เลขาฯ กสทช. เผยเซ็นชื่อทำหนังสือส่งกระทรวงการคลัง เพื่อหารือการส่งเงินประมูล 3จี ยอด 22,269.375 ล้านบาท พร้อมส่งล็อกไฟล์ประมูล 3จี วันที่ 16 ต.ค.ให้ สตง.รับทราบภายในวันที่ 7 พ.ย.นี้ ลั่นศาลปกครองและ กทค. เท่านั้นที่ล้มประมูลได้...

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า ขณะนี้ กสทช. ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อสอบถามว่าสามารถรับเงินค่าประมูลใบอนุญาต หรือไลเซ่นส์ 3 จี คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่เอกชนทั้ง 3 ราย จ่ายงวดแรกแล้ว 50% รวมมูลค่า 22,269.375  ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย) และได้รับดอกเบี้ยจากการฝากธนาคารประมาณวันละ 5 ล้านบาท ดังนั้น จึงอยากให้คลังรับเงินส่วนนี้ไป เพราะถือเป็นรายได้ของประเทศ โดยมี เลขาฯ กสทช.เป็นผู้เซ็นชื่อในเอกสาร ขณะที่สิ้นสุดวันมอบไลเซ่นส์ 3จี วันที่ 18 ม.ค.2556 หรือ 90 วัน นับจากวันที่ประมูล 3จี 

ต่อข้อถามถึงเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.บันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ หรือล็อกไฟล์การประมูล 3จี เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เพื่อใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ โดย กสทช. ต้องส่งให้ภายในวันที่ 7 พ.ย.นี้ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าว แต่ถ้าใครจะขอก็สามารถทำหนังสือเข้ามาขอได้ โดย กสทช. ยินดีจะส่งให้ แต่ กสทช. จะไม่เดินสายเอาไปให้

เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า บอร์ด กสทช. เกี่ยวข้องเฉพาะการประกาศหลักเกณฑ์การประมูล แต่ขั้นตอนหลังจากนั้น เป็นอำนาจของบอร์ด กทค. ส่วนการส่งเรื่องเข้าบอร์ด กสทช. รับทราบนั้น บอร์ดสามารถไม่รับทราบได้ ทั้งนี้ มีกระแสข่าวระบุว่า หากนำเรื่องเข้าบอร์ด กสทช. แล้ว กสทช. บางรายไม่มีการลงมติรับทราบ จะไม่สามารถดำเนินการ 3จี ต่อได้นั้น เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของบอร์ด กทค. แต่แค่เป็นการนำเข้าบอร์ด กสทช. เพื่อให้รับทราบเท่านั้น

“ศาลปกครอง และ กทค. เท่านั้นที่จะสั่งระงับการประมูลครั้งนี้ได้ และหากเกิดปัญหาใดๆ กทค. ทั้ง 4 คนจะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่เกี่ยวกับบอร์ดคนอื่นๆ และการยืนยันอำนาจดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย กสทช. และกทค.จะรายงานที่ประชุมเพื่อรับทราบเท่านั้น และ กทค.ยืนยันอำนาจชัดเจนและประธานกสทช.ไม่มีสิทธิ์บังคับได้” นายฐากร กล่าว     

รายงานข่าวจาก กสทช. กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ได้รวมตัวกันทำหนังสือถึง พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. เพื่อยืนยันว่าการรับรองผลและการให้ใบอนุญาตให้บริการ หรือไลเซ่นส์ 3 จี คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เป็นอำนาจของบอร์ด กสทช. โดยมี พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ งามสง่า และนายธวัชชัย จิตรภาษนันท์ ซึ่งเมื่อรวมกับเสียงของ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ทำให้ขณะนี้มี 5 เสียงใน กสทช. ที่เห็นว่าบอร์ดใหญ่มีอำนาจ ส่วน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. ไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้

...