ทั้งที่คนไทยกินกันมานานจนไม่มีใครสนใจมองเป็นของไร้ค่า แต่พลันที่ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) แนะให้กินไข่มดแดงเท่านั้นแหละ...ถึงขั้นจะยกระดับเป็นเมนูภัตตาคารโรงแรม 5 ดาว อัดไข่มดแดงใส่กระป๋องขายแข่งไข่ปลาคาเวียร์

แต่ถ้ามัวแต่รอสอยจากธรรมชาติคงไม่ทันกิน...ต้องเพาะเลี้ยงเองถึงจะเวิร์กในเชิงพาณิชย์


การเพาะไข่มดแดงไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาทดลองทำมาแล้ว

ได้ผลผลิตสูง จากปกติชาวบ้านแหย่ไข่มดแดงในป่าได้ประมาณ 2-3 ขีดต่อรัง แต่เพาะเลี้ยงเอง 1 รัง ได้ไข่มดแดง 1-2 กก.เลยทีเดียว...ต้นทุนต่ำ แต่ขายได้ราคาสูง

“ก่อนอื่นต้องการเตรียมพื้นที่ มีต้นไม้ขนาดเหมาะสมสูงไม่เกิน 6 ม. เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ เรือนยอดที่ไม่เบียดชิดร่มทึบมากเกินไปจนแสงแดดส่องไม่ถึงพื้น เช่น มะม่วง ชมพู่ หว้า เงาะ ลองกอง ลําไย เป็นต้น

ต้องกำจัดศัตรูมดแดง นั่นคือ มดดําทุกชนิด ต้องทําลายทางเดินของปลวกที่อยู่ตามลำต้นของต้นไม้ที่จะใช้เลี้ยงมดแดง ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อาณาจักรมดแดงขยายรังได้เต็มพื้นที่ ห้ามจุดไฟใต้ต้นไม้หรือหว่านขี้เถ้าบนต้นไม้ และไม่ควรใช้สารเคมีฉีดพ่นบริเวณใกล้เคียง”

...


จากนั้นให้เสาะหารังมดแดงเล็กๆที่มีอยู่ทั่วไป ตัดกิ่งรังมดแดงใส่ถุง มัดปากถุงกันมดแดงไต่ออก แล้วนําไปเปิดปากถุงใต้โคนต้นไม้ที่จะใช้เลี้ยง มดแดงจะไต่ขึ้นไปอาศัยบนต้นไม้และเตรียมทํารังต่อไป...ที่สำคัญจะต้องแน่ใจว่ารังที่ตัดมามีมดราชินี หรือแม่เป้ง ติดมาด้วย

การให้อาหาร ทำแป้นไม้วางให้สูงจากพื้น 1.5 เมตร เพื่อป้องกันสุนัขขึ้นไปกิน อาหารที่มดแดงกินมีสารพัด เศษเนื้อสัตว์ ปลา หอย แมลงทุกชนิด จิ้งจก ตุ๊กแก ซากงูตาย ที่มันมักจะคาบไปสะสมไว้ในรังเพื่อป้อนตัวอ่อน และควรให้น้ำตาลเป็นอาหารเสริมเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้มดงาน... อย่าลืมสร้างสะพานทางเดินให้มดไต่มายังแท่นให้อาหารด้วย จะใช้เชือกหรือไม้ได้ทั้งนั้น

ที่สำคัญจะต้องให้น้ำด้วย...ใส่ขวดพลาสติกตัดครึ่ง ตอกตะปูติดกับต้นไม้


เลี้ยงไว้ 4-5 เดือน รังโตเต็มที่ถึงเวลาแหย่ไข่ให้ร่วงลงตะกร้า วิธีการแยกไข่ออกจากมดแดง ดร.เดชา แนะให้เอากระด้งโรยด้วยแป้งมันสำปะหลังเกลี่ยให้ทั่ว แล้วนำไปวางชิดกับโคนต้นไม้ที่เราแหย่ไข่ จากนั้นเอาไข่และมดแดงที่แหย่มาได้เทลงไปในกระด้ง มดแดงจะไต่ออกไปจากไข่ขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นไม้และเตรียมสร้างรังต่อไป ...โดยทิ้งไข่ไว้ในกระด้งให้เราออกไปขายได้แบบสบายๆ

ตัวแม่เป้งอย่าเอาไปขายหรือเอาไปคั่วกิน  ให้ปล่อยกลับขึ้นต้นไม้ไปหมด เพื่อจะได้ผลิตไข่ให้เราอีก...ครั้งแรกเก็บไปแล้ว จากนั้นอีก 10–15 วันเราสามารถกลับมาแหย่ไข่ได้ใหม่อีก


ไม่เหมือนในธรรมชาติแหย่ได้แค่ปีละครั้งในหน้าร้อน...สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 0-2942-8460 ต่อ 345 หรือ www.eto.ku.ac.th/media/index.html

ไชยรัตน์ ส้มฉุน