ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 : "โดนัลด์ ทรัมป์" นำพรรครีพับลิกัน ประกาศชัยชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา และสื่อต่างๆประเทศคาดการณ์ว่าทรัมป์ชนะแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปปรากฎตัวที่ศูนย์เลือกตั้งของเขาที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา โดยขึ้นเวทีพร้อมด้วยเมลาเนีย ทรัมป์ ภรรยาของเขา ตลอดจนบุตรชาย และทีมงานหาเสียง พร้อมประกาศชัยชนะในขณะที่คะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้ไป 266 คะแนน
โดยทรัมป์กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะอย่างงดงาม และประสบความสำเร็จทางการเมือง ทรัมป์บอกว่าต่อไปประเทศสหรัฐฯจะได้รับการเยียวยา และจะเป็นยุคทองของอเมริกา หลังเขาได้รับชัยชนะในหลายรัฐ โดยเฉพาะใน 2 รัฐสมรภูมิที่สำคัญอย่างจอร์เจีย และนอร์ท แคโรไลนา ทำให้คะแนนนำห่างคู่แข่ง
โดยทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 47 ด้วยคะแนนตามที่ฟ็อกซ์ นิวส์ คาดการณ์คือ 277 ต่อ 226 หลังจากคาดว่าทรัมป์จะชนะในรัฐวิสคอนซิน หนึ่งในรัฐสวิงในการเลือกตั้งนี้ และเป็นรัฐที่ทรัมป์เคยพ่ายแพ้อย่างเฉียดฉิวในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน
ส่วนรัฐสวิงอีก 6 รัฐทรัมป์ก็มีคะแนนนำและคาดว่าจะชนะด้วย ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะและสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐบ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมาที่ 51 เสียงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ไป 41 เสียง และยังเหลือที่นั่งที่ยังไมได้ประกาศผลอีก 8 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังคาดว่าพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวขอบคุณครอบครัวของเขาที่อยู่เคียงข้าง
...
ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส ที่ก่อนหน้านี้ไปรวมตัวอย่างเนืองแน่น เพื่อรอลุ้นผลเลือกตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่แคมเปญแฮร์ริส มหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด ในวอชิงตัน ดีซี. ได้ทยอยสลายตัวเดินทางออกจากพื้นที่จนเหลือผู้คนบางตา หลังจากทีมงานของแฮร์ริสออกมาเปิดเผยว่า นางแฮร์ริสจะไม่มีการกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในค่ำคืนนี้ ทำให้บรรยากาศเงียบเหงาลงถนัดตา
ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ต้องผิดหวังที่ไม่ได้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่ได้รับเลือกเป็นสมัยที่ 2 แบบสมัยไม่ต่อเนื่องกัน ต่อจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1892 โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ขาดด้วยรัฐสมรภูมิทั้ง 7 ที่ผลโพลก่อนหน้านี้ออกมาว่ามีโอกาสที่จะพลิกผันตกเป็นของพรรคใดก็ได้ทั้งสองพรรค.