“สุขอนามัย” วัคซีนธรรมชาติสกัดโรคร้าย
กว่า 1 เดือนแล้ว ที่ปัญหาการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างความหวาดผวากับพ่อแม่ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 5 ขวบ
ทั้งที่จากข้อเท็จจริงแล้ว โรคมือ เท้า ปาก ถือเป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำฤดูกาลในเกือบทุกปี แต่ปีนี้เหมือนโรคจะพุ่งเป้าเข้าคุกคาม กทม. ซึ่งเป็นใจกลางของประเทศและถึงขั้นที่หลายคนมองว่าเป็นวิกฤติ เมื่อมีการสั่งปิดโรงเรียนเกือบทั่วประเทศเฉียด 100 โรง โดยเฉพาะโรงเรียนมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯนับ 10 โรงสั่งปิด เนื่องจากพบเด็กป่วยด้วยโรคนี้ เริ่มจากสาธิตจุฬาฯ และตามมาติดๆ ทั้งกรุงเทพคริสเตียน สาธิต มศว สวนกุหลาบ เป็นต้น
สถานการณ์ยิ่งเหมือนเลวร้ายเพิ่มขึ้นอีก เมื่อถูกตอกย้ำด้วยการเสียชีวิตของเด็กน้อยวัย 2 ขวบ จากโรคมือ เท้า ปาก ถึง 2 รายติดๆกันภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ โดยเด็กคนแรกเป็น ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลย่านชานเมืองของกรุง-เทพฯ ส่วนอีกคนเป็นเด็กชาวกัมพูชาที่มาอาศัยอยู่ใน จ.ระยองแล้วนานกว่า 1 ปี
แม้ว่าทาง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะออกมายืนยันว่า การระบาดของโรคนี้ยังไม่น่าวิตกกังวลและยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ พร้อมทั้งระบุด้วยว่าสถานการณ์การระบาดเริ่มลดลงแล้ว
แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การพบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ย่อมสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคนี้ได้

...
เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก จะขับออกมาทางน้ำลาย สารคัดหลั่ง ตุ่มน้ำเหลืองที่ฝ่ามือและอุจจาระ ดังนั้นการติดต่อของโรคนี้จะเกิดจากการสัมผัส รับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ที่ปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว ซึ่งการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสนี้อยู่ที่การรักษาสุขอนามัยที่ดี นั่นคือ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรคมือ เท้า ปาก ได้แล้ว
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวช-ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า แม้จะยอมรับว่าโรคมือ เท้า ปาก ในประ-เทศไทยในปี 2555 นี้ จะเกิดการระบาดมากที่สุดในรอบ 30 ปี ตั้งแต่เป็นแพทย์มา แต่ถือว่าไม่ใช่ เรื่องที่น่าวิตก เพราะโรคมือ เท้า ปาก ที่ระบาด ในขณะนี้เกิดจากเชื้อไวรัส คอกซากี เอ 6 มากที่สุด โดยจากการตรวจผู้ป่วยที่เป็นโรคมือ เท้า ปาก ที่เข้ามาตรวจที่ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิกกว่า 500 ราย พบว่าเกิด จากเอนเทอโรไวรัส 71 ประมาณร้อยละ 10 แต่เกิดจากคอกซากี เอ 6 มากกว่าสายพันธุ์เอนเทอ-โรไวรัส 71 ถึง 4 เท่า และพบคอกซากี เอ 16 อีก ประมาณเกือบร้อยละ 10 ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในปีนี้จึงมีจำนวนผู้ป่วยเยอะ แต่อัตราตายต่ำ เพราะในกลุ่มผู้ที่เสียชีวิตจะมาจากเชื้อเอน-เทอโรไวรัส 71
“โรคมือ เท้า ปาก ที่เกิดจากเชื้อไวรัสคอกซากี เอ 6 ถือว่าเป็นชนิดที่ไม่รุนแรง โดยหากเกิดจากเอนเทอโรไวรัส 71 จะถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุด โดยเชื้อมีโอกาสที่จะเข้าไปทำให้ระบบสมองอักเสบมากกว่าเชื้อคอกซากี เอ 6 ซึ่งหากเป็นเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ได้รับเอนเทอโรไวรัส 71 จะเกิดโอกาสสมองอักเสบ 1 ใน 300–500 ส่วนเด็กที่อายุเกิน 1 ขวบ จะเกิดโอกาส 1 ใน 3,000–5,000 คน ขณะที่หากเป็นคอกซากี เอ 6 โอกาสที่เชื้อนี้จะเข้าไปทำให้ระบบสมองอักเสบน้อยมาก โดยจะอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 10,000 คน– 1 ใน 100,000 คน” คุณหมอยง อธิบายถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ ที่ทำให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก
นพ.ยงยอมรับด้วยว่า การจะรู้ว่าผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสชนิดใดไม่สามารถสังเกตได้จากอาการภายนอกแน่นอน แต่จะรู้ได้จากการส่งเชื้อไปตรวจในห้องปฏิบัติการเท่านั้น และเนื่องจากโรคมือ เท้า ปาก เป็นกลุ่มอาการ ดังนั้น จึงอาจจะไม่เกิดอาการทั้งหมดก็ได้ เช่น ไม่มีอาการที่มือ ที่เท้า หรือที่ปากเลยก็ได้ ดังนั้น หากพบว่าเด็กมีไข้สูง และไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน ทั้งยังมีการอาเจียน ซึมลง ชัก แขนขาอ่อนแรง ซึ่งเป็นอาการที่บ่งบอกว่าเชื้อได้เข้าไปทำอันตรายต่อระบบสมองแล้ว ต้องรีบนำผู้ป่วยพบแพทย์ทันที อย่านิ่งนอนใจ เพราะหากไม่รีบพบแพทย์จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และนอกจากเชื้อจะเข้าไปทำให้สมองอักเสบได้แล้ว ยังสามารถเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบด้วย โดยอาการสมองอักเสบที่เกิดขึ้นมักจะเป็นส่วนของก้านสมองที่ควบคุมการหายใจและการเต้นของหัวใจ จึงทำให้ผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว และเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้ป่วยที่เสียชีวิตจึงมีอาการหัวใจล้มเหลว หรือหายใจล้มเหลว

...
เราจึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้และใช้สถานการณ์การระบาดของโรคมือ เท้าปาก ในปี 2555 เป็นบทเรียนและเพิ่มมาตรการในการให้ความรู้กับประชาชนในด้านการรักษาสุขอนามัย เพื่อเตรียมรับมือกับโรคนี้ ตลอดจนโรคระบาดอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เพราะในปีนี้ต้องถือว่ายังเป็นโชคดีของประเทศไทยที่เชื้อไวรัสมือ เท้า ปาก ที่ระบาดมากนั้นเป็นไวรัสคอกซากี เอ 6 ที่มีความรุนแรงน้อย แต่ หากเกิดการระบาดเป็นเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 แล้วละก็ เราไม่อยากนึกถึง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย
คงไม่มีใครอยากเห็นสถานการณ์การระบาดของโรคมือ เท้า ปาก เกิดเป็น “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” จนเกิดความสูญเสียชนิดที่ไม่สามารถ เรียกคืนกลับมาได้ !!!
ทีมข่าวสาธารณสุข