ในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมานี้ กระแสนิยมในเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะในระดับโลกหรือแม้แต่ในสังคมไทย ดูเหมือนจะหันกลับไปสู่วิถีธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เกิดการค้น คว้าวิจัย และพัฒนาองค์ความรู้หรือ ศาสตร์ด้านสมุนไพร และการแพทย์แผนตะวันออกให้เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพื่อสร้างมาตรฐานและการยอมรับในระดับสากล

รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญ ของสหประชาชาติ ด้านการพัฒนาสมุนไพร และอาจารย์ประจำคณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต อธิบายว่า คำว่า การแพทย์แผนตะวันออก หมายถึง การแพทย์หลักๆในประเทศแถบเอเชีย เช่น การแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine, TCM) แผนอินเดีย (อายุรเวช) แผนไทย และอื่นๆ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและสร้างเสริมสุขภาพที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการ “สร้าง” สุขภาพให้สมบูรณ์เพื่อป้องกันโรค ที่เรียกว่า Preventive Medicine ขณะที่การแพทย์แผนตะวันตก มุ่งเน้นการ “ซ่อม” สุขภาพเมื่อเจ็บป่วย เรียกว่า Curative Medicine


รศ.ดร.สุรพจน์ บอกว่า หลักการของการ แพทย์แผนตะวันออกนั้น เน้นที่การดูแลสุขภาพและรักษาโรคที่เกิดขึ้นเป็นองค์รวม ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยไม่ได้ยึดหลักการพิจารณาเป็นส่วนๆ เหมือนกับการแพทย์แผนตะวันตกที่หากเกิดความผิดปกติขึ้นกับอวัยวะส่วนไหนให้ทำการรักษาเฉพาะที่อวัยวะส่วนนั้นๆ การพิจารณาร่างกายของศาสตร์การแพทย์แผนตะวันออก

“ที่เด่นชัดที่สุด คือ ศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้นยึดถือเรื่องของความสมดุลธรรมชาติในร่างกาย ซึ่งมีหลักการที่เกี่ยวข้อง คือ หลักสมดุล หยิน-หยาง หลักสมดุลพลังงานแห่งชีวิต หรือ “ชี่” หลักแห่งสมดุลทั้ง 8 และหลักความสมดุลของเบญจธาตุหรือ ธาตุทั้ง 5 อันได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และทอง” รศ.ดร.สุรพจน์บอก พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่เลือกแนวทางการรักษาชนิดนี้เพื่อมาใช้บำบัดรักษาโรคที่เป็นอยู่ ซึ่งการรักษาตามแนวทางของแพทย์แผนตะวันออกโดยเฉพาะการแพทย์แผนจีนนั้นสามารถใช้แนวทางหลัก คือการบำบัดรักษาโดยใช้พืชสมุนไพร และรวมถึงการส่งเสริมสุขภาพในลักษณะอาหารฟังก์ชัน

...


“การนำเอาสมุนไพรมาเป็นทั้งยาและอาหาร ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญจากธรรมชาติ จึงเป็นตัวเลือกหลักที่แพทย์แผนตะวันออกนำมาใช้ในการบำรุงสุขภาพ การบำบัดและรักษาโรคให้กับผู้ป่วยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ซุปไก่สกัด เป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันมานานแล้วในหมู่ชาวจีน เพราะชาวจีนใช้ซุปไก่สกัดช่วยสร้างสมดุลสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ฟื้นไข้ได้เร็วและยังช่วยบำรุงโลหิตสำหรับสตรีมีครรภ์อีกด้วย”   ผู้เชี่ยวชาญประจำองค์การสหประชาชาติบอก

รศ.ดร.สุรพจน์   ยังบอกด้วยว่า สมุนไพรที่นำมาใช้ในทางการแพทย์แผนจีนนั้น ในปัจจุบันมีมากมายกว่า 10,000 ชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่สมุนไพรแห่งโลกตะวันออกที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิด เช่น ถั่งเช่า โสม ตังกุย และแปะก๊วย เป็นต้น

“จะเห็นว่าชาวจีนใช้การตุ๋นไก่ หรือ ต้มซุปไก่ให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์รับประทาน เพราะเชื่อว่าเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงสุขภาพ หรือคนป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้ ก็จะต้มน้ำซุปไก่ หรือไม่ก็ต้มโสมบ้าง ตังกุยบ้าง โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น”


สำหรับ ถั่งเช่า  เป็นเห็ดชนิดหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิด มาจากพื้นที่เฉพาะ เช่น ที่ราบสูงในทิเบต พบได้ในธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้ผลิตามที่ราบสูงในทิเบตและเนปาล เป็นสมุนไพรที่ถือว่าหาได้ยากจึงทำให้มีราคาแพงมาก ตามตำราการแพทย์แผนจีน ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการบำรุงอวัยวะสำคัญ 2 อย่าง คือ ไต ซึ่งเปรียบเสมือน “รากแห่งชีวิต” และปอด ซึ่งเป็นเหมือน “ต้นกำเนิดแห่งพลังงานชี่ทั้งร่างกาย” รวมถึงมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงร่างกาย รักษาอาการอ่อนเพลีย ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จนถึงรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

โสม  ถูกจัดเป็นยาที่มีฤทธิ์ร้อน หวาน และขมเล็กน้อย มีการนำมาใช้ในตำรายาแพทย์แผนโบราณโดยมีผลช่วยในการทำงานของ ม้าม ปอดและหัวใจ นอกจากนี้ยังมีผลในการช่วยบำรุงพลังชี่ ส่งผลต่อสมดุลของของเหลวในร่างกาย ลดการกระหายน้ำ ช่วยสงบจิตใจ และช่วยบำรุงสมอง การนำโสมไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคนั้นพบว่า ทางการแพทย์แผนตะวันออกนำคุณสมบัติของโสมนี้ไปใช้ในการบรรเทาอาการต่างๆของร่างที่สืบเนื่องมาจากการขาดพลังชี่ของร่างกาย เช่น ภาวะหลงลืม ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่เจริญอาหาร ท้องเสีย ชีพจรอ่อนกำลัง เหงื่อออกผิดปกติ เบาหวาน เป็นไข้ ไม่เจริญอาหารและเสื่อมสมรรถภาพ ส่วน ตังกุย ได้รับการยกย่องให้เป็นสมุนไพรเพื่อสตรีโดยเฉพาะ โดยมีสรรพคุณในการบำรุงเลือด ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ให้มีสุขภาพแข็งแรง และสุดท้าย แปะก๊วย  เป็นสมุนไพรที่มีสารสำคัญในส่วนของใบซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองโดยการเพิ่มเลือดไปไหลเวียนหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อในสมองและยับยั้งการเสื่อมของเซลล์ประสาทในสมอง ฯลฯ

จะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นซุปไก่ หรือซุปไก่สกัด และสมุนไพรแต่ละชนิดล้วนมีคุณสมบัติในการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง จึงมีผู้นำเอาสมุนไพรที่มีคุณค่าและสรรพคุณทางการแพทย์สูงเหล่านี้ รวมเข้ากับซุปไก่หรือซุปไก่สกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะการลดความเครียดและความอ่อนล้าของสมอง ที่ รศ.ดร.สุรพจน์ทิ้งท้ายว่า น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดการใช้ยาคลายเครียดหรือยาแก้ปวดลงได้.

...