"ตำรวจ ปคม." สนธิกำลัง "สน.หนองจอก" บุกทลายคาราโอเกะดัง เปิดนวดแผนโบราณ ดัดแปลงห้องนวดนับ 10 ไว้รองรับแขก แฝงค้ากามสาวไทย-ลาว สอบสวนเจ้าของยอมรับสารภาพ

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 67 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ สว.กก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง พ.ต.ต.ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นางรัศมี วรทุม อายุ 52 ปี ข้อหา "เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีฯ, รับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต" พร้อมจับกุมสาวชาวไทย 3 ราย แจ้งข้อหา "มั่วสุมในสถานการค้าประเวณีฯ" และสาวชาวลาวอีก 3 ราย แจ้งข้อหา "มั่วสุมในสถานการค้าประเวณีฯ เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน" โดยจับกุมทั้งหมดได้ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง แขวงและเขตหนองจอก กทม.

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ปคม. สืบทราบว่าที่คาราโอเกะดังกล่าว มีการให้บริการนวดแผนโบราณ แต่กลับลักลอบแอบแฝงการค้าประเวณีทั้งหญิงไทยและหญิงต่างด้าวชาวลาวภายในร้าน เจ้าหน้าที่ ปคม. จึงร่วมกับตำรวจ สน.หนองจอก วางแผนล่อซื้อ ให้สายลับปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการ พบภายในร้านมีพนักงานสาวมานั่งดื่มกินกับลูกค้า เสนอขายบริการทางเพศอยู่ สายลับจึงตกลงจ่ายเงินค่าซื้อบริการ จากนั้นจึงพาขึ้นไปบริเวณห้องชั้นบนของร้าน พร้อมตระเตรียมถุงยางอนามัยเพื่อใช้ในการร่วมประเวณี จึงได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่รออยู่เข้าจับกุม   

จากการเข้าตรวจสอบภายในร้าน พบด้านล่างมีโต๊ะให้ลูกค้านั่งดื่มกิน ส่วนบริเวณชั้น 2-3 ดัดแปลงซอยห้องกว่า 10 ห้อง มีฟูกปูนอนกับพื้น เพื่อใช้ในการนวดแฝงค้าประเวณี และยังตรวจพบถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นภายในร้าน ส่วนพนักงานหญิงที่ให้บริการอยู่ภายในร้าน เป็นหญิงไทยและหญิงสาวชาวลาว รวม 6 คน แบ่งเป็นสาวไทย 3 คน และสาวลาว 3 คน เจ้าหน้าที่ได้นำทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง เพื่อช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จากการสอบถามทราบว่าไม่มีการบังคับแต่อย่างใด นอกจากนี้ จากการสอบสวน นางรัศมี (เจ้าของร้าน) ให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง กก.1.บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

...

"ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการ ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสถานบริการร้านคาราโอเกะ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ห้ามปล่อยปละละเลยให้มีการแอบแฝงการค้าประเวณี และรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานในสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นสาเหตุซึ่งนำไปสู่การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนโดยทั่วไป หากผู้ใดพบเบาะแสการกระทำความผิด ขอให้แจ้ง บก.ปคม. ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1191" ผบก.ปคม. กล่าว