"ทีมข่าวบันเทิง ไทยรัฐออนไลน์" เปิดใจพระเอกดัง "เจมส์-จิรายุ" และ "ปิ๊ก-ฌาณฉลาด" ถึงการจัดแฟนมีตติ้งครั้งแรกที่มีกระแสวิจารณ์กระหน่ำ พร้อมนำภาพบรรยากาศซ้อมร้องซ้อมเต้นของพระเอกดังเอาใจแฟนคลับ...

โด่งดังเป็นพลุแตกเพียงชั่วข้ามคืนจากซีรีส์ดัง "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร" จนมีแฟนๆ กรี๊ดแน่นแซงหน้าซุปตาร์รุ่นพี่ในวงการบันเทิงไปหลายคน สำหรับพระเอกซุปตาร์สายฟ้าแลบ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข แน่นอนว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องถูกจับตามองไปซะหมด เลยทำให้มีข่าวต่างๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งการจัดงานแฟนมีตติ้ง "META PRESENT JAMES JI MONKEY KING FAN MEETING วันซนซนกับคนสำคัญ" ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 ก.พ. ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งเป็นการจัดงานมีตติ้งแฟนคลับเป็นครั้งแรกในชีวิตของหนุ่มเจมส์ก็ถูกจับตามองขึ้นมาทันทีเพราะราคาบัตรที่ค่อนข้างสูงลิบลิ่ว โดยราคาบัตรที่แพงที่สุดคือบัตรวีไอพี 6,000 บาท ขายหมดเกลี้ยงในระยะเวลาสั้นๆ แต่บัตรราคาอื่นๆ ที่ถูกกว่ากลับยังขายไม่หมดจนถึงตอนนี้ ทำให้หลายคนมองว่าเป็นเพราะในช่วงหลังหนุ่มเจมส์มีข่าวฉาวออกมาค่อนข้างเยอะจนทำให้กระแสความนิยมในตัวพระเอกหนุ่มลดลง แต่ในขณะเดียวกันหลายคนมองว่าเป็นเพราะสถานที่จัดงานอยู่ใกล้กับม็อบการเมืองที่ชุมนุมยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ อาจทำให้หลายคนไม่สามารถมาร่วมงานแฟนมีตติ้งในครั้งนี้ได้ จึงไม่พ้นถูกจับตามองว่างานแฟนมีตติ้งนี้จะรุ่งหรือร่วงกันแน่ "ทีมข่าวบันเทิง ไทยรัฐออนไลน์" เลยคว้าตัวทั้งพระเอกหนุ่มและผู้จัดการส่วนตัว ปิ๊ก-ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์ เปิดใจถึงการจัดแฟนมีตติ้งครั้งแรกของพวกเขาที่ต้องฝ่าฟันกระแสวิจารณ์อย่างหนักในเวลานี้มาฝากกัน

...

นับเป็นโอกาสดีที่ไทยรัฐออนไลน์ได้รับเชิญให้ไปร่วมเก็บภาพบรรยากาศการซ้อมร้องซ้อมเต้นในงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ ซึ่งหนุ่มเจมส์ตั้งใจฟิตซ้อมเพื่อแฟนๆ ในงานโดยเฉพาะ โดยเจ้าตัวเผยถึงการทำงานในครั้งนี้ผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ตอนนี้กำลังซ้อมอย่างหนัก และรู้สึกตื่นเต้นกดดันเพราะเป็นงานแฟนมีตติ้งครั้งแรก ซึ่งต้องทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทนเนอร์ทั้งร้องทั้งเต้นต่อหน้าแฟนๆ ที่มาให้กำลังใจเยอะอีกด้วย

"ตอนนี้กำลังซ้อมกันแบบเข้มข้นเลยครับ ซึ่งต้องซ้อมเยอะพอสมควรเพราะทั้งซ้อมร้องซ้อมเต้นด้วย เรื่องความพร้อมตอนนี้ก็ยังเรื่อยๆ ครับ มันก็มีความตื่นเต้น แต่สำหรับผมเท่าที่ซ้อมมาตอนนี้ผมว่ามันก็เกือบสมบูรณ์แล้วนะ ผมเองก็กดดันมากเพราะเป็นงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกของผม ด้วยเรื่องของเวลาที่บีบคั้นเข้ามา ด้วยงานที่เราต้องทำเยอะมาก ปกติถ้าเต้นก็เต้นอย่างเดียว ถ้าร้องก็ร้องอย่างเดียวเหมือนกัน แต่ครั้งนี้เรามาเอ็นเตอร์เทนคนเยอะเหมือนกัน ก็เลยค่อนข้างกดดันครับ ส่วนวิธีการดูแลตัวเองในช่วงทำงานหนักแบบนี้ก็ต้องพักผ่อนครับ ต้องมีสติกับสิ่งที่เราทำอยู่ครับ"

เจมส์-จิรายุ บอกอีกว่างานแฟนมีตติ้งครั้งนี้เป็นการหยิบยกเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของเจ้าตัวซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆ ได้เห็นมาแล้วนำมาถ่ายทอดใหม่ให้สนุกยิ่งขึ้น และจะทำเซอร์ไพรส์ที่เคยได้รับกลับไปให้แฟนๆ อีกทั้งยังมีแขกรับเชิญที่มาร่วมสร้างสีสันอีกด้วย

"จริงๆ แล้วเป็นแฟนมีตติ้งที่ผมคิดว่าถ้าเป็นแค่มีตติ้งเฉยๆ ผมว่ามันดูธรรมดามาก เลยคิดว่าวันนึงถ้าผมลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อพวกเขาสักชิ้น ผมก็อยากทำเป็นโชว์ขึ้นมาโชว์นึงที่เล่าเรื่องราวที่ผ่านมาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเห็นมาแล้วทั้งหมด แต่ผมจะเอามาเล่าเรื่องใหม่ให้มันสนุกมากขึ้น แล้วมันอาจมีเซอร์ไพรส์ที่เป็นเกี่ยวกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาเคยทำให้เรา เราก็ทำกลับไปให้เขา เหมือนเป็นการใส่ใจรายละเอียด ก็คงเป็นเซอร์ไพรส์นึงที่น่าจะสนุกดี เพราะคนที่มาดูน่าจะมีรอยยิ้มและมีความสุขกลับไป ในส่วนของแขกรับเชิญอย่างพี่พั้นช์ (วรกาญจน์ โรจนวัชร) และพี่เต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) ก็มา ส่วนแขกรับเชิญคนอื่นๆ จะมีอีกรึเปล่าก็คงต้องรอดูในงานแล้วกันครับ"

...

ในส่วนบัตรงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ที่ยังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง เจมส์บอกว่าไม่รู้สึกเสียใจที่คนอาจมองว่าเป็นเพราะความนิยมในตัวของตนลดลงหรือเป็นเพราะสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่สงบจึงทำให้ขายบัตรได้ไม่หมด พร้อมทั้งยืนยันว่าถึงคนจะมามากหรือน้อยตนก็จะทำออกมาให้ดีที่สุด

"เรื่องบัตรตอนนี้เหลืออยู่จำนวนนึงครับแต่น้อยแล้วล่ะ ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดตรงนี้เท่าไหร่เพราะซ้อมอย่างเดียว ถามว่ารู้สึกเสียใจนิดนึงไหมที่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองทำให้คนอาจไม่กล้ามางาน จริงๆ แล้วถึงมีคนมาดูแค่ 100 คน ผมก็จะทำออกมาให้ดีที่สุดครับ เพราะผมรู้สึกว่าทุกคนที่เขามาเป็นคนที่รักเราจริงๆ เราก็อยากทำสิ่งที่เรารักให้คนที่รักเราครับ กับเรื่องม็อบผมก็ขอภาวนาไม่ให้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลยครับ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีครับ ส่วนเรื่องที่คนมองว่าบัตรยังขายไม่หมดเป็นเพราะกระแสเราดร็อปลงรึเปล่า ผมว่ามันเป็นเรื่องที่คนอยากมาดูจริงๆ ด้วยครับว่ามีมากน้อยแค่ไหน อาจเป็นเพราะด้วยหลายๆ อย่างครับ ถามว่ารู้สึกเสียใจไหมที่คนมองแบบนั้น ไม่หรอกครับเพราะเท่านี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับที่ยังมีคนให้ความสนใจและจับตามองในเรื่องนี้อยู่ ส่วนเรื่องที่มีคนวิจารณ์เรื่องราคาบัตรแต่มีคนมาปกป้องผมและอธิบายแทนให้ผมก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ปกป้องเรา ผมอยากให้คนที่อยากรู้ว่าแฟนมีตติ้งมีอะไรได้มาดูกันครับ"

...

กับความคาดหวังในงานครั้งนี้ เจมส์บอกว่าตนแค่อยากทำในสิ่งที่ตนรักเพื่อให้คนที่รักตนมาดูและมีความสุขไปกับสิ่งที่ได้ทำไป ส่วนโอกาสที่จะจัดงานแบบนี้อีกนั้นก็ขึ้นอยู่กับแพลนของผู้จัดการส่วนตัวว่าจะเป็นยังไงต่อไปมากกว่า

"กับงานครั้งนี้ผมคาดหว้งแค่ว่าสิ่งที่ผมตั้งใจทำออกมาเพื่อคนที่ผมรัก ผมอยากทำให้เขามีความสุขและตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ซึ่งแฟนๆ ของผมก็คาดหวังกับงานครั้งนี้ ทุกคนก็อยากเห็นในงานว่าจริงๆ มันเป็นยังไง เราจัดในที่ที่ค่อนข้างใหญ่ด้วย ส่วนจะมีงานแฟนมีตติ้งแบบนี้ต่อไปทุกปีไหมผมก็ต้องรอดูแพลนของพี่ปิ๊กต่อไปว่าจะเป็นยังไง ยังไงผมก็ขอฝากงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกของผม ซึ่งเป็นการทำในสิ่งที่ผมรักจริงๆ ให้คนที่รักผมมาดู ผมอยากให้มาสนุกด้วยกันจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้มาสนุกแบบนี้กันได้อีกกี่ครั้งนะครับ"

ด้าน ปิ๊ก-ฌาณฉลาด ผู้จัดการส่วนตัวของเจมส์ เผยถึงงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ของเจมส์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่าจะได้เห็นพระเอกหนุ่มร้องเต้นเล่นดนตรี แถมด้วยทอล์กโชว์เล่นเกมใกล้ชิดกับแฟนๆ และเซอร์ไพรส์ไปกับแขกรับเชิญของเจมส์ด้วย

...

"เจมส์ก็ซ้อมมาตลอด 1 เดือนเต็มๆ ทั้งร้องทั้งเต้น ต้องออกตัวว่าตัวเขาเลือกเพลงที่เขามีความชอบ มีทั้งเพลงไทยที่เขาได้ร้องในละคร เพลงเกาหลีที่เขาได้ไปร้องที่โน่น เพลงประกอบภาพยนตร์บ้าง และมีเพลงที่แฟนคลับร้องให้เขาก่อนเขาจะไปเกาหลีครับ แล้วก็มีเต้นแบบที่เขาได้ไปเรียนมาซึ่งไม่เคยโชว์ที่ไหน ด้วยคอนเซปต์ "วันซนซนกับคนสำคัญ" คนสำคัญของเขาคือคนที่มาอยู่ในฮอลล์ เขาจะซนให้คนสำคัญของเขาดู จะเป็นเจมส์ที่เป็นตัวตนของเขาจริงๆ เขาร้องเพลงได้ เต้นได้ เล่นดนตรีได้ นี่คือสิ่งที่จะได้เห็นบนเวทีของเขา และก็จะมีทอล์กโชว์ เล่นเกมให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด เพราะแฟนๆ ที่มาจากต่างจังหวัดก็มาเจอเขาครั้งแรก เรื่องความคาดหวังในฐานะที่เขาจัดแฟนมีตติ้งแบบนี้เป็นคนแรกก็อย่างที่เห็นว่าเขาไปเรียนมาจริงๆ เรามีทีมแดนเซอร์ ทีมศิลปินฝึกหัดตอนที่ไปเรียนที่เกาหลีก็บินมาทั้งเซต ในงานครั้งนี้เราจะเน้นความอบอุ่น เข้าถึงได้ เขาไม่ใช่นักร้องแต่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ คือทำได้แค่นี้นะ ถ้ามากกว่านี้คือไปเป็นนักร้อง ส่วนเรื่องแขกรับเชิญนี่ก็มีแน่นอน ก็อยากจะให้คนที่รักและสนับสนุนเขามาตลอดได้มีโอกาสเจอกัน อยากให้มาเป็นส่วนหนึ่งของคนสำคัญของเขาเพื่อให้เขามีกำลังใจพัฒนาตัวเองในวันข้างหน้าครับ"

ส่วนเรื่องบัตรนั้น  ปิ๊ก-ฌาณฉลาด บอกว่าตอนนี้สามารถขายไปได้มากกว่า 3,000 ใบแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ที่ส่งผลกระทบต่อการขายบัตร จึงอาจหาทางออกด้วยการลดขนาดพื้นที่ให้เหมาะสมกับจำนวนคนที่มาชมแทน

"จริงๆ เรื่องบัตรเดินมาไกลแล้วครับ ตอนนี้ไปแล้วประมาณ 3,000 กว่าที่นั่งจาก 4,600 ที่นั่ง แต่ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองอย่างที่เราทราบกัน ถ้าบัตรมันไม่ขยับ เราคงจะลดขนาดพื้นที่ให้เหมาะสมกับคน 3,000 คน แต่ต้องดูอีกทีครับ ซึ่งตอนที่เราเปิดให้จองบัตรเพียง 20 นาที บัตร 6,000 บาทขายหมด แล้วเขาใช้คำว่า Sold Out คนเลยนึกว่าบัตรที่เหลือมันเต็มแล้วเพราะสื่อนำเสนอแต่บัตร 6,000 บาทว่ามันแพงมาก แต่ในบัตร 6,000 บาท จะมีโฟโต้บุ๊กขนาดใหญ่ มีของที่เจมส์เซ็นให้และอยากทำให้เป็นพิเศษ"

สำหรับกระแสที่คนมองว่าเพราะความนิยมในตัวหนุ่มเจมส์ลดลงรึเปล่าจึงทำให้ขายบัตรได้น้อยกว่าที่คิดไว้ ผู้จัดการของเจมส์บอกว่าไม่รู้สึกซีเรียส เพราะแค่ทุกวันนี้ที่มีคนสนับสนุนมากก็รู้สึกดีใจแล้ว ทั้งนี้ตนกำลังศึกษาเรื่องการดูแลในส่วนแฟนคลับเพื่อที่จะสื่อสารได้ต่อเนื่องและทำอะไรได้ง่ายขึ้น

"ผมมองว่าพอมีละครคนจะคุ้นชินกับละคร ชินกับการที่เห็นหน้าทางจอทีวีมากกว่า สำหรับเราการที่มีผู้สนับสนุนมากขนาดนี้ เราก็แฮปปี้อยู่แล้ว แต่นอกเหนือจากนี้เราควบคุมไม่ได้ครับ เราคงบอกไม่ได้ว่าลดลงหรือเพิ่มขึ้น เราวัดกันตรงนั้นไม่ได้ เราคงให้คำตอบไม่ได้จริงๆ แต่ในส่วนคนทำงานก็มุ่งเน้นพัฒนาตัวเอง ถามว่าซีเรียสไหมไม่ครับ ผมว่าเป็นเรื่องปกติมาก ทุกคนก็เคยเป็นที่รู้จัก เวลามาใหม่ๆ ทุกคนก็ต้องมาทำข่าวทำนู่นนี่ แต่สำหรับเขาเนี่ย ปีนึงเรานำเสนอให้กับสื่อได้แทบทุกมุมเหมือนกัน เลยแทบไม่ได้มองตรงนี้เลยครับ ถามว่าปีต่อไปจะจัดแฟนมีตติ้งแบบนี้อีกไหมถ้ามีโอกาสคงต้องทำ แต่เรากำลังมองว่ามันมีอะไรที่จะทำให้เราสามารถสื่อสารกับกลุ่มแฟนคลับได้อย่างต่อเนื่อง เรากำลังศึกษาในเรื่องการดูแลกลุ่มแฟนคลับ ถ้าเรามีฐานข้อมูลตรงนี้ทำให้เราทำอะไรได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องประกาศอะไรมากครับ"

เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เลื่อนงานครั้งนี้ออกไปเหมือนงานอื่นๆ ปิ๊กตอบว่าที่จริงตนเลื่อนมาแล้วถึง 3 ครั้ง และหากเลื่อนอีกจะกระทบต่อคิวของเจมส์และแขกรับเชิญ รวมถึงปัญหาเรื่องผู้สนับสนุนงานครั้งนี้ด้วย

"งานครั้งนี้เราเลื่อนไม่ได้เพราะทุกอย่างเข้าที่เข้าทางไปหมดแล้ว ถ้าเลื่อนก็จะมีปัญหาเรื่องสปอนเซอร์ เรื่องแขกรับเชิญ จริงๆ เราก็เลื่อนมา 3 ครั้งแล้ว ครั้งแรกจะจัด 22 ธ.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นสถานการณ์ก็ยังไม่ค่อยดี เราก็เลื่อนมาเป็น 12 ม.ค. แต่แล้วก็ต้องเลื่อนมาเป็น 26 ก.พ.ครับ ด้วยตารางงานของเจมส์ที่วางไว้ทั้งปี นี่คือการเลื่อนครั้งสุดท้ายจริงๆ ไม่งั้นคือมีอีกอย่างคือไม่ทำซึ่งก็ไม่ได้ เพราะที่เราไปเกาหลีมาก็เพื่องานนี้ เราก็เห็นความตั้งใจของเขาก็คิดว่าลุยแล้วกัน มีมาแค่ไหนก็เท่านั้น ส่วนคนที่ไม่สามารถมาได้อาจจะได้เห็นทางทีวีเพราะเราบันทึกเทปไว้ด้วย แต่ต้องคุยกับทางผู้ใหญ่ก่อนและต้องดูฟุตเตจด้วยครับ"

กับความคาดหวังในงานแฟนมีตติ้งรวมถึงการต่อยอดการทำงานหลังจากนี้ ปิ๊กบอกว่าตนอยากให้แฟนมีตติ้งครั้งนี้ทำให้คนที่ชื่นชอบเจมส์ได้ใกล้ชิดกับพระเอกหนุ่ม และการที่ตนให้เจมส์ฝึกฝนพัฒนาตัวเองหลายๆ ด้าน ก็เพื่อพร้อมที่จะแข่งขันและรับโอกาสจากประเทศในกลุ่ม AEC ได้

"สำหรับคนเบื้องหลังอย่างผมที่เป็นผู้จัดการและเป็นเหมือนครีเอทีฟอาร์ติสต์ ผมก็มองว่าอยากให้เป็นโอกาสที่จะทำให้คนที่สนับสนุนเขาและตัวเขาได้มีกิจกรรมร่วมกัน ได้ใกล้ชิดกัน ได้มีของติดไม้ติดมือกลับไปด้วย หลายคนมองว่ามันเป็นปรากฏการณ์เจมส์จิ ผมว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะแฟนๆ ที่ทำให้เกิดขึ้นจริงๆ และสื่อมวลชนก็นำเสนอในด้านที่เขามี เขาร้องเต้นเล่นดนตรีได้ ยอมเหนื่อยไปฝึกฝนตัวเอง ทุกคนมองเห็นว่าเขาเป็นเด็กที่พร้อมจะถูกพัฒนาครับ ในวันนี้ถ้าทำให้คน 70 ล้านคนได้รู้จักเรา เราก็อยากมีโอกาสทำงานกับเพื่อนบ้าน อย่างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเปิดก็ทำให้เรามีโอกาสแลกเปลี่ยนกับประเทศเพื่อนมากขึ้น เพราะผมมองว่าคงไม่ได้แลกเปลี่ยนแค่เศรษฐกิจ แต่ผมมองว่าสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมได้ด้วย เราได้แต่หวังว่าสักวันข้างนอกจะให้โอกาสเราได้ทำแบบนั้น ฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวให้มากที่สุด เตรียมความพร้อมที่จะแข่งขันและสามารถรับโอกาสได้ ผมว่าถ้ามีละครเรื่องนึงที่มีบทบาทต้องร้องเต้นเล่นดนตรี ผมว่าคนก็น่าจะนึกถึงเขา และเราอยากให้เขาฝึกทำโน่นนี่เพื่อที่เขาจะได้โตขึ้น มีความสามารถ เราจะไม่รอแค่โอกาส แต่เราทำตัวให้สามารถที่จะรับโอกาสทุกโอกาสที่อาจจะเข้ามาครับ".