สรุปงานไปทีละจ๊อบ

การประชุม คสช. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช. มอบหมายให้ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. เลขาธิการ คสช. เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆของ คสช.

ไฮไลต์อยู่ที่การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ รถแท็กซี่ ที่บิ๊กทหารจากหน่วยต่างๆ โหมบิ๊กคลีนนิ่งกันมาตลอดสัปดาห์ ขีดเส้น 5 วันต้องเป็นรูปธรรม ยกเครื่องสารพัดวิน

ปั่นคิวล้างบางมาเฟีย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า “บิ๊กตู่” ให้ความสนใจแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนต่างๆ หากเรื่องใดมีผลกระทบวงกว้างให้รีบเคลียร์กับสังคม โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายที่ย้ำมาก่อนหน้านี้หลายรอบ สั่งกระทรวงพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ให้กระทบปากท้องประชาชน

คิวบังคับ “ตรึงแต้ม” บริหารประเทศช่วงเวลาพิเศษ

ขณะที่อีกหนึ่งน้องรักของหัวหน้า คสช. “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.

ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานประชุม สรุปงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด

หลังจากก่อนหน้านี้ทยอยมอบนโยบายหน่วยงานในฝ่ายกฎหมายฯ ทั้งกรมราชทัณฑ์ ดีเอสไอ ปปง. ป.ป.ส. ฯลฯ ที่เป็นไฮไลต์ในคิวประชุมร่วมกับ ปปง. สถาบันการเงิน ธนาคารต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจการปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

โดยขอความร่วมมือตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ป้องกันปัญหาการฟอกเงิน และการทุจริตคอร์รัปชัน

ที่ฮือฮา “บิ๊กต๊อก” ขู่ใช้ยาแรง มาตรการเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรกันใหม่

ล้างเล่ห์ขบวนการ “ซุกเงิน”

โดย พล.อ.ไพบูลย์อ้างว่า ได้ไอเดียช่วงหลังจากที่ คสช.เข้าควบคุมอำนาจ ได้ตรวจสอบบ้านพักของบุคคลหลายแห่งและพบกระเป๋าเปล่า 40 ใบ หากใช้เก็บเงินสดจะเก็บได้ใบละ 5 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท

...

ทั้งนี้ พล.อ.ไพบูลย์ถือเป็นอีกนายทหารมือทำงานคนสำคัญของ คสช.ที่ “บิ๊กตู่” ยังมอบหมายงานเฉพาะกิจให้อีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการพูดคุยกับบิ๊กการเมือง แกนนำมวลชน รับฟังข้อมูลแนวทางการบริหาร และปฏิรูปประเทศ

โชว์ผลงานเด่นในรอบสัปดาห์ ตีคู่กันมากับ “บิ๊กโด่ง”

สอดคล้องกับภาวการณ์ที่ทั้งคู่ถูกจับโฟกัส โดยเฉพาะในห้วงการบริหารประเทศช่วงเฉพาะกิจ ตามโปรแกรมที่ คสช.วางไว้ ก.ย.-ต.ค.จะมี ครม. เข้าบริหารประเทศ กับอนาคตที่ “บิ๊กตู่” ยังอุบไต๋

โจทย์ที่วางไว้ ต้อง “ทำงานให้เสร็จ”

หลังจากใช้อำนาจนายกฯ บริหารประเทศในช่วงนี้แล้วหาก “บิ๊กตู่” ตัดสินใจขยับเป็น “ตัวจริง” เอง ก็คงต้องมีคนที่ไว้วางใจ รับไม้ต่อคุมกองทัพเป็น “เปลือกหอย” คอยแบ็กอัพให้ 2 บิ๊กทหาร “บูรพา-เทวัญ” หลอมรวมเป็นกำลังหลักตามแนวทางหัวหน้า คสช. “ประเทศชาติมาก่อน”

ต่างลุ้นโชว์ฟอร์มให้เข้าตา “บิ๊กตู่”

แต่ที่เป็นอีกงานด่วนเฉพาะหน้าของ คสช. คือการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมไปสู่การปฏิรูปประเทศ โจทย์ใหญ่ที่ คสช.วางไว้ คืบหน้าไปตามลำดับ

ล่าสุด พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน. สรุปการดำเนินงานของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ฯ (ศปป.) โดยระบุว่า ขณะนี้ตั้ง ศปป.จังหวัดครบทุกจังหวัด โดยได้จัดกิจกรรมแล้ว 696 กิจกรรมใน 668 อำเภอ จัดเสวนา 130 เวที

และจัดให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูผู้ นำทางความคิดที่เคยเห็นต่างรวม 150 ฉบับ

ขณะที่มีสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทย นอกจากนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่หลบหนีไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ได้ส่งจดหมายยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค

ถอดคีย์แมนฮาร์ดคอร์ ผ่อนแรงต้านดีกรีร้อน

ล่าสุด พรรคเพื่อไทยยังส่งตัวแทนไปร่วมหารือและให้คำปรึกษาด้านการปฏิรูปประเทศ ตามคำเชิญของคณะทำงานด้านการปฏิรูปฯ

เปิดทางให้ คสช.ได้โชว์ฝีมือเต็มๆ.

ทีมข่าวการเมือง