“...ปีนี้ให้ฉันเปิดห้องสมุดฯ ปีต่อไปจะให้ฉันทำอะไรอีก...”
เป็นกระแสรับสั่งของ สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสัพยอก เจ้าอาวาสวัดพระยาสุเรนทร์ ขณะเสด็จฯเป็นองค์ประธานเปิด อาคารห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติฯ ในปริมณฑลวัดพระยาสุเรนทร์ เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2555...
O O O
วัดพระยาสุเรนทร์ 195 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. เป็น วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นบนพื้นที่ของ พันตรีพระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) แห่งปี 2341 ซึ่งจับจองตามศักดินา 48 ไร่...เพื่อ สืบพุทธศาสน์

ล่วงถึง...25 เมษายน 2425 เหล่าทายาทตระกูล “สิงหเสนี” จึงได้สืบทอดเจตนารมณ์ ปักหมุดตอกเสาเข็มวางศิลาฤกษ์เริ่มสร้างวัดขึ้น กระทั่งแล้วเสร็จเรียบร้อยมีสถานที่ประกอบศาสนกิจครบใช้เวลาราว 5 ปี จึงได้ ทูลถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว...ด้วยความจงรักภักดี
ถึง...วันพุธ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด พ.ศ.2431 พระพุทธเจ้าหลวง จึงพระราชทานวิสุงคามสีมานาม...วัดพระยาสุเรนทร์
...
O O O
จากวันนั้นถึงวันนี้...เป็นเวลา 126 ปี วัดพระยาสุเรนทร์ มีเจ้าอาวาสมากี่รูปมิได้มีการยืนยัน เพียงแต่เล่าขานกันจากปากต่อปากของผู้เฒ่าผู้แก่ว่ามีใครบ้างเท่านั้นเอง
ที่...มีการบันทึกเป็นหลักฐานตั้งแต่ปี 2455 เป็นต้นมา เริ่มจาก พระครูอุดมพิริยคุณ (กล่ำ อุกกโม) เป็นเจ้าอาวาสดูแลวัดแห่งนี้มานานเกือบครึ่งศตวรรษ (40 กว่าปี...มรณภาพเมื่อปี 2502 สิริอายุ 73 ปี 53 พรรษา) และครองตำแหน่งเป็น เจ้าคณะตำบลสามวาตะวันตก ควบคู่ไปด้วย

หลวงปู่กล่ำ ...เป็น อริยสงฆ์ผู้เรืองเวท รูปหนึ่งแห่งซีกตะวัน ออกเมืองบางกอก ผู้ทรงวิชาอาคมเข้มขลัง มีศิษยานุศิษย์มากมายหลายรุ่นโดยเลื่อมใสศรัทธาสมัครเป็นศิษย์กันจากพ่อยันลูก...
...แม้ปัจจุบันจะ ละสังขารไปแล้วความศรัทธาก็ยังไม่คลาย...!!
O O O
เจ้าอาวาสรูปต่อมาคือ...พระอธิการดวง อัคคปัญโญ (ดวง สิงหเสนี) ถือว่าเป็น สายตรงของตระกูลสิงหเสนี เข้าสู่เพศบรรพชิตเพื่อสืบสานเจตนาของบรรพชนในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเป็นสงฆ์ที่ ได้รับความศรัทธาเลื่อมใส แต่คนละรูปแบบกับหลวงปู่กล่ำผู้เป็นอุปัชฌาย์ เพราะเป็นนักพัฒนาศาสนสถาน

...เป็นเจ้าอาวาสนานถึง 43 ปี มรณภาพเมื่อ 2545 สิริอายุ 82 ปี 57 พรรษา...
อีกรูปคือ พระอธิการบัว ธัมมวโร เป็นคนพื้นเพคลองสามวาและอุปสมบทที่วัดพระยาสุเรนทร์ เป็นศิษย์ผู้น้องพระอธิการดวงโดยอุปัชฌาย์ มรณภาพในปี 2547
O O O
เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน...พระครูปลัดสุวัฒนสุตคุณ “โสภณ โสภโณ” อายุ 49 ปี 20 พรรษา สืบสายสิงหเสนีโดยทางมารดา ซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้องของพระอธิการดวง...มาสานต่อปฏิปทาบุญของตระกูลต่อจากลุง
หลังจบปริญญาตรีเข้าทำงานในกระทรวงเกษตรฯระยะหนึ่ง ถึง ปี 2536 จึงเข้าสู่อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดพระยาสุเรนทร์ โดยพระอธิการบัวเป็นกรรมวาจารย์
เจ้าอาวาสรูปนี้...ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านในย่านคลองสามวาไม่แพ้อดีตเจ้า อาวาสรูปก่อนๆ ด้วยเป็นแกนนำในการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษาให้กับชุมชน โดยเน้นให้เป็นรูปธรรมทั้งในและนอกวัดอย่างเด่นชัด ซึ่งมีหลาก หลายโครงการเชื่อมโยงและต่อเนื่อง
O O O
หลังสร้างหอสมุดฯ...ให้ชุมชนได้ใช้ค้นคว้าหาความรู้แล้วเสร็จ ก็จะสร้างอาคารห้องประชุมใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรม ขึ้นทางด้านหลังกว้าง 40 เมตร ยาว 68 เมตร โดย พื้นบนสุดหรือหลังคา เป็นรูปองค์ลอยของหลวงปู่ทวดนั่งบนเรือกอและ โดยมีน้ำล้อมรอบ หน้า ตักกว้าง 16 เมตร และสูง 32 เมตร
...

พระปลัดศุภกร ปิยธัมโม เลขาฯเจ้าอาวาส พูดถึงอาคารหลังนี้ว่าเกิด...จาก
ครั้งหนึ่ง...พระครูโสภณขณะนั่งสมาธินั้นได้เห็นภิกษุชราท่านหนึ่งพายเรือมาบอกว่าที่วัดมีคลองที่ต้นตระกูลได้ขุดไว้ ให้สร้างเราไว้ใกล้ๆ ผู้คนที่มาค้าขายจะได้ร่ำรวยร่มเย็นเป็นสุข...
...ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นใคร รับปากแล้วก็มิได้ใส่ใจ กระทั่งสร้างตลาดน้ำหลังวัดแล้วเสร็จ วันหนึ่งขณะกำลังสวดมนต์ทำวัตรก็มีเสียงแว่วเข้าหูทวงถามว่า...บอกจะสร้างเราแล้วทำไมไม่ทำ
ด้วยประสาทสัมผัสที่ 6...จึงรู้ว่าเสียงศักดิ์สิทธิ์และมีพลังคือ...หลวงปู่ทวด...!!
O O O
พระปลัดเลขาฯ...ยังเล่าต่อว่า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านเจ้าอาวาสมิเผยกับผู้อื่นด้วยเป็นสงฆ์มีกิจพัฒนาด้านศึกษาวิชาการ เกรงจะเกิดโลกวัชชะและถูกหาว่างมงายแต่ก็มิได้ลบหลู่...จึงสนองเจตนาเบื้องบน

...
ขณะตั้งโครงการแต่ยังมิได้ลงมือ ก็มีบริจาคปัจจัยมากบ้างน้อยบ้างรวมพลังศรัทธา ท่านเจ้าอาวาสก็มีจิตจะตอบแทนผู้ปรารถนาดีทั้งหลาย โดยสร้างเหรียญหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ทวดบูชา สมนาคุณแก่ผู้เลื่อมใสและตั้งใจร่วมกิจกุศลครั้งนี้ เพื่อให้ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังจึงเปิดตำราของหลวงปู่กล่ำดำเนินการทุกขั้นตอน
O O O
โดย...จัดพิธีพุทธาภิเษกตามต้นฉบับเดิม 3 วาระ ครั้งแรกผ่านไปแล้ว 28 มิถุนายนนี้เป็นวาระที่ 2 จัด ณ มณฑลพิธีวัดโมลีนิมิตร ปัตตานี อันเป็นดินแดนหลวงปู่ทวด
ครั้งต่อไปจะจัด ณ มณฑลพิธีกลางแม่น้ำ แล้วเสร็จครบสูตรตามตำราจึงจะจ่ายแจก...
ส่วน...จะมีพลังศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ก็ ขึ้นอยู่กับแรงศรัทธา และ ตำราหลวงปู่กล่ำ...ว่าจะ ยังคงเข้มขลังหรือไม่...!!
ก้อง กังฟู