ขณะโชว์อิทธิฤทธิ์งานเทศกาลกินเจ
สยอง งานถือศีลกินเจเมืองระนอง ร่างม้าทรงเทพเจ้า “หลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย” ปีนบันไดมีด 39 ขั้น แสดงอิทธิฤทธิ์เหลืออีกแค่ 3 ขั้นจะถึงยอด จู่ๆม้าทรงกลับปล่อยมือทิ้งตัวจากบันไดมีดสูงกว่า 10 เมตร ร่างลอยละลิ่วลงมากระแทกพื้นเลือดทะลักดับอนาถ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและความตกตะลึงของชาวบ้านนับร้อยที่มาร่วมพิธี วิจารณ์แซดมีลางร้ายบอกเหตุตั้งแต่ช่วงยกเสาเทวดาและตะเกียงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นตั้ง ขณะที่ประเพณีถือศีลกินเจเมืองภูเก็ตและพังงาสุดคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนนุ่งขาวห่มขาวร่วมงานบุญเนืองแน่น
ร่างม้าทรงเทพเจ้าปีนบันไดมีดสูง 39 ขั้นโชว์อิทธิฤทธิ์ พลาดท่าตกลงมาร่างกระแทกพื้นดับสยองต่อหน้าต่อตาชาวบ้านนับร้อย เปิดเผยเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.ปรีชา กรรมแต่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง รับแจ้งมีผู้พลัดตกจากที่สูงลงมาบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในโรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย ชุมชนซอย 1 ข้างโบสถ์คริสต์ หมู่ 4 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จึงไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานซีเมนต์หน้าศาลเจ้า พบกองเลือดอยู่ห่างจากบันไดมีดที่ใช้ประกอบพิธีทรงเจ้า ราว 1.5 เมตร มีชาวบ้านนุ่งขาวห่มขาวมุงดูเหตุการณ์กันเนืองแน่น ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายธวัชชัย หรือหมู กุชะนันท์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/8 หมู่ 4 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิระนองสงเคราะห์นำส่ง รพ.ระนอง และเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางไปชันสูตรพลิกศพที่ตึกอุบัติเหตุ รพ.ระนอง พบว่าสภาพศพกระดูกหักหลายท่อน อวัยวะภายในบอบช้ำอย่างหนัก หลังแพทย์และตำรวจร่วมกันชันสูตรศพเรียบร้อยแล้ว ครอบครัวของนายธวัชชัยไม่ติดใจเอาความและขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านตามประเพณีต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 21.30 น. นายธวัชชัย ผู้ตายได้อาสาเป็นม้าทรงในพิธีถือศีลกินเจประจำปีของศาลเจ้าร่วมกับร่างม้าทรงคนอื่นๆ โดยนายธวัชชัยมีเทพเจ้าหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยเข้าประทับร่าง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเทพเจ้าหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ยเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่ม 5 ทหารเอกของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ถัง ระหว่างที่ร่างม้าทรงได้แสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการไต่ บันไดมีด 39 ขั้น สูงกว่า 10 เมตร ที่ตั้งอยู่บริเวณลานซีเมนต์หน้าศาลเจ้าให้ประชาชนชม มีร่างม้าทรงเทพเจ้าองค์อื่นๆปีนบันไดมีดขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว 4 คน และทำพิธีโปรยฮู้หรือยันต์ศักดิ์สิทธิ์แจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมพิธี
กระทั่งถึงคิวของนายธวัชชัยปีนบันไดมีดเป็นคนที่ 5 หลังจากนายธวัชชัยปีนบันไดมีดขึ้นไปจนถึงขั้นที่ 36 จึงได้หยุดพักและทำท่าจะปีนกลับลงมาทั้งที่เหลืออีกเพียง 3 ขั้นจะถึงยอดบันไดมีดแล้ว ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น จู่ๆนายธวัชชัยก็ปล่อยมือทั้งสองข้าง แล้วทิ้งตัวหงายหลังร่างลอยละลิ่วลงมาเอาหลังกระแทกพื้นปูน ทำให้แขนซ้ายหัก กระดูกทิ่มออกมานอกผิวหนัง เลือดทะลักออกปากและจมูก ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและตกตะลึงของผู้ร่วมพิธีนับร้อยคนที่เห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯรีบนำตัวนายธวัชชัยส่ง รพ.ระนอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนที่โรงพระซาหลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย สถานที่เกิดเหตุ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของเพื่อนๆม้าทรงด้วยกัน มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงลางบอกเหตุตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ซึ่งในขณะพิธีเปิดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 ที่ลานหน้าเทศบาลเมืองระนอง ได้มีพิธียกเสาเทวดา ในปีนี้ใช้ลำไผ่ขนาดใหญ่สูงหลายสิบเมตร ขณะทำพิธียกเสาเทวดาปรากฏว่าลำไผ่เกิดแตกช่วงท่อนบน สร้างความตะลึงและตกใจให้ประชาชนที่มาร่วมพิธี แต่เจ้าหน้าที่ได้เร่งแก้ไขปัญหา โดยนำเหล็กยาวไปดามประกบเข้ากับลำไผ่และใช้เชือกมัด พร้อมนำรถเครนมาช่วยยกเสาเทวดาขึ้นตั้ง ก่อนอัญเชิญตะเกียงไฟศักดิ์สิทธิ์ 1 ดวงขึ้นสู่ยอดเสาได้สำเร็จ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีต่างโจษจันกันว่าเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายหรือสิ่งไม่ดีกับพิธีกินเจของเมืองระนองในครั้งนี้อย่างแน่นอน กระทั่งร่างม้าทรงนายธวัชชัยที่ประทับร่างทรงเทพเจ้าหลี่ฮู้อ๋อง–เอี๋ยได้หล่นลงจากที่สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเชื่อกันว่าเทพเจ้าได้ออกจากร่างม้าทรงกะทันหัน จึงทำให้ม้าทรงวูบหมดสติจนตกลงมา และมารู้สึกตัวพูดคุยกับเพื่อนๆได้หลังร่างหล่นลงมากระแทกพื้นแล้ว โดยนายธวัชชัยพูดเพียงว่าเจ็บๆ ก่อนหมดสติไป
ขณะที่ร่างม้าทรงเทพเจ้าคนหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ลักษณะอาการของนายธวัชชัยที่กางมือออกแล้วดีดตัวออกจากบันไดมีดในช่วงที่เจ้าประทับทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ เป็นอาการที่เรียกกันว่า “ถูกเจ้าทิ้งหรือถอยทรงกลางอากาศ” ซึ่งมักจะพบได้ในหลายสถานที่และหลายรูปแบบ เช่น กำลังทรงเจ้าอยู่แล้ววิ่งไปขวางถนนให้รถพุ่งชน หรือกำลังทรงเจ้าอยู่บนรถแห่ จู่ๆก็กระโดดทิ้งตัวลงมาจากรถจนเสียชีวิต เป็นต้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้คนในวงการร่างม้าทรงเข้าใจกันดีว่า ร่างม้าทรงคนดังกล่าวอาจไปกระทำผิดคำพูด ผิดสัจจะวาจา หรืออาจจะไปกระทำอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้องตามหลักปฏิบัติของร่างม้าทรงจนถูกเจ้าทิ้งกลางอากาศ โดยที่ตัวเองก็อาจจะไม่รู้ว่าไปทำผิดอะไรมาเช่นกัน
สำหรับบรรยากาศประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2555 วันเดียวกันนี้ ได้มีขบวนแห่พระรอบเมืองหรืออิ้วเก้งของศาลเจ้าฮุนจงอ๊าม จ้อสู่ก้ง นาคา ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยมีขบวนธงและป้ายชื่อเทพเจ้าแห่นำหน้า ต่อมาเป็นเกี้ยวหามรูปพระเรียกว่าไท่เปี๋ย หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆออกนั่งเกี้ยวตามชั้นและยศของเทพ จากนั้นเป็นขบวนของนิ่มสิ่ว หรือฉัตรจีน ตามด้วยเกี้ยวพระใหญ่ หรือตั่วเหลี้ยน หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประทับองค์กิ๋วฮ๋องไต่เต่ ในขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้านหรือสำนักงานและมีการจุดประทัดต้อนรับ โดยไฮไลต์ในขบวนแห่จะมีการแสดงอิทธิฤทธิ์ของเหล่าม้าทรง มีการใช้ของแหลมทิ่มแทงตามร่างกายเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และรับเคราะห์แทนผู้ร่วมประเพณีถือศีลกินผัก ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้าร่วมพิธีเนืองแน่น
ส่วนที่บริเวณลานทุ่งพระโพธิ์ เขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า นายชัยณรงค์ มหาแร่ นายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่า นายมานะ จรุงเกียรติขจร นายอำเภอตะกั่วป่า นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ นายก อบจ.พังงา ร่วมกันเปิดงานเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 15-23 ต.ค.นี้ โดยมีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนกว่า 1,000 คน พร้อมใจกันแต่งชุดขาวเข้าร่วมงานและได้ร่วมกันจัดขบวนรณรงค์ถือศีลกินเจ เพื่อลดละเลิกอบายมุข ทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร มีการเดินรณรงค์รอบเมืองตะกั่วป่า เป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมสืบสานประเพณีถือศีลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดมานานกว่า 100 ปี เป็นการบำเพ็ญศีล สมาทานกินเจ บริโภคแต่อาหารผักผลไม้ ละเว้นการทำบาปไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต รักษาศีลทำจิตใจให้บริสุทธิ์ งดการเที่ยวเตร่ ไม่ดื่มของมึนเมา
...