไว้สอบปากคำ ซึ่งนายวันชัย ก็เป็น 1 ในจำนวนนั้น ตอนแรก นายวันชัย ยังให้การปฏิเสธทุกข้อหา แต่สุดท้ายก็จนมุมต่อพยานหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักฐานจากกล้องวงจรปิดตอนที่ นายวันชัย นำโทรศัพท์ไอโฟนของเด็กหญิงวัย 13 ไปขาย ที่ร้านโทรศัพท์มือถือในห้างเอดิสัน ศรีย่าน ในราคา 1,800 บาท ซึ่งตำรวจนำมาใช้มัดจนดิ้นไม่หลุด กระทั่งในที่สุด นายวันชัย ก็ยอมเปิดปากสารภาพ ว่าเป็นคนร้ายข่มขืนฆ่าน้องแก้มด้วยน้ำมือตัวเอง โดยมี นายณัฐกร ร่วมรู้เห็นเป็นใจ

ทั้งคู่จึงถูกตั้งข้อหาฉกรรจ์ในทันที !?!

คำสารภาพของนายวันชัย ทำให้สังคมไทยต้องตกตะลึง เมื่อคนร้ายให้การอย่างไม่สะทกสะท้าน โดยสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าที่ซื้อจากแม่ค้า หน้าสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช จนเกิดอารมณ์ กระทั่งมาเจอเด็กหญิง วัย 13 ปี เลยวางแผนข่มขืน ฉวยโอกาสตอนเด็กหญิง วัย 13 ปี นอนหลับ มุดเข้าไปชกต่อยจนสลบแล้วจึงลงมือข่มขืน ก่อนกลัวความผิด จึงอำพรางคดีด้วยการจับร่าง เด็กหญิง วัย 13 ปี โยนทิ้งลงไปข้างทาง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาทรัพย์สินเหยื่อไปขาย จนกระทั่งถูกจับ และนอกจากนี้ นายวันชัย ยังสารภาพด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสารบนโบกี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง และที่สำคัญ ตำรวจยังขยายผลพบว่า นายวันชัย ยังเคยมีประวัติถูกจับคดียาเสพติดเมื่อปี 2552 อีก 1 ข้อหา 

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ กินเวลานานเกือบ 4 เดือน ที่คดีสะเทือนขวัญคดีนี้ กลายเป็นที่จับตา เพื่อดูว่าผลแห่งการกระทำครั้งนี้ จะสนองคืนผู้ต้องหาอย่างไร จนกระทั่งในที่สุด ศาลจึงมีคำสั่งตัดสินประหารชีวิตคนผิดจนได้

...

คนทำผิดย่อมได้รับโทษทัณฑ์ที่ทำไว้