เมื่อ 6 ก.ค. สำนักงานอัยการรัฐซานลุยส์โปโตซี ตอนกลางของเม็กซิโก แถลงข่าวการจับกุมและการตั้งข้อหาลักพาตัว ข่มขืน และฆาตกรรม แก่นายฟิลิแบร์โต เฮอร์นานเดซ มาร์ติเนซ ชาวเม็กซิกัน อายุ 43 ปี ครูผู้สอนศิลปะการป้องกันตัว “คาราเต้” และการเต้นซุมบ้า ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเหยื่อเพศหญิงอย่างน้อย 5 ราย ทั้งที่ยังเป็นเยาวชนและผู้ใหญ่ ช่วงปี 2553-2557 โดยก่อเหตุครั้งล่าสุดในเดือน เม.ย.และ พ.ค. ในเมืองทามูอิน ทางตะวันออก เฉียงใต้ของรัฐซานลุยส์ฯ โดยคดีฆาตกรรมต่อเนื่องครั้งนี้เป็นคดีร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในรัฐซานลุยส์ฯด้วย

นายมาร์ติเนซ ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. และรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือลักพาตัว ข่มขืน และฆาตกรรมเหยื่ออย่างน้อย 5 ราย ประกอบด้วย ด.ญ.ดัลเซ ฮิเมนา เรเยส อายุ 9 ขวบ ซึ่งผู้ปกครองเข้าแจ้งความว่าหายตัวไปเมื่อเดือน เม.ย. และ น.ส.เอลิโฮไน ชาเวซ อายุ 32 ปี พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในเมืองทามูอิน ซึ่งหายตัวไประหว่างเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงานเมื่อเดือน พ.ค.นายมาร์ติเนซยังได้ให้ปากคำถึงพิกัดสถานที่ซ่อนศพเหยื่อ เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบก็ได้พบศพเหยื่อทั้ง 2 รายจริง


เหยื่ออีก 3 ราย ได้แก่ ด.ญ.เอเดรียน่า มาร์– ติเนซ อายุ 13 ปี ถูกลักพาตัวขณะกลับบ้านหลังเลิกเรียน และถูกพบเป็นศพตั้งแต่ปี 2554 แต่หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้จนกระทั่งนายมาร์ติเนซ รับสารภาพ ขณะที่เหยื่ออีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.โรซ่า มาเรีย ซานเชซ วัยรุ่นอายุ 16 ปี หายตัวไปตั้งแต่ปี 2553 และ ด.ญ.อิตเซล คาสติลโล อายุ 12 ปี หายตัวไปเมื่อปี 2553 ยังหาตัวไม่พบทั้งคู่ แต่มาร์ติเนซระบุว่าศพเหยื่อทั้ง 2 ราย อยู่ไม่ไกลจากจุดพบศพเหยื่อรายล่าสุดที่ถูกลักพาตัวไปช่วงต้นปี 2557 ตำรวจกำลังเร่งค้นหาร่างเหยื่อทั้งคู่ ทั้งยังจะสอบสวนเพิ่มเติมด้วยว่านายมาร์ติเนซเกี่ยวพันกับการหายตัวไปของสตรีและเยาวชนหญิงรายอื่นๆ ในเม็กซิโกอีกหรือไม่

...

นอกจากนี้ สื่อในเม็กซิโกรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งนายเฟลิเป คัลเดรอน อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศสงครามกวาดล้างแก๊งค้ายาเสพติด มีชาวเม็กซิกันเสียชีวิตกว่า 85,000 ราย ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตในคดีฆาตกรรมทั่วเม็กซิโกช่วงปี 2550-2555 เพิ่มขึ้นถึง 112% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสงครามกวาดล้างยาเสพติดของนายคัลเดรอน และสถิติผู้หญิงถูกฆาตกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยในปี 2555 มีสตรีเม็กซิกันถูกฆาตกรรม 2,764 ราย.