คะแนนเต็ม-เกือบเต็ม ชี้ถ้าไม่ทุจริตก็เก่งมาก
พบพิรุธลูกจ้าง สพป.ขอนแก่น เขต 4 โคตรเก่ง สอบครูผู้ช่วยได้ 23 คน คะแนนเต็มเกือบหมด มีการกระจายไปสมัครสอบหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่กำแพงเพชร จันทบุรี และเพชรบุรี ขณะที่กรรมการสืบสวนฯวิเคราะห์คะแนนสอบพบความผิดปกติ 518 ราย เพิ่มจากเดิมที่เจอก่อนหน้านี้แค่เพียง 486 ราย เตรียมเจาะลึกขอบัญชีคะแนนและกระดาษคำตอบจาก สพฐ.มาตรวจเปรียบเทียบ หากตรงกันยันชัดทุจริตแน่ ด้านผู้บริหาร สพท.วิจารณ์คำสั่งตั้งสอบวินัยร้ายแรงข้าราชการ 7 คน ในพื้นที่ขอนแก่นเขต 3 เป็นแค่การลดแรงกดดันของบิ๊ก สพฐ.
หลังจากตรวจสอบกันอยู่นานกรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย จากกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ว 12 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่ง สพฐ.ได้ลงดาบแรกด้วยการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูงในสำนักงาน เขตพื้นที่ประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต 3 กราวรูดรวม 7 คน พร้อมทั้งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ด้วยนั้น
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. หลังจาก สพฐ.มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการทั้ง 7 รายดังกล่าว ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหูจากบรรดาผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ในพื้นที่ต่างๆ ว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นความพยายามลดกระแสกดดันของผู้บริหารระดับสูง สพฐ. เพราะที่ผ่านมาถูกระบุว่ามีผู้บริหาร สพฐ.บางคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในเครือข่ายการทุจริตสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ด้วย และอาจจะมีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นว่าการทุจริต เกี่ยวข้องเฉพาะกับคนในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งผู้บริหาร สพท.หลายคนถึงขนาดเอ่ยปากว่าหมดศรัทธากับผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.ที่พยายามเอาตัวรอด อุ้มเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.ในส่วนกลางด้วยกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงรายหนึ่งว่า ล่าสุดคณะกรรมการฯได้พยานบุคคลที่เป็นผู้เข้าสอบและเข้าร่วมทุจริตการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ เล่าทุกขั้นตอนของการทุจริต ซึ่งการกลับใจมาให้ปากคำต่อกรรมการสอบสวนฯ ของผู้เข้าสอบรายนี้ เนื่องจากกังวลใจและเกรงกลัวความผิด เพราะถือว่าได้ทุจริตสอบทุกขั้นตอน เพียงแต่พลาดท่าสอบได้ลำดับที่ 4 จึงไม่ได้รับการบรรจุ นอกจากนี้กรรมการฯยังได้วิเคราะห์ผลคะแนนของผู้เข้าสอบทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามีผู้เข้าสอบที่มีคะแนนสูงผิดปกติถึง 514 คน ไม่ใช่แค่ 486 คน เหมือนที่เคยรายงานนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ กรรมการฯจะขอบัญชีคะแนน และกระดาษคำตอบจาก สพฐ.มาตรวจเปรียบเทียบคะแนนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้ลงลึกตรวจสอบเป็นรายเขตและรายบุคคล หากคะแนนตรงกัน ก็น่าเชื่อได้ว่าผู้เข้าสอบเหล่านี้น่ามีการทุจริตการสอบแน่นอน กรรมการฯจะรวบรวมข้อมูลผลการสืบสวนทั้งหมดเสนอต่อนายเสริมศักดิ์ ดีเอสไอ และคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้นำไปประกอบการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด และประกอบการพิจารณายกเลิกผลการสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลการสอบครูผู้ช่วยของ สพป.ขอนแก่น เขต 4 พบข้อพิรุธอย่างเห็นได้ชัด โดยเขตดังกล่าวมีกลุ่มลูกจ้างและพนักงานราชการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ได้มากถึง 23 คน ในจำนวนดังกล่าวสอบได้และบรรจุใน สพป.ขอนแก่น เขต 4 เอง ถึง 4 คน อีก 19 คน สอบได้และบรรจุที่จังหวัดเชียงใหม่ กำแพงเพชร จันทบุรี และเพชรบุรี แต่ที่น่าผิดสังเกตก็คือ ทั้ง 23 คน มีคะแนนสอบเต็ม และเกือบเต็มกันทุกคน หากไม่มีการทุจริตก็ต้องถือได้ว่ากลุ่มลูกจ้างและพนักงานราชการที่อยู่ ในเขตนี้มีความรู้ความสามารถที่เก่งมาก
ด้านนายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวน ข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วย กล่าวว่า กรรมการฯได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ข้อมูลที่ได้รับกรรมการฯไม่มีสิทธิ์ หรือมีอำนาจไปชี้ว่าใครผิดใครถูก แต่คนที่จะพิจารณาข้อมูลเหล่านี้คือผู้ที่มีอำนาจอย่างรัฐมนตรี ดีเอสไอ และ ก.ค.ศ. ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่องนี้ ขณะนี้กรรมการฯได้รับความร่วมมือในการให้ปากคำจากพยานบุคคลที่ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครั้งนี้มากขึ้น โดยหลายคนตัดสินใจมาให้ความร่วมมือเพราะเกรงกลัวความผิด กรณีที่บุคคลใดก็ตามรู้เห็น หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตอยากกลับใจก็มาให้ข้อมูลกับตนและกรรมการฯได้ เพราะหากให้ความร่วมมือก็พร้อมจะเสนอแนะเพื่อกันไว้เป็นพยาน แต่หากนิ่งเฉย ดีเอสไอไปตรวจสอบพบร่วมกันกระทำความผิดในภายหลัง ก็คงต้องถูกดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับบุคคล จำนวน 7 รายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วยใน สพป. ขอนแก่น เขต 3 แล้ว โดยมีนายพะโยม ชินวงศ์ ผอ.การศึกษาพิเศษ สพฐ. เป็นประธาน พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งให้ ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 เข้ามา ช่วยราชการที่ สพฐ. รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคล ไปช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 และผู้อำนวยการกลุ่มบุคคลประจำ สพป.ขอนแก่น เขต 3 ไปช่วยราชการที่ สพป.นครราชสีมา เขต 1 เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงเข้าไปทำหน้าที่
ต่อข้อถามว่า จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนเพิ่มเติม ในเขตพื้นที่อื่นที่มีการทุจริตหรือไม่ เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.พร้อมจะไปตรวจสอบทุกพื้นที่ที่มีข้อมูลการทุจริตเกิดขึ้น เหตุที่ สพฐ.ตรวจสอบสพป.ขอนแก่น เขต 3 ก่อน เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีหลักฐาน มีข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจน ยืนยันว่าการตรวจสอบทุกอย่างจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและระบบ สพฐ.ต้องทำการตรวจสอบเป็นจุดๆ ส่วนข้อมูลของดีเอสไอที่พบจังหวัดที่มีปัญหาเพิ่ม เช่น อุดรธานี ยโสธร ชัยภูมิ นั้น คงต้องรอผลสรุปของดีเอสไอและ สพฐ.จะนำข้อมูลการตรวจสอบมาประกอบการพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป
...