ไม่มีเซอร์ไพรส์ "ทรูวิชั่นส์" ตอกย้ำความเป็น The king of sports ทุ่ม 1,800 ล้านบาท คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสด ศึกลูกหนัง 4 รายการหลัก ไทยพรีเมียร์ลีก, ลีกวัน, เอฟเอคัพ และลีกคัพ ต่ออีก 3 ปี...
วันที่ 20 ส.ค. ที่ห้องวาสนา โรงแรมโกลเดนทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้มีการจัดงานแถลงข่าวและพิธีลงนามสัญญาการถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำปี 2557-2559 โดยมี นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท, นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท, นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สาย Commercial ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมกันแถลงข่่าว
โดยทาง บมจ.สยามสปอร์ตฯ ในฐานะผู้บริหารและผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ และการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศอื่นๆ ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบสิทธิจากการประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2557-2559 ทั้ง 4 รายการ ให้กับบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งทั้ง 4 รายการที่ทางทรูวิชั่นส์ ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ประกอบด้วย การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลลีกวัน, ฟุตบอลเอฟเอ คัพ และฟุตบอลลีกคัพ รวมค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด 1,800 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 ปี ปีละ 600 ล้านบาท

...
นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท กล่าวว่า การประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2557-2559 ตามกำหนดเดิม จะเริ่มกระบวนการเมื่อมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสร็จสิ้น แต่เมื่อพิจารณาแล้ว การเลือกตั้งยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ และมีท่าทีว่าจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งหากการประมูลต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดผลกระทบได้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มกระบวนการประมูลการถ่ายทอดสด
"ซึ่งการประมูลครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก เซอร์เดวิด ริชาร์ด อดีตประธานพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาและดำเนินการตามขั้นตอนของสากล และในที่สุด ก็ได้ผู้รับลิขสิทธิ์คือ บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด สำหรับเงินตอบแทนจากการขายลิขสิทธิ์ (TV RIGHT) ให้กับสโมสรต่างๆ นั้น ในเบื้องต้นจะมอบให้เป็น 3 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เพื่อให้ทีมสโมสรใช้ในการเตรียมทีม ส่วนที่เหลือจะมอบให้ในช่วงหลังจบเลกแรกและหลังจบเลกสอง ซึ่งจากการขายลิขสิทธิ์ครั้งนี้ จะทำให้แต่ละทีมในไทย พรีเมียร์ลีก ได้รับเงินสนับสนุนไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านบาท รวมถึงทุกทีมสโมสรในลีกอาชีพอื่นๆ ที่จะได้รับเงินสนับสนุนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน"
ขณะที่ นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป กล่าวว่า “ทรูวิชั่นส์ The king of sports” ย้ำภาพความเป็นผู้นำการถ่ายทอดสดกีฬาชั้นนำระดับโลก ด้วยการคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลไทย 4 รายการหลัก ต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2014-2016 นำโดย ไทยพรีเมียร์ลีก, ลีกวัน, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ โดยมุ่งหวังว่าการถ่ายทอดสดจะช่วยส่งเสริมวงการฟุตบอลไทย เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนให้หันมาสนใจกีฬามากขึ้น"
ด้านผลประโยชน์ที่ทีมสมาชิกจะได้รับจากการยิงสดครั้งนี้ ได้มีการแจงว่าทีมจากลีกสูงสุดอย่าง ไทยลีก จะได้เงินส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ ตกฤดูกาลละ 20 ล้านบาท และจะลดหลั่นกันไปตามระดับของลีก โดยประมาณไว้ตั้งแต่ 3 ล้าน จนถึงต่ำสุดทีมละ 1 ล้านบาท ซึ่งส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์จะถูกแบ่งจ่ายให้กับทีมสมาชิก 3 งวด ส่วนรายละเอียดการถ่ายทอดสดทั้งหมด ทางทรูฯ จะมีการแจ้งออกมาให้ทราบในภายหลัง