คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2557
เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม

ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2577 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัว นั้น เนื่องจากปรากฎว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางรายฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับมิให้บุคคลทั้ง 2 กระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการ หรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้
ข้อ 1. ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคาร ตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการ ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อ หรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลก หรือ ตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
1. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
2. นายจาตุรนต์ ฉายแสง
ข้อ 2. ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจดังกล่าว แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. จนถึงวันที่ 24 พ.ค. 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
ข้อ 3. ขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้ง 2 เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี และให้บุคคลทั้ง 2 พร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ดังกล่าวยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำ เพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ข้อ 4. ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

...

สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2557

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ