จำได้มั้ยครับ! ช่วงหลังปีใหม่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ประมุขฟุตบอลไทย เคยประกาศให้ปี พ.ศ.2557 เป็นปีของ “ฟุตบอลหญิง & ฟุตบอลเยาวชน” โดยตั้งเป้าหมายให้แข้งสาวและแข้งบอลเด็กทีมชาติไทยตีตั๋วไปลุยรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลกให้ได้

เรื่องของทีมบอลหญิง วันก่อน “จ๊อกกิ้งบอย” คู่ซี้ของผมบรรเลงใน “เรียงหน้าชน” ไปแล้ว วันนี้มาว่ากันถึงเรื่องฟุตบอลเยาวชนกันบ้าง เริ่มจากทีมเยาวชนไทย อายุ 19 ปี ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยเรียกเยาวชนกันแล้ว เพราะถือเป็นรุ่นอายุที่โตเทียบเท่ากับบอลผู้ใหญ่

สำหรับแข้งทีมชาติไทย ยู 19 ปี มีภารกิจสำคัญในการเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอล 19 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่จะระเบิดแข้งกันที่ประเทศเมียนมาร์ ระหว่าง 9–23 ต.ค. เพื่อคัด 4 ตัวแทนทวีปเอเชียไปบู๊ศึกฟุตบอลโลก อายุ 20 ปี ในปีหน้า ที่นิวซีแลนด์

“นายกยี” มอบหมายทีมช้างศึกชุดนี้ให้ “เสี่ยเปี๊ยก” สมศักดิ์ ศิริธรรม อดีตประธานสโมสร “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ดูแลในฐานะผู้จัดการทีม และแต่งตั้งให้กุนซือคนดัง อย่าง “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ รับบทเฮดโค้ช

ภารกิจนี้ถือเป็นงานท้าทายสุดๆของ “โค้ชเตี้ย” ผู้ที่ถูกแฟนบอลขนานนามให้เป็น “มูรินโญเมืองไทย” เพราะถ้าทำทีมประสบความสำเร็จได้เข้าบอลโลก เจ้าตัวก็จะกลายเป็นกุนซือประวัติศาสตร์ไปในทันที

ตรงข้ามกันหากล้มเหลวตกรอบกลับมา ก็จะไม่มีใครจดจำ มีแต่ “กองซ้ำ” ที่รอสมน้ำหน้าโค้ชสะสม ที่เปรียบเสมือน “ทุเรียน” ของวงการ คนชอบก็เยอะ หมั่นไส้ก็แยะ ซึ่งผมว่า “เดอะเตี้ย” น่าจะรู้ตัวดี!

อีกทีมคือ เยาวชนไทย อายุ 16 ปี ซึ่งรุ่นนี้เราเคยประกาศศักดาไปชูธงในฟุตบอล 17 ปีชิงแชมป์โลก มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 1997 ที่อียิปต์ และ 1999 ที่นิวซีแลนด์

...

แต่ยุคนั้นก็อย่างที่รู้กัน เรื่องของ “อายุ” นักเตะแต่ละชาติในเอเชีย ถือเป็นเรื่อง “สนธยา” ที่ยากแก่การตรวจสอบ ดังนั้นหลายๆประเทศ (รวมทั้งไทยเราด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้!) จึงอาศัยมายากลบันดาลให้ผู้เล่นอายุลดน้อยถอยลงกว่าอายุจริง หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า “เด็กดอง” อะไรประมาณนั้น

หลังเอเอฟซีเข้มงวดเรื่องของอายุ จนทำให้สิ้นยุค “เด็กดอง” ทีมเยาวชนไทยของเราก็ยังไม่เคยได้สัมผัส หรือใกล้เคียงกับคำว่าบอลโลกอีกเลยนับจากนั้น

จนถึงปีนี้ที่ไทยได้รับหน้าเสื่อให้เป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลเยาวชน 16 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2014 รอบสุดท้าย ระหว่าง 6-20 ก.ย.ซึ่งจะคัดเอา 4 ทีมตัวแทนเอเชีย ไปฟุตบอลเยาวชนโลก 17 ปี ที่ชิลี ในปี 2015

วันก่อนมีการจับสลากแบ่งสายกันไปแล้ว ซึ่งไอ้หนูนักเตะไทยจับติ้วไปอยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ เกาหลีใต้, โอมาน และมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นสายที่หนักเอาการ

ทีมเยาวชนไทยชุดนี้ มี “โค้ชดู๊ด” อดุลย์ รุ่งเรือง เป็นกุนซือใหญ่ ร่วมด้วยทีมงานสตาฟฟ์ อย่าง “โค้ชเหนียว” วัชรกร อันทะ-กำภู และสันติ ทรงเต๊ะ ส่วน ผจก.ทีมยังคงเป็น “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช เหมือนเดิม

ด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่ไฟแรงบวกกับความได้เปรียบในฐานะเจ้าภาพ ผมเชื่อว่าโอกาสลุ้นไปฟุตบอลเยาวชนโลกเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของเด็กไทยในรุ่นนี้

มีสูงเลยล่ะครับ!!!

บี บางปะกง