สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ประกาศผลการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาไทยปี 2554 มจธ.จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ ติดกลุ่มสถาบันที่มีจำนวนหน่วยงานได้รับการเมินในระดับดีเยี่ยมมากที่สุดในกลุ่มสาขาวิศวกรรมศาสตร์และกลุ่มสาขาเทคโนโลยี...
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2556 ศ.ดร.ปรีดา วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางโครงการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและประกาศผลการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศ ในปี 2554 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค โดยในปีนี้มีมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน และมหาวิทยาลัยนานาชาติ เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 34 แห่ง โดยข้อมูลที่ใช้ในการประเมิน ประกอบด้วย บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ หรือ Proceedings ของการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ.2552-2553 และสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรที่ได้รับการอนุมัติในปี พ.ศ.2553-2553 โดยมีการถ่วงน้ำหนักบทความที่ตีพิมพ์และประเภทสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรด้วย โดยตัวชี้วัดในการประเมินมี 4 ตัว ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ 1 Equivalent International Journal Publication/Faculty Member แสดงถึงความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ โดยวัดจำนวนบทความต่ออาจารย์ 1 ท่าน ซึ่งบทความแต่ละประเภทจะให้น้ำหนักต่างกันตั้งแต่ 1 ลงมาถึง 0.125 โดยบทความที่มีผู้เขียนหลายคนจะให้ปริมาณงานเฉลี่ยตามจำนวนผู้เขียนด้วย ตัวชี้วัดที่ 2 Journal Impact Factor/Faculty Member แสดงถึงความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor ต่ออาจารย์ 1 ท่าน ตัวชี้วัดที่ 3 Equivalent International Journal Publication/Discipline แสดงถึงความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ตัวชี้วัดที่ 4 Journal Impact Factor/Discipline แสดงถึงความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor
โดยในปี 2554 นี้ กลุ่มสาขาวิศวกรรมศาสตร์และกลุ่มสาขาเทคโนโลยี คือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการประเมินในระดับ 5 (ระดับดีเยี่ยม) มากที่สุดในแต่ละกลุ่มสาขา /กลุ่มสาขาแพทยศาสตร์-ทันตแพทยศาสตร์และกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย /กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการเกษตรและสัตวแพทยศาสตร์ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนสถาบันมีจำนวนหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยมากที่สุด ในปี 2554 คือมหาวิทยาลัยมหิดล
รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ Times Higher Education World Rankings เพิ่งจัดลำดับให้ มจธ. เป็น 1 ใน 400 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกปี 2012-2013 และเป็นมหาวิทยาลัยไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอยู่ในกลุ่ม 351-400 กล่าวว่า ผลจากการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษาไทยในปี 2556 นี้เป็นผลมาจากนโยบายของ มจธ.ในด้านการมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยวิจัย และเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉะนั้นการที่ มจธ.มีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยีซึ่งเป็นระดับบัณฑิตศึกษาโดยเฉพาะ จึงช่วยให้งานวิจัยของ มจธ.มีความเข้มแข็ง อีกทั้งการเน้นเรื่องคุณภาพงานวิจัยทำให้มีผู้นำความรู้จากงานวิจัยมาตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อให้ผู้อื่นนำไปอ้างอิงไปใช้งานได้ต่อไปจำนวนมาก ซึ่งผลของการประเมินครั้งนี้แสดงให้เห็นว่างานวิจัยของ มจธ.มีคุณภาพและปริมาณอยู่ในระดับที่ดี ทั้งๆ ที่มหาวิทยาลัยของเรามีอาจารย์จำนวนน้อย ทำให้เห็นว่านักวิจัยมีผลิตภาพต่อคนสูง ซึ่งนอกจากจะนำมาซึ่งชื่อเสียงด้านงานวิจัยของประเทศแล้วยังเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า มจธ.เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งชาติที่ Times Higher Education World Rankings ให้ลำดับแรงกิ้ง กับมจธ.เป็นหนึ่งใน 400 ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ ซึ่งมีความสอดคล้องกันกับการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยของสถาบันอุดมศึกษาไทย โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามทิศทางข้างหน้าของ มจธ.ยังต้องพัฒนาต่อไป เพราะในบางสาขายังสามารถพัฒนาเพิ่มระดับคุณภาพของงานวิจัยได้อีก โดยมหาวิทยาลัยจะให้การสนับสนุนส่งเสริมให้ทุกๆ สาขาในมหาวิทยาลัยค่อยๆ ไต่ระดับยิ่งๆ ขึ้นไป รวมทั้งนำผลงานวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม
ด้าน ศ.ดร.สวัสดิ์ ตันตระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า โครงการการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับสาขาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยเกิดขึ้นเพื่อสำรวจและประเมินคุณภาพ งานวิจัยเชิงวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลที่ได้จะทำให้ทราบถึงระดับความเข้มแข็งและพัฒนาการของงานวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสาขาวิชาต่างๆ ในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการสนับสนุนการวิจัยในด้านที่เกี่ยวของของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. ต่อไป.
...