วันเสาร์สบายๆวันนี้มาคุยเรื่องของผู้สูงวัยกันอีกทีนะครับ หลังจากที่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผมได้เล่าถึงข้อคิด “การทำชีวิตให้สดใสหลังเกษียณ” เพื่อให้ข้าราชการและพนักงานลูกจ้างทั้งหลายที่กำลังจะถูกปลดระวางได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับชีวิตใหม่

เรื่องราวที่ผมนำมาเล่าวันนี้เกี่ยวกับการหวนนึกมองตัวเองของคนวัยเกษียณ แล้วสะท้อนความรู้สึกออกมาให้ฟัง

ข้อมูลนี้มาจากสำนักข่าว Daily Mail ของอังกฤษ ซึ่งได้ออกไปสัมภาษณ์คนอายุเกิน 60 ปีว่า ในช่วงชีวิตที่ผ่านมารู้สึกเสียใจเสียดายอะไรมากที่สุด และหากย้อนเวลากลับได้จะทำตัวใหม่ให้ต่างจากเดิม

คำตอบที่กลุ่มตัวอย่างตอบกันมากที่สุดมี 7 คำตอบ เรียงตาม ลำดับคำตอบที่ฮิตที่สุดดังนี้

1.ถ้าย้อนเวลากลับได้ จะเชื่อฟังพ่อแม่มากกว่านี้ เพราะพ่อแม่รู้จักเราดีและหวังดีต่อเรา แม้เมื่อเราโตแล้ว สิ่งที่พ่อแม่พูดก็มีค่าควรฟัง

2.จะทำสิ่งที่อยากทำ เพราะเสียดายเวลาและโอกาสมากที่ตอนมีกำลังวังชากลับไม่กล้าทำ เพราะกลัวล้มเหลว พออายุ 60 แล้วถึงตระหนักว่า ความล้มเหลวหนักที่สุดของมนุษย์คือการไม่ได้ทำ

3.การเดินทาง ตอนที่ไปไหนได้คล่อง ดันไม่ไป ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเวลาบ้าง ไม่มีเงินบ้าง แล้วแต่จะอ้าง แต่พอถึงอายุ 60 มีเงิน มีเวลา แต่จะไปไหนๆก็ไม่สะดวกเหมือนก่อนแล้ว ยิ่งแก่ยิ่งไปยาก ใครที่ยังไหวจึงควรไปเที่ยวซะ ยิ่งคนที่ยังหนุ่มสาวยิ่งควรจะไป เพราะคล่องตัวและทำกิจกรรมต่างๆได้ดีกว่าตอนแก่เยอะเลย

4.จะพูดคำว่ารักให้มากขึ้น ไม่ว่าจะบอกรักพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา หลานเหลน โดยเฉพาะลูกและสามีภรรยา บางทีเรานึกเองว่าทำอะไรให้ตั้งเยอะ น่าจะรู้แล้วว่ารัก แต่ที่จริงถ้าไม่เอ่ยคำว่ารัก ก็เหมือนกับหัวใจไม่ยอมเปิด และคนรอบข้างจะขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะลูกน้อยที่พ่อแม่ไม่เคยบอกว่ารัก จะขาดความมั่นใจมากๆ

...

5.จะเป็นตัวของตัวเองมากกว่าที่เคยเป็น ตอนหนุ่มสาว และตอนทำงาน บางทีต้องทำเป็นชอบอะไรตามสมัยให้เหมือนคนอื่น บางทีไม่กล้าแปลกแยก พอแก่แล้วถึงเข้าใจได้ว่า คนเราไม่สามารถเหมือนคนอื่นและเหมือนตัวเองได้พร้อมกัน ยิ่งกว่านั้นเมื่อมองย้อนอดีต จะเห็นชัดเจนว่าคนเงินเดือนสูงและประสบความสำเร็จนั้น มักจะเป็นคนที่ไม่พยายามทำตัวให้เหมือนคนอื่น

6.เปลี่ยนงาน หากงานที่ทำบั่นทอนจิตใจ มันหนักไป ถูกเอาเปรียบมากไป หรือมีปัญหาอื่น คนวัยเกิน 60 บอกว่า นึกไม่ออกว่าทำไมไม่หางานใหม่ ไปทนทำอยู่ทำไม

7.ถ้าย้อนเวลากลับได้ จะกังวลกับเรื่องต่างๆให้น้อยลง เพราะที่ผ่านมามัวไปกังวลเรื่องบ้าบอคอแตกมากมายโดยไม่เกิดผลอะไรเลย แล้วทุกเรื่องก็จบลงโดยที่ไม่ได้ดีหรือเลวกว่าเดิม เสียสมองกับเรื่องกังวลเปล่าๆ

นี่คือเสียงสะท้อนของคนที่อายุเกิน 60 ปีไปแล้ว กลั่นมาจากประสบการณ์ชีวิตทั้งสิ้น ผมเห็นว่าจะเกิดประโยชน์อย่างมากกับคนที่อายุยังไม่ถึง 60 ปี จึงนำมาเผยแพร่ต่ออีกทางหนึ่ง แล้วแต่ใครจะนำไป ปรับใช้กับชีวิตตัวเอง

นอกจากนี้ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่มีช่วงอายุต่างกัน เมื่ออ่านคำตอบทั้ง 7 ข้อนี้แล้วจะเกิดความรู้สึกที่แตกต่างกัน ถ้าไม่เชื่อก็ลองนึกภาพตัวเองย้อนหลังไป 10 ปี หากอ่านคำตอบชุดนี้แล้วจะมีมุมมองต่างกับตัวเองในปัจจุบันอย่างแน่นอน และบางท่านอาจนึกเสียดายเมื่อ 10 ปีก่อนไม่น่าทำหรือไม่น่าคิดอย่างนั้นเลย

ฉะนั้นอย่ารอจนอายุ 60 ปีแล้วต้องมานั่งเสียใจเสียดายกับอดีตเลยครับ สายน้ำไม่ไหลกลับ เวลาไม่หวนคืน เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นเสียแต่วันนี้เถอะ.

ลมกรด