บอร์ด กสท. อนุมัติไลเซ่นส์ 2 ช่องรายการ CTH จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 4 ช่อง และจีเอ็มเอ็ม บี 10 ช่อง มีผล 7 วันนับจากนี้ นับเป็น 16 ไลเซ่นส์ลอตแรกของประเทศ ขณะที่เตรียมเอ็มโอยู ช่อง 5 9 และ 11 ทดลองทดสอบออกอากาศระบบดิจิตอลทีวี วันที่ 3 ธ.ค.55...

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า คณะกรรมการ หรือบอร์ด กสท. มีมติพิจารณาใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ แบบบอกรับสมาชิก โดยใช้ระบบและวิธีการให้บริการผ่านดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 จำนวน 16 ช่องรายการ ประกอบด้วย บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH จำนวน 2 ช่องรายการ ได้แก่ ช่อง ซี ซีรีส์ (C Series) เพื่อนำเสนอรายการบันเทิงเกี่ยวกับภาพยนตร์ซีรีส์จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย โดยซื้อลิขสิทธิ์มาจากผู้ออกอากาศ ในสัดส่วนมากกว่า 90% ของเวลาทั้งหมด และช่อง ซี สปอร์ต (C SPORT) เพื่อนำเสนอรายการกีฬา เช่น การแข่งขันกอล์ฟ มวยปล้ำ เทนนิส โดยการจัดซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ และรายการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาในประเทศ เช่น ฟุตบอลดิวิชั่น 1 เป็นต้น และรายการข่าวสารสาระความรู้อื่นๆ โดยเน้นรายการประเภทกีฬาในสัดส่วนมากกว่า 90.5% ของเวลาทั้งหมด

ขณะที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ช่องรายการ ประกอบด้วย 1.จีเอ็มเอ็ม สปอร์ต ทู เอสดี (GMM SPORT TWO SD) 2.จีเอ็มเอ็ม สปอร์ต ทู เอชดี (GMM SPORT TWO HD) 3.ยูโร สปอร์ต เอสดี (EU SPORT SD) และ 4.จีเอ็มเอ็ม สปอร์ต ทู เอชดี (EU SPORT SD) โดยเผยแพร่การแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งระบบเอสดีเป็นระบบภาพปกติ ส่วนระบบเอชดี เป็นระบบภาพคมชัดสูง (ไฮเดฟินิชั่น) ส่วน บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด จำนวน 10 ช่องรายการ ซึ่งเป็นรายการประเภท กีฬา ความบันเทิง สารคดี และสาระความรู้

...

ประธาน กสท. กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าพิจารณาคำขอใบอนุญาต 5 พันบาท ต่อ 1 ช่องรายการ และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% และค่าธรรมเนียม กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ USO อีก 2% ต่อปี ขณะที่ใบอนุญาตช่องรายการทั้ง 16 ใบนี้ นับเป็นการออกใบอนุญาตรอบแรกของประเทศไทย และจะมีผลบังคับใช้ วันที่ 3 ธ.ค.2555 หรือหลังจากให้วันนี้ (26 พ.ย.) 7 วัน นอกจากนี้ ในวันที่ 3 ธ.ค.2555 กสทช. ยังเตรียมทำบันทึกความเข้าใจ เรื่องความร่วมมือในการทดลองระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล กับช่อง 5 9 และ 11 เพื่อการทดลองทดสอบระบบดิจิตอลทีวี ก่อนเปลี่ยนจากอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอล โดยนำร่องทดลองออกอากาศใน 2 พื้นที่ คือ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่