ถือเป็นหมาก และกลยุทธ์ที่น่าจับตามาก เมื่อ "ทักษิณ" ใช้ไม้เด็ดส่ง "ยิ่งลักษณ์" นั่งถ่างขาควบตำแหน่ง "รมว.กลาโหม" ท่ามกลางอุณหภูมิการเมือง-การทหาร ร้อนแรง เหมือนเปิดตำรา "เสธ." ย้อนกลับไปที่ ผบ.เหล่าทัพ เพื่อเอาความเยือกเย็นของ "นารีพิฆาต" น้องปู เข้าสยบบรรดาท็อปบูต ให้อ่อนและการันตีความมั่นคงของรัฐบาลภายใต้การนำของเธอ...
แม้รายชื่อใน โผ ครม.ปู 5 ยังไม่นิ่ง แต่พาดหัวตัวเป้งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเช้านี้ (27 มิ.ย.) ทำเอาวงการทหาร ฮือฮาทั้งกระทรวงกลาโหม เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะขยับมานั่งควบตำแหน่ง "รมว.กลาโหม" แทน "บิ๊กโอ๋" พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ "พี่แม้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ส่อเค้าว่าจะหลุดจากเก้าอี้ไปนั่งเลี้ยงหลานที่บ้าน จนเจ้าตัวถึงกับปรับตัว ตั้งหลักไม่ทัน ทั้งที่เช้านี้มีประชุมสภากลาโหม โดยมีแผนจะมอบนโยบายการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2556 ให้กับ ผบ.เหล่าทัพ
การปรับ ครม.แบบยกชุดใหญ่ครั้งนี้ ไม่มีอะไรจะสะดุดไปกว่าตำแหน่งกระทรวงปืนใหญ่ เพราะหากเป็นจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่จะเข้ามานั่งในตำแหน่ง รมว.กลาโหมของประเทศไทย ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตัวเธอ ตระกูลชินวัตร และประเทศไทย รวมทั้งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่เป็นสตรีหมายเลข 1 ของประเทศไทยที่นั่งทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม
จึงถือเป็นการลบประวัติอันยาวนานของกระทรวงกลาโหม ที่จะมีแต่ทหาร อดีตทหาร หรือถ้าเป็นพลเรือนก็จะเป็นเฉพาะผู้ชายมานั่งในตำแหน่งนี้ ที่ผ่านมาจะมี นายชวน หลีกภัย นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
แต่เมื่อเป็นประกาศิตจาก "นายห้าง" ที่ต้องการล้างภาพการบริหารงานแบบเก่า เพื่อลบการทุจริต ที่ถูกจับจ้องโจมตี ในหลายโครงการของรัฐบาล ทั้งจำนำข้าว โครงการบริหารการจัดการน้ำ ดังนั้นการถ่ายน้ำเสียออก เพื่อดึงน้ำดีเข้ามากู้ภาพลักษณ์ จึงต้องมีการล้างไพ่ การปรับ ครม.5 จึงต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จน รมต.หลายคนต้องหลุดจากเก้าอี้แบบวิ่งเต้นหานายใหญ่ไม่ทัน
...
แต่กระแสข่าวการนั่งควบ รมว.กลาโหม ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นไม่ได้เพิ่งมี แต่เมื่อการปรับ ครม.ปู 4 คราวที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวว่า "ทักษิณ" จะให้น้องสาวนั่งควบในเก้าอี้นี้ โดยมีเพื่อนรัก "พ่อตาโอ๊ค" พล.อ.พฤณท์สุวรรณทัต หรือ "โอ๋เล็ก" เข้ามานั่งเป็น รมช.กลาโหม โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อมาจัดทัพปรับขบวนกองทัพเพื่อล้างไผ่ เช็กบิล "บูรพาพยัคฆ์" โดยเฉพาะเป้าหมายที่เก้าอี้ "ผบ.ทบ." ที่ต้องการส่งเด็กในค่ายเข้ามากุมบังเหียนนั่นเอง
การวางหมากเพื่อให้น้องสาว มานั่งควบในตำแหน่งที่จะต้องอยู่ท่ามกลางดงปืน ท็อปบูต ถือเป็นกลยุทธ์ นารีพิฆาต เพราะทั้งจะสยบคนในเครื่องแบบ นัยอาจจะเป็นการวางหมากในการถ่วงดุลอำนาจเพื่อขออัตราเพิ่มในตำหน่ง รมช.กลาโหม
อีกทั้งเสียงตอบรับของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในสายตาผู้นำเหลาทัพเวลานี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะมีการประสาน โทรศัพท์พูดคุย พบปะรับประทานอาหารกันบ่อยครั้ง และ ผบ.เหล่าทัพ ต่างมองว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มานั่งเป็น รมว.กลาโหมจริงก็จะทำให้การประสานงาน ระยะเวลาในการพูดคุยสั้นลง โดยไม่ต้องผ่านใคร
"ผมว่าทุกประเทศในโลกนี้ เราให้ความเท่าเทียมระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเหมือนกัน ผู้หญิงหลายคนอาจจะเก่ง มีภาวะเป็นผู้นำ สามารถทำอะไรหลายอย่างได้เช่นผู้ชาย ทั้งขีดความสามารถในการฝึก การร่วมรบ การใช้ชีวิตแบบภาวะขีดจำกัด ดังนั้นเชื่อว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาทำหน้าที่ตรงนี้ ก็คิดว่าไม่เกินความสามารถ และคิดว่าทุกเหล่าทัพก็ต้องยอมรับ เพราะปัจจุบันท่านก็บริหารงานในหน้าที่ นายกฯ อยู่แล้ว ดังนั้น มานั่งควบ รมว.กลาโหม คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา" นายทหารระดับสูง ทบ.กล่าว
ทั้งนี้หากตรวจสอบหลายประเทศที่มี และเคยมีผู้หญิงดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น มี นางยูริโกะ โคอิเกะ ประเทศสเปน มีนางคาร์เม ซาคอน สาววัยเพียง 37 ปี ประเทศเอกวาดอร์ นางกัวดาลูเป ลาร์ริวา และประเทศเยอรมนี
ดังนั้นถือว่าการวางหมากปรับกลยุทธ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บินมาโฉบแถวสิงคโปร์ และฮ่องกง ก่อนที่จะมีการปรับใหญ่ ใน ครม.ปู 5 ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผล และกลบข่าวโครงการจำนำข้าว ที่โดนพายุลูกใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่โหมกระหน่ำโจมตีทุกวัน แม้กระทั่งม็อบหน้ากากขาว ตลอดจนไทยสปริงที่เปิดหน้าสู้กับรัฐบาลแบบหวังปิดเกมรัฐบาล
จากนี้ไปต้องจับตารายชื่อการปรับ ครม.ที่จะโปรดเกล้าฯ ลงมาว่า ใน ครม.5 รายชื่อที่คลอดออกมา จะเป็นไปอย่างที่คาดหรือไม่ โดยเฉพาะในกระทรวงกลาโหม และบิ๊กทหารในกองทัพ จะได้ผู้นำคนใหม่ชื่อ "บิ๊กยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" หรือไม่...