“อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” รมว.ไอซีที ชี้ทาง กสท บริหารต่อ หลังหมดสัญญาสัมปทานคลื่น 1,800 MHz กสทช. คาด เปิดประมูลคลื่นได้ช่วง ต.ค.ถึงปลายปี 56...
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า แผนการดำเนินการเพื่อรองรับการสิ้นสุดสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เจ้าของสัมปทาน บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่มีลูกค้า 17 ล้านราย และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) มีลูกค้า 80,000 ราย ที่ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ รายละ 12.5 MHz เพื่อให้บริการลูกค้าระบบ 2 จี โดยจะสิ้นสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย.2556 จะต้องคืนกลับมาที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 หรือ พ.ร.บ.กสทช.
รมว.ไอ ซีที กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กสท อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เกี่ยวข้อง ส่วนตัวต้องการให้ยุติในขั้นเจรจาให้ได้ โดยเชื่อว่าน่าจะยุติได้ในช่วงต้นปี 2556 เนื่องจากทุกหน่วยงานน่าจะมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจร่วมกันได้ ซึ่งถ้าทะเลาะกันก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร แต่หากยุติไม่ได้ในเรื่องของกฎหมายอาจจะต้องไปถึงชั้นศาล อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่า กสทช.ดำเนินตาม พ.ร.บ.กสทช.ที่เขียนไว้ชัดเจนว่า การบริหารจัดการคลื่นว่าถ้าจะทำอะไรก็ตามประโยชน์ต้องเกิดกับประชาชน ดังนั้น จะบริหารจัดการธุรกิจอย่างไรก็ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย
น.อ.อนุ ดิษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการโอนย้ายลูกค้านั้น เป็นสิทธิ์ของลูกค้า โดยจากลักษณะการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ จะมีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมย้ายและยังจะใช้โครงข่ายดั้งเดิมอยู่ ซึ่งในวันที่ 15 ก.ย.2556 ทรูมูฟ และดีพีซี จะหมดสัญญาสัมปทาน ส่วนตัวมองว่าแนวทางที่ดีที่สุด คือ ให้คลื่นอยู่ที่ กสท ส่วนเรื่องระบบนั้น กสท จะบริหารจัดการอย่างไร และต้องเจรจากับทรูมูฟ เช่น ให้ทรูมูฟมาดำเนินการให้ในฐานะลูกจ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ กสท กับทรูมูฟจะตกลงกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2556 เป็นต้นไป จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของ กสท ซึ่งหาก กสท ทำได้ตามแผนที่วางไว้ รายได้จากตรงนี้จะมาช่วยเสริมในส่วนของรายได้สัมปทานที่จะหายไปด้วย ซึ่งการเริ่มต้นบริหารจัดการ กสทช.ควรทำโดยเร็ว ซึ่ง กสทช.น่าจะมีกระบวนการพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะมีทั้งแผนและแนวทาง ซึ่งทาง กสท เองมีแผนแล้วแต่ กสทช.ต้องชัดเจนกับ กสทฯ ด้วย ซึ่งนโยบายไอซีทีก็ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในการดำเนินธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ระบบ HSPA คลื่น 850 MHz ร่วมกับ ทรูมูฟ นั้น จะเป็นได้แค่การทำตลาดผ่านผู้ให้บริการบนโครงข่ายเสมือน หรือเอ็มวีเอ็นโอ ดังนั้น ในปี 2556 เมื่อได้ข้อยุติทั้งหมด ทรูมูฟจะเป็นเอ็มวีเอ็นโอของ กสท สิทธิ์ที่เคยได้เสมือนสัมปทานก็ไม่มีในสัญญา จึงทำให้ กสท มีรายได้จากการให้บริการเอ็มวีเอ็นโอมาแทนรายได้สัมปทาน เพราะ กสท สามารถแบ่งสัดส่วนคาร์ปาซีตี้ให้เอกชนรายอื่นทำเอ็มวีเอ็นโอได้อีก หลังจากที่ กสทฯ กับ ทรูมูฟ ได้มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการครองสิทธิ์คาร์ปาซิตี้ลงจาก 80% แล้ว
พ.อ.เศรษฐ พงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทค. กล่าวว่า กสทช.จะนำคลื่น 1,800 MHz จาก กสท ไปเปิดประมูลภายในปี 2556 โดยคาดว่าคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมรองรับสัญญาสัมปทานสิ้นสุด จะสรุปแผนการ 1,800 MHz ได้ในช่วงปลายเดือน ม.ค.56 และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ด กทค.เดือน ก.พ.2556
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อบอร์ด กทค.เพื่อจัดตั้งคณะทำงานในการเปิดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1,800 MHz โดยคาดว่าหลังจากนั้น จะสามารถเปิดประมูลคลื่นดังกล่าวได้ประมาณเดือน ต.ค. หรือปลายปี 2556
...