ท่าอากาศยานนานาชาติในนครการาจี เปิดให้บริการตามปกติแล้วเมื่อคืนวันจันทร์ หลังถูกกลุ่มติดอาวุธบุกยึดอาคารผู้โดยสารในวันอาทิตย์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า ท่าอากาศยานนานาชาติ 'จินนาห์' ในนครการาจี เปิดให้บริการตามปกติแล้ว เมื่อคืนวันจันทร์ (9 มิ.ย.) ที่ผ่านมา หลังจากถูกนักรบกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันบุกยึดอาคารผู้โดยสารของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานแห่งนี้ และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงนานนับสิบชั่วโมง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย รวมทั้งผู้ก่อเหตุด้วย

ขณะเดียวกัน นายอาซิฟ คีร์มานี เลขาธิการของนายกรัฐมนตรี นาวาซ ชาริฟ ออกมาชื่นชนการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังความมั่นคง และระบุว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ การโจมตีที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จินนาห์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:00 น. วันอาทิตย์ (ตามเวลาท้องถิ่น) กลุ่มติดอาวุธ 2 กลุ่มกลุ่มละ 5 คน พร้อมอาวุธหนักครบมือทั้งปืน, ระเบิด, เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี ลอบเข้าไปในพื้นที่ของสนามบินโดยเชื่อว่าใช้บัตรแสดงตัวปลอม แต่บางรายงานระบุว่าพวกเขาตัดรั้วลวดหนามของสนามบินเข้าไป ก่อนที่พวกเขาจะปาระเบิดและยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอาคารผู้โดยสารเก่า ซึ่งถูกใช้เพื่อเก็บสินค้า ทำให้สนามบินถูกปิด ผู้โดยสารถูกอพยพ และเที่ยวบินต่างๆ ถูกเปลี่ยนเส้นทางไม่ให้มาสนามบินแห่งนี้

ต่อมาไม่นาน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงก็ถูกส่งมาเสริมกำลังให้แก่เจ้าหน้าที่ที่สนามบิน และเกิดการต่อสู้อย่างรุนแรง โดยการยิงปะทะกันตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงช่วงรุ่งเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่สังหารกลุ่มติดอาวุธไป 7 ราย ส่วนอีก 3 คนที่เหลือจุดระเบิดฆ่าตัวตาย เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 18 ราย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากกองกำลังความมั่นคงอากาศยาน (เอเอสเอฟ) ก่อนที่สำนักงานการบินพลเรือนจะยืนยันว่า พบศพผู้เสียชีวิตอีก 2 คนภายในอาคารผู้โดยสารที่เกิดเหตุ

...

หลังเกิดเหตุ นายชาฮิดุลเลาะห์ ชาฮิด โฆษกกลุ่ม 'เตห์รีค-อี-ตาลีบัน ปากีสถาน' หรือกลุ่มตาลีบันในปากีสถาน ออกมาอ้างว่ากลุ่มของเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จินนาห์ ซึ่งพวกเขาตั้งใจจะไฮแจ็คเครื่องบินแต่ล้มเหลว และว่านี่ถือเป็นการส่งข้อความถึงรัฐบาลปากีสถาน ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เพื่อตอบโต้ต่อการทิ้งระเบิดเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ในหมู่บ้านของพวกเขา.