สัตว์มงคลในจินตนาการของจีน มังกร กิเลน เอาอวัยวะของสัตว์อะไรบ้างมาผสมกัน ผมจำไม่ได้สักที เปิดหนังสือกังไส-ลายคราม เจอเรื่องลายกิเลน ม้ามังกร ก็ตั้งใจอ่าน

วรินทราศรมเขียนไว้ว่า มังกรหน้าเป็นวัว เขาเหมือนเขากวาง (ตัดปลาย) ลำตัวเหมือนงู เกล็ดเหมือนปลา ขาเหมือนเหยี่ยว มีเล็บแหลมคมมาก ถ้ามี 5 เล็บ คือสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ

ส่วนกิเลน...หัวเหมือนมังกร แต่มีเขาเขาเดียว ลำตัวเหมือนม้า ขาเหมือนสิงห์ เกล็ดเหมือนปลา หางเหมือนวัว

ถือกันว่าเป็นสัตว์ที่มีความมั่นคง ยืนยง เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่หรือครอบครัว

รู้จักมังกร รู้จักกิเลนของจีนแล้ว ก็น่าจะต้องรู้จักม้ามังกร สัตว์ในจินตนาการของไทยบ้าง

สุนทรภู่ เขียนถึงม้ามังกรไว้ในพระอภัยมณี ทำท่าจะเหมือนกิเลน แต่ไม่เหมือนกิเลนตรงที่เอาหัวมังกรมาทั้งหัว แถมเอาเขามาด้วยอีก 2 เขา ไม่ใช่เขาเดียวกับกิเลน

มีขาแบบม้า ไม่ใช่ขาสิงห์เหมือนกิเลน มีหางเหมือนหางนาค ไม่ใช่หางวัวเหมือนกิเลน

ในพระอภัยมณี สุนทรภู่สร้างตัวละครพิสดารหลากหลาย มีทั้งยักษ์ เงือก พราหมณ์ ฝรั่งลังกา ฯลฯ

นางเงือกคลอดลูก ชื่อสุดสาคร ทิ้งให้พระฤาษีเลี้ยงไว้ที่เกาะแก้วพิสดาร วันหนึ่งสุดสาครก็ไปดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเล เจอสัตว์ประหลาด

“ไปเที่ยวเล่นเห็นอ้ายอะไรมิรู้ ดำทั้งตัวหัวหูมันดูขัน ข้าเข้าจับกลับขบต้องรบกัน แต่กลางวันถึงเดี๋ยวนี้ฉันหนีมา”

พระฤาษีเอง ก็ไม่เคยได้เห็นได้ยินสัตว์แบบนี้มาก่อนเหมือนกัน

“จึงเล็งญาณชาญชิตด้วยฤทธา ก็รู้ว่ามังกรสมจรกัน ครั้นลูกมีที่หางเหมือนอย่างพ่อ ตัวตีนต่อจะเหมือนแม่ช่างแปรผัน หัวเป็นนาคมาข้างพ่อมันต่อพันธุ์...”

นี่แหละม้ามังกรที่ยืนยันว่า สุนทรภู่ไม่ได้สร้างส่งเดช แต่สร้างด้วยความรู้เรื่องจีนจริงๆ

...

“ม้าตัวนี้ดีจ้านเจียวหลานเอ๋ย เป็นกะเทยเขี้ยวเพชรไม่เข็ดขาม จับไว้ขี่มีสง่ากล้าสงคราม จะได้ตามบิตุเรศไปเขตคันธ์”

หลวงตาให้ท้าย สุดสาครก็ต้องไปออกแรงปล้ำ จับม้ามังกรขี่มาให้หลวงตาดูจนได้

“พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พัก หัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์ กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร กินคนกินปูปลาหญ้าใบไม้ มันทำได้หลายเล่ห์ไอ้เดรัจฉาน เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน”

สุดสาคร ลูกกำพร้าน่าสงสาร เกิดมาพ่อก็หนีนางเงือกผู้แม่ไปเสียไกล...ได้ม้ามังกรแล้ว ได้ไม้เท้าวิเศษจากฤาษีแล้ว ก็ออกไปตามหาพ่อ

แต่เด็กมีฤทธิ์เดชอย่างสุดสาคร ก็ยังพลาดท่า ไปถูกชีเปลือยหลอกผลักตกเหว พระฤาษีต้องขี่รุ้งไปช่วย เรื่องพระอภัยมณีตอนนี้ สมัยเรียน ป.4 ผมท่องเป็นอาขยาน

“แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวว่าเลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน มนุษย์นี้มีที่รักสองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้คือกายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา

แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

สุดยอดคำสอนสุนทรภู่ที่คนไทยมากมายรู้ ก็อยู่ที่ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี...นี่เอง

เติบโตมา เอาตัวรอดปลอดภัยมาได้ทุกครั้ง เพราะนึกถึงสุดสาคร ตอนถูกชีเปลือยหลอก...สุดสาครนี่แหละครับ

ไม่ว่ายุคสมัยนั้น อย่าว่าแต่มนุษย์ทั่วไป พระเถร เณรชี ฤาษี ไว้ใจไม่ได้ ยิ่งจำพวกชอบอวดฤทธิ์เดชพิเศษพิสดาร ก็ยิ่งต้องหนีให้ไกลๆ

เรื่องพระหลวงพ่อรู้วันตาย...ชีเปลือยฉบับอนุบาล พวกหลวงปู่ พวกที่คุยว่า เคยไปนั่งบำเพ็ญภาวนากับลามะแถวทิเบต อายุอานามตั้งสอง-สามร้อยปี นี่แหละ ชีเปลือยขั้นมหาวิทยาลัย

หนูๆที่มีฤทธิ์เดชอย่างสุดสาคร ที่ไปหลงกราบหลงไหว้ ระวังตัวกลัวไว้บ้างก็แล้วกัน.

กิเลน ประลองเชิง