สส.เชียงใหม่ ก้าวไกล ถามนายกฯ ฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ แต่ทำไมไม่เป็นนโยบายเร่งด่วน ชง 5 ข้อ แก้ปัญหาจริงจัง พร้อมตั้งคำถามถึง เศรษฐา และ 5 รัฐมนตรี จะแก้ให้ประชาชนอย่างไรได้บ้าง

เมื่อเวลา 13.52 น. วันที่ 12 ก.ย. 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ ที่มีการพิจารณาเรื่องด่วน คือ คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ 

นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคก้าวไกล อภิปราย ถึงเรื่อง PM 2.5 ว่า ไม่มีการระบุนโยบายที่เป็นรูปธรรม คำแถลงมีแบบลอยๆ แทบไม่ต่างจากปี 2562 ทั้งที่รัฐบาลเปลี่ยนไปแล้ว พร้อมทั้งเสนอแนะว่า รัฐบาลต้องแก้กฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกันสิทธิของประชาชนในการฟ้องร้องหน่วยงานที่ก่อมลพิษ และตรากฎหมายเพื่อกำหนดบทลงโทษแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในและนอกประเทศ ใช้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

โดยเสนอแนะชั้นที่ 1 คือระบบสาธารณสุข เนื่องจากภาคเหนือมีอัตราผู้ป่วยมะเร็งปอดสูงสุดในประเทศ ไม่ต่างจากสูบบุหรี่ 2,000 มวนต่อปี ซึ่งรัฐต้องจัดระบบสวัสดิการเชิงรุกในการตรวจมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องให้กับประชาชนในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ชั้นที่ 2 คือการจัดการพื้นที่เกษตร ทั้งการจัดการภายในประเทศ เช่นรัฐต้องสนับสนุนการรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร และจัดกองทุนในเรื่องดังกล่าว ส่วนการจัดการภายนอกประเทศ คือ การห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาทุกชนิด รวมถึงติดฉลากสินค้าที่มีที่มาจากการเผา 

ชั้นที่ 3 การบริหารจัดการไฟ คือต้องวางแผนเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ไฟป่าขนาดใหญ่และไฟป่าซ้ำซาก และต้องกระจายงบประมาณให้ท้องถิ่นที่เจอปัญหาไฟป่าซ้ำซาก

...


ชั้นที่ 4 การจัดเก็บข้อมูลและการแจ้งเตือน ต้องใช้ข้อมูลจุดความร้อน ร่องรอยการเผาไหม้ มาประเมินแนวทางการควบคุมไฟ และต้องมีระบบแจ้งเตือนผ่าน SMS 

ชั้นที่ 5 ศูนย์บัญชาการ คือการกระจายอำนาจ และกำหนดเป้าหมายปี 2567 อย่างชัดเจน โดยกำหนดไม่ให้มีวันไหนมีค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน AQI 200 และกำหนดเป้าหมายให้มีค่าฝุ่น PM 2.5 ในช่วง 150-200 AQI ไม่เกินปีละ 30 วัน

นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า เรื่อง PM 2.5 ทางรัฐบาลระบุว่าเป็นเรื่องวาระแห่งชาติ แต่กลับไม่มีนโยบายเร่งด่วนในเรื่องนี้ อีกทั้งรัฐบาลยังทราบดีว่าสาเหตุหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน มาจากกลุ่มทุน แต่ไม่เห็นนโยบายเรื่องนี้เลย 

“ขอแนะนำแบบนี้นะครับ เลือกตั้งครั้งหน้า วงเล็บไว้ท้ายนโยบายนะครับ ว่านโยบายนี้สามารถทำได้จริง นโยบายนี้ใช้เพื่อการหาเสียงเท่านั้น หรือนโยบายนี้ทำได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลกับพรรค... เอาให้ชัด เพื่อให้คนเห็นด้วยกับหลักเกณฑ์นี้ไปเลือกท่าน”

นายภัทรพงษ์ ยังฝากคำถามไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า อีก 4 เดือน ประชาชนจะเจอปัญหา PM 2.5 จะทำอะไรเป็นการเร่งด่วน จะแก้ปัญหานี้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร จะเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.หมอกควันข้ามแดนหรือไม่ จะจัดสรรงบให้ท้องถิ่นเท่าไร

พร้อมฝากคำถามไปยัง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงสวัสดิการตรวจมะเร็งปอด ให้กับประชาชนภาคเหนือหรือไม่ จึงขอความชัดเจนเรื่องกรอบเวลา รวมถึงฝากไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีการออกนโยบายห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่มาจากเผาหรือไม่ ตลอดจนฝากไปถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะเริ่มรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรมาทำไฟฟ้าหรือไม่ และ มีนโยบายสนับสนุนแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อลดการเผาหรือไม่ 

ทั้งนี้ยังฝากไปถึงนายประเสริฐ จันทรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเรื่องการเตือนภัยและเรื่องการรับรู้ข้อมูล Burn Scars อย่างไร และฝากคำถามไปถึง พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าจะมีแผนดำเนินการอย่างไรกับปัญหาไฟป่าและปัญหาฝุ่นในอีก 4 เดือนข้างหน้าอย่างไร