เดินหน้าทยอยเก็บโควตาไปเข้าร่วมมหกรรมยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 วันที่ 16-24 ส.ค.นี้ ที่หนานจิงของจีน ได้ต่อเนื่อง สำหรับนักกีฬาดาวรุ่งทีมชาติไทย โดยล่าสุดเป็นเทควันโด ที่ได้สิทธิ์มาอีก 2 คน ทำให้ในเวลานี้ ทัพไทยได้โควตาไปหนานจิงเกมส์ 2014 แล้วรวม 12 คน จากที่ก่อนหน้านี้ ยกน้ำหนักได้มา 3 คน เทเบิลเทนนิส 2 คน วินด์เซิร์ฟ 2 คน เรือใบ 2 คน และยิงปืน 1 คน

และช่วงจากนี้ไป เชื่อว่านักกีฬาดาวรุ่งของไทยจะค่อยๆเก็บโควตาในกีฬาต่างๆได้อีก

สำหรับโควตาของเทควันโด ที่ได้สิทธิ์มาอีก 2 คนนั้น ในวันนี้ “ฮอตสปอร์ต” จะพาไปรู้จักกับจอมเตะดาวรุ่งทั้งคู่ว่าเป็นมาอย่างไร เส้นทางกว่าที่จะทำสำเร็จ รวมถึงเป้าหมายในยูธโอลิมปิกรอบสุดท้ายว่ามีความหวังเช่นไร และผู้บริหารสมาคมเทควันโดคาดหวังมากน้อยแค่ไหนกับการแข่งขันครั้งนี้


ในรอบคัดเลือก ยูธโอลิมปิก เมื่อวันที่ 20-21 มี.ค. ที่ไต้หวัน มีจอมเตะจากทั่วโลกเกือบ 100 ชาติ มาประชันฝีเท้า แต่ละรุ่นจะคัดนักกีฬาที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คน ไปแข่งขันที่จีน ไทยส่งไปชิงชัย 6 คน ก่อนจะทำได้สำเร็จ 2 คน

เริ่มจาก “เจ้าเทม” เทวินทร์ หาญปราบ รุ่น 48 กก.ชาย ไม่เพียงจะผ่านเข้ารอบ 8 คน แต่จอมเตะหนุ่มวัย 15 ปีรายนี้ ยังคว้าแชมป์มาครอง จากที่รอบชิงฯ พิชิตแจ็ค วูดลี่ จากอิหร่าน เช่นเดียวกับ “น้องนิด” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 44 กก.หญิง ไม่ใช่แค่เข้ารอบ 8 คน สาวน้อยวัย 16 ปี ยังชนะเบนด้า ลัว จากเม็กซิโก ในรอบชิงฯ ซิวเหรียญทองมาครองได้เหมือนกัน

รายของเทวินทร์เป็นชาวปทุมธานี เริ่มเล่นเทควันโดมาตั้งแต่ 7 ปี เจ้าตัวเล่าว่าเล่นเพราะความสนุก จากนั้นมาเริ่มฝึกอย่างจริงจังที่ยิมทวีศิลป์ ก่อนแข่งขันเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ปี 2548 ซึ่งครั้งนั้นเริ่มต้นได้ดีด้วยการคว้าเหรียญทอง จากนั้นถูกดึงตัวมาติดทีมชาติ ปี 2556 ไปทำศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่อินโดนีเซีย ปีเดียวกัน แต่ไปแพ้ในรอบรองฯ จากนั้นก็ฝึกซ้อมในทีมชาติเรื่อยมา ก่อนจะได้ไปคัดเลือกยูธโอลิมปิก

“ตอนแรกหวังแค่ติดรอบ  8  คน  แต่ทำได้ถึงเหรียญทอง ถือว่าเกินคาด เวลาที่เหลือจากนี้ จะต้องเสริมในส่วนของร่างกายให้แข็งแกร่งและเพิ่มเทคนิค ส่วนคู่แข่งสำคัญเป็นไต้หวันและอิหร่าน ซึ่งผมหวังว่าในรอบสุดท้ายจะมีลุ้นติด
1 ใน 3” เจ้าเทมกล่าว

...


ขณะที่พาณิภัคเริ่มเล่นเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ปี ตอนแรกเล่นสนุกๆกับพี่ชายเท่านั้น จากนั้นก็มาเริ่มเอาจริงกับยิมตาปีเทควันโดที่สุราษฎร์ธานี บ้านเกิด  เจ้าตัวกล่าวว่า  ติดทีมชาติครั้งแรก  ปี  2554 ไปแข่งรายการโคเรียโอเพ่น  ก็ได้เหรียญทอง  ถัดมาอีก 2 ปี เยาวชนเอเชีย ได้เหรียญทองอีกครั้ง แต่กับการขึ้นไปเล่นซีเกมส์ที่พม่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ยังรู้สึกเสียดายไม่หายที่ได้เพียงเหรียญเงิน  จึงตั้งเป้าแก้ตัวให้ได้ในการคัดเลือกยูธโอลิมปิก

“ตอนรู้ว่าได้โควตาแล้ว  ดีใจมาก  หายเหนื่อย สิ่งที่ต้องปรับคงเป็นเรื่องกำลังขาและอีกหลายจุด เพื่อสู้กับคู่แข่งสำคัญอย่างไต้หวัน  และอังกฤษ  ที่จะรออยู่ในรอบสุดท้าย ซึ่งขอลุ้นติด 1 ใน 3 ให้ได้เช่นกัน” พาณิภัคกล่าว

ส่วน  ผศ.พิมล  ศรีวิกรม์  นายกสมาคมเท-ควันโดฯ  กล่าวว่า  การได้โควตามา  2  คน เป็นไปตามเป้า นักกีฬาทั้งคู่มีวินัย และความตั้งใจที่ดีเป็นทุน  รวมทั้งความเข้าใจเกมก็ดีเช่นกัน  มีอาวุธที่คม  มีความดุดันที่มาก  จึงเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก  เพียงแต่ในช่วงเวลาที่เหลือต้องทุ่มเท มุ่งมั่นฝึกซ้อมให้หนักกว่าเดิม

“คู่แข่งในรอบสุดท้าย เป็นไต้หวัน เพราะไต้หวันมีแนวทางพัฒนากีฬาที่เป็นความหวังของเขาอย่างจริงจัง  ทราบมาว่าเฉพาะเทควันโดอย่างเดียว ใช้งบกว่า  100  ล้านบาท  ถือว่าน่ากลัวมาก  จะประมาทไม่ได้” ผศ.พิมลกล่าว

ต้องติดตามกันให้ดีว่าสุดท้ายแล้ว  เทควันโด ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอยู่ตลอด  จะทำผลงานในรอบสุดท้ายยูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ได้ดีแค่ไหน หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในครั้งแรกที่สิงคโปร์ “น้องจูน” ภัคภา  (วรวงษ์)  พงษ์พานิช ได้โควตาเพียงคนเดียวและก้าวไปคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ...

กัญจน์ ศิริวุฒิ