"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จรดปากการ่วมเป็นพันธมิตรกับสโมสร จูบิโล่ อิวาตะ ยอดทีมจากญี่ปุ่น มหาอำนาจลูกหนังเอเชีย เจ้าของแชมป์เจลีก 3 สมัย หวังยกระดับยุทธศาสตร์ด้านลูกหนังเพื่อเป้าหมายก้าวสู่ทีมชั้นนำของเอเชีย โดยมีไทยยามาฮ่าเป็นตัวกลางประสานความยิ่งใหญ่...

วันที่ 11 ธ.ค. ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ไร้พ่ายฤดูกาลล่าสุด ซึ่งเป็นสโมสรแรกของไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย ได้จัดงานแถลงข่าว "Asia Football Exchange" พันธมิตรความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ “SCG MUANGTHONG UNITED-CLUB JUBILO IWATA” โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นายวิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ มร.ฮิโรยูกิ โยชิโนะ ประธานกรรมการบริหารสโมสรจูบิโล่ อิวาตะ มร.ฟูมิอากิ นางาชิมา ประธานกรรมการบริหาร และนายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมทั้งผู้บริหารทั้ง 2 สโมสร ผู้สนับสนุนนักฟุตบอล แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมงานจำนวนมาก

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า การเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรของทั้งสองสโมสรในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญอีกครั้งของเรา และของวงการฟุตบอลไทย หลังจาก 2 ปีที่แล้ว สโมสรได้ลงนามในสัญญากับทีมระดับโลกอย่าง แอตเลติโก มาดริด จากสเปน มาแล้ว และครั้งนี้ก็ได้สโมสรชั้นนำจากประเทศที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นหมายเลข 1 ของเอเชีย คือ จูบิโล่ อิวาตะ จากเจ-ลีก ญี่ปุ่น เข้าร่วมเป็นพันธมิตร แลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางด้านฟุตบอล ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานักฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงทีมชุดใหญ่ รวมทั้งในระดับโค้ช การแลกเปลี่ยนนักเตะ เพิ่มโอกาสให้นักฟุตบอลของไทยได้ไปฝึกทักษะและค้าแข้งกับสโมสรระดับชั้นนำของเอเชีย อีกทั้งยังเป็นการสร้างสโมสรให้เป็นที่รับรู้ โดยเฉพาะกับที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรามีโปรแกรมแข่งขันในถ้วยใบใหญ่ของเอเชียอย่างเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้านี้ด้วย

ด้านนายวิลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้บริหารสโมสรจูบิโล่ อิวาตะ ที่ให้เกียรติร่วมเป็นพันธมิตรกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ได้เริ่มก่อตั้งสโมสร ก็มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งการประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 5 ครั้งในรอบ 6 ฤดูกาล รวมทั้งทำสถิติใหม่เป็น “แชมป์ไร้พ่าย” ด้วยการไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

“สำหรับการเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับ สโมสรจูบิโล่ อิวาตะ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญอย่างยิ่งของสโมสร ซึ่งจูบิโล่ อิวาตะ นั้นถือเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นมาก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1970 ประสบความสำเร็จมากมายในการแข่งขันรายการต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นและระดับเอเชีย ถือเป็นทีมระดับแถวหน้าของเอเชีย มีนักเตะดังๆ ที่ทั่วโลกและแฟนบอลชาวไทยรู้จักดี ผมเชื่อว่าการได้ยอดทีมของทวีปเอเชียมาเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนายุทธศาสตร์ด้านฟุตบอลให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งระบบ อาทิ การนำนักเตะชุดใหญ่จูบิโล่ มาเล่นกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด การส่งนักเตะเยาวชนและโค้ชไปฝึกที่ญี่ปุ่น การแลกเปลี่ยนโค้ชเพื่อยกระดับมาตรฐานฟุตบอลทั้งระบบ เป็นต้น และในท้ายที่สุดจะช่วยให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับ พร้อมก้าวเป็นทีมชั้นนำของเอเชียได้ในอนาคตอันใกล้นี้” นายวิลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ การเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ จูบิโล่ อิวาตะ ในครั้งนี้ ทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ร่วมกับบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ พันธมิตรทางธุรกิจที่ยาวนานของ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือกับบริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าของสโมสรจูปิโล่ อิวาตะ เพื่อนำจูบิโล่ฯ มาร่วมเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

ในส่วน มร.ฮิโรยูกิ โยชิโนะ ประธานกรรมการบริหารสโมสรจูบิโล่ อิวาตะ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สำหรับการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ 3 สมัย รวมทั้งสมัยล่าสุด เป็นสโมสรแรกของประเทศไทยได้ทำให้เรามีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับทีมที่ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น หลังจากที่เราทราบว่า เอสซีจี เมืองทองฯ ใช้เวลาเพียงฤดูกาลเดียวได้แชมป์ดิวิชั่น 2 และปีต่อมาขึ้นมาแข่งดิวิชั่น 1 ก็ได้แชมป์ภายในปีนั้น จนขึ้นมาลีกสูงสุดก็สามารถครองแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน ก่อนจะพลาดฤดูกาลเดียว และทวงแชมป์คืนในฤดูกาลล่าสุด นอกจากนี้ เราทราบว่า สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังมีแฟนบอลที่หนุนหลังพวกเขาอย่างเหนียวแน่น สิ่งนี้เป็นผลมาจากการทำงานหนัก และการบริหารงานอย่างดีเลิศ

“จูบิโล่ฯ มีเป้าหมายที่จะขยายฐานการตลาดไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และมีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจฟุตบอลสูงมาก โดยการทำสัญญาในครั้งนี้ เราได้มีการตกลงเป็นพันธมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด การรบริหารประสบการณ์ที่ล้ำค่าซึ่งกันและกัน และเรายืนยันที่จะให้นักเตะทั้งชุดใหญ่ เยาวชน รวมถึงโค้ช ได้มีโอกาสไปเรียนรู้ในสถาบันของเรา เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอลอาชีพ จากนี้ไปการร่วมมือกันระหว่าง จูบิโล่ อิวาตะ กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะทำให้วงการฟุตบอลไทยกับญี่ปุ่นผูกพันกันมากขึ้น แฟนคลับของเราจะเหนียวแน่นกันมากขึ้น และเชื่อว่าแฟนบอลไทยจำนวนมาก ที่จะติดตามผลงานของจูบิโล่ฯ มากขึ้นเช่นกัน ในขณะเดียวกัน แฟนบอลญี่ปุ่นโดยเฉพาะแฟนๆ จูบิโล่ฯ ก็จะติดตามผลงานของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และไทยพรีเมียร์ลีกมากขึ้นด้วย สุดท้ายในอนาคตเราจะกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งอย่างแน่นอน” มร.ฮิโรยูกิ โยชิโนะ กล่าว

สำหรับการเซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตร 2 สโมสรชั้นนำของเอเชียวันนี้ โดยรายละเอียดหลักๆ ของสัญญา ประกอบไปด้วย การยืมตัวและซื้อขายนักฟุตบอลระหว่างทั้ง 2 สโมสร การแลกเปลี่ยนโค้ชเพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนของทั้ง 2 สโมสร การร่วมสร้างอะคาเดมี่สอนฟุตบอลร่วมกัน การเดินทางมาอุ่นเครื่องกับ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกร่วมกันระหว่าง 2 สโมสร ตลอดจนการร่วมมือทางด้านการตลาดของทั้ง 2 สโมสร เป็นต้น

...