วันหยุดยาวอย่างนี้ผมไม่อยาก เขียนอะไรที่มันซีเรียส บังเอิญได้ เห็นเมล์ของพรรคพวกที่ส่งเรื่องของกีฬาชักเย่อ หรือ “ชักกะเย่อ” มาให้ลองอ่านซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจทีเดียวครับ
ชักกะเย่อที่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า “tug-of-war” ถือเป็นการละเล่นที่พวกเราทุกคนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก
กติกาไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ใช้เชือกเส้นโตๆยาวพอประมาณ แล้วแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละเท่าๆกัน มีเส้นแดนตรงกลาง พอสัญญาณเริ่มทั้ง 2 ฝ่าย จะเริ่มออกแรงดึงเชือก โดยพยายามดึงฝ่ายตรงข้ามให้เข้ามาในแดนของตัวเอง ฝั่งไหนทำสำเร็จก็ชนะไป
เหลือเชื่อว่าการละเล่นง่ายๆแบบนี้ ปัจจุบันจะพัฒนากลายเป็นกีฬาระดับชาติไปแล้ว หลังจากเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา “สมาคมชักกะเย่อแห่งประเทศไทย” เพิ่งได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)ไปสดๆ ร้อนๆ
โดยตำแหน่งนายกสมาคมชักกะเย่อไทยคนแรก คือ เสี่ยนริส สิงหวังชา โปรโมเตอร์มวยคนดัง ที่จับพลัดจับผลูมานั่งเก้าอี้ตรงนี้ได้อย่างไรก็ไม่รู้
ขณะเดียวกันก็ยังมี วริภาส กล่ำทวี ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์กีฬาชักกะเย่อแห่งทวีปเอเชียคนใหม่ ซึ่งมีวาระ 4 ปี
นั่นหมายความว่า วงการชักกะเย่อไทยของเราจะได้รับการสนับสนุนให้ก้าวไกลไปสู่กีฬาสากลในระดับนานาชาติได้ไม่ยาก
โดยล่าสุดจากการประชุมสหพันธ์ฯเมื่อเร็วๆนี้ สรุปว่ากีฬาชักกะเย่อจะถูกเสนอให้เป็นกีฬาสาธิตในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่พม่าในปีหน้า ขอเพียงมีชาติสมาชิกอย่างน้อย 6 ใน 10 ประเทศรับรองก็สามารถบรรจุได้ทันที
นอกจากนี้ในที่ประชุมก็ยังโหวตให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชักกะเย่อชิงแชมป์เอเชีย ในช่วงปลายปี 56 โดยคาดว่าจะชิงชัยกันระหว่าง 1-5 ธ.ค. เพื่อเป็นหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในหลวง 5 ธันวามหาราชด้วย
สเต็ปต่อไปของสมาคมชักกะเย่อไทย ก็คือ การวางแผนจัดแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งวางไว้จะจัดในช่วงต้น ก.พ.ปีหน้า โดย จ.ปทุมธานี รับหน้าเสื่อเจ้าภาพ
ก่อนหน้านั้นหลังปีใหม่อาจจะมีการประชุมใหญ่ เพื่ออบรมผู้ตัดสินและโค้ชชักกะเย่อจากทั่วเอเชีย โดยงานนี้จะมีผู้แทนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม เพื่อเรียนรู้รายละเอียด กฎกติกาการแข่งขันในระดับสากล
เป้าหมายของชักกะเย่อไทย นอกจากบรรจุเข้ากีฬาซีเกมส์ให้ได้แล้ว อนาคตอันใกล้ยังเตรียมจะผลักดันให้ไปถึงเอเชียนเกมส์
เท่านั้นไม่พอยังฝันไกลไประดับโอลิมปิกเกมส์โน่นเลย
อะไรมันจะขนาดน้านนน !!!
...
จ๊อกกิ้งบอย