คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ไทยรัฐออนไลน์" เปิดใจชีวิตฟ้าหลังฝนของนักแสดงหนุ่ม แอนดรูว์-กรเศก หลังถูกกล่าวหาเสพยาไอซ์ แต่สุดท้ายก็ฝ่ามรสุมชีวิตมาได้ พร้อมเผยถึงรักครั้งใหม่หลังจากที่ถูกคนรักบอกเลิกช่วงเกิดมรสุมชีวิต...
ตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมหลังบุกตรวจค้นและพบยาไอซ์รวมถึงอุปกรณ์เสพยาในคอนโดฯ แต่แล้วสุดท้ายนักแสดงหนุ่ม แอนดรูว์-กรเศก โคร์นิน ก็พิสูจน์ตัวเองจนพ้นข้อกล่าวหา หลังจากศาลยกฟ้องคดีนี้ เนื่องจากพยานฝ่ายโจทก์เบิกความมีพิรุธ ซึ่งการกลับมาทำงานในวงการบันเทิงเต็มตัวครั้งนี้นอกจากจะมีผลงานละครและพิธีกรมาฝากแฟนๆ แบบจุใจแล้ว เรื่องหัวใจของหนุ่มคนนี้ก็ยังเป็นสีชมพูกับหวานใจคนใหม่อีกด้วย เรียกว่าเป็นช่วงฟ้าหลังฝนของหนุ่มคนนี้ก็ว่าได้ คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ไทยรัฐออนไลน์" เลยขอเปิดใจนักแสดง-พิธีกรหนุ่มถึงชีวิตฟ้าหลังฝนแบบเต็มๆ แฟนๆ ของหนุ่มคนนี้ไม่ควรพลาด
Q : กลับมาครั้งนี้มีงานอะไรบ้าง?
A : ก็มีละคร 3 เรื่อง และมีพิธีกร 4 รายการ สำหรับละครมาหยารัศมีก็กำลังออนแอร์อยู่ ถึงจะมาน้อยแต่ก็มาดี (ยิ้ม) เหมือนเป็นละครเรื่องแรกกับช่อง 7 เจอทีมงานนักแสดงใหม่หมด ผมก็ยังเก็บข้อมูลเรียนรู้กันไปว่าทำงานกันแบบไหน ระบบการทำงานเป็นไง พอละครออนแอร์ไปฟีดแบ็กดีมาก แฟนคลับก็กลับมากันเยอะมาก มีเพิ่มด้วย รู้สึกดีใจครับที่ทุกคนยังรักและโอเคกับเราอยู่ เรื่องนี้บทดีผสมร้าย จะเทคแคร์นางเอก เราร้ายกับนางร้าย แล้วเราโดนนางร้ายหลอกอีกที ค่อนข้างหักมุมพอสมควร ถึงจะน้อยก็เดินเรื่องพอสมควร ส่วนเรื่องอุบัติเหตุร้ายมาก ป่วนเขาหมด อ่านบทแล้วก็พอสมควรเลยครับ ผมว่านักแสดงที่ดีควรเล่นได้ทุกบท ไม่ควรเกี่ยงบท ถ้าเราเล่นร้ายได้ถึง คนดูจะเชื่อเรา เราเล่นเป็นคนดีก็ต้องดีจริงไม่ใช่ยังมีตาเจ้าชู้อยู่ครับ ส่วนอีกเรื่องเป็นละครค่ายกันตนาครับ ยังไม่อยากบอกชื่อเรื่องนะครับ เปิดกล้องก็สิ้นเดือน พ.ค.นี้ เป็นละครแนวไซไฟ เป็นละครใหม่ครับ เรื่องนี้ก็เล่นร้ายแบบเป็นลูกของซาตานครับ
...
Q : งานพิธีกรเห็นว่าทำเป็นรายการเกี่ยวกับรถหมดเลย?
A : ใช่ครับ ทั้ง 4 รายการ ทั้งเทสรถลองรถ มีทั้งฟรีทีวีและช่อง Grandprix Channel ครับ ซึ่งเป็นรายการที่ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ยังทำอยู่หมดเลยครับ จริงๆ ทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เบรกเรื่องละครอะไร แต่ผมรู้สึกว่าในฐานะเด็กคนนึงรู้สึกน้อยใจ ด้วยอารมณ์ในตอนนั้น ก็อยากให้ละครเขาออกมาดี เขาหวังกับผมไว้มาก ผมไม่อยากทำให้เขาเสียใจ เข้ามาไม่ทันจะทำประโยชน์เลยก็สร้างเรื่องแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่เล่นดีกว่า ขอพิสูจน์ตัวเองครับ
Q : กลับมาครั้งนี้เหมือนเป็นฟ้าหลังฝนเลย ผู้ใหญ่มีเตือนๆ ให้ระวังตัวมากขึ้นไหม?
A : มีบ้างครับ แต่จะเป็นส่วนตัวผมเองพูดมากกว่า หลังจบเรื่องมาก็บอกทางผู้ใหญ่ว่าผมจะเลือกคบคน เลือกใช้ชีวิต หลังจากเราลั้นลามานาน จะไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ให้กับบริษัท
Q : แฟนๆ เข้าใจในตัวเรามากขึ้นไหม?
A : ผมว่าคนดูมองออกตั้งแต่วันแรกว่ามันคืออะไร และมันจริงอย่างที่ผมคิด ส่วนคนที่ไม่เชื่อเราก็ไม่สามารถไปบังคับอะไรเขาได้ เราทำตัวเราให้ดีที่สุด ให้เขาโฟกัสเรื่องงานของเราครับ
Q : พอกลับมาทำงานกลัวไหมว่าคนอื่นที่ร่วมงานจะติดภาพข่าวเก่าๆ ของเรา?
A : ผมต้องบอกก่อนว่าผมชนะคดีไม่ใช่ชนะเพราะยาแก้ไอ ผมไม่ได้ชนะคดีเพราะศาลตัดสินผิดหรือถูก ผมชนะคดีเพราะศาลยกฟ้อง
Q : กลัวคนมองไหมว่าที่เราชนะคดีเพราะมีอะไรที่มากกว่านั้น?
A : คือผมไม่ได้มีนิสัยเรียบร้อย ถ้าใครไม่ได้อยู่ใกล้ผม จะไม่รู้จักตัวตนของผมหรอกว่าผมฮา อาจจะมีคนเกลียด ด้วยความทะเล้นกวนๆ ของผม แต่ผมไม่เคยก้าวร้าวหรือปีนเกลียวผู้ใหญ่คนไหนครับ
Q : พอผ่านวิกฤติมาได้ คนรอบข้างโล่งใจมากไหม?
A : เขาโล่งตั้งแต่วันแรกที่ผมโดนแล้วครับ ไม่มีใครไปอินตามคนที่สร้างขึ้นมา ผมยิ้มตั้งแต่วันแรก ไม่มีร้องไห้สักแอะ เพราะผมมั่นใจ ผมไม่ได้เป็นคนดีเรียบร้อย แต่ผมเชื่อมั่นว่าผมไม่ได้ไปฆ่าใครตาย
Q : ช่วงที่ผ่านมาได้ไปเช็กกระแสเรื่องข่าวที่ผ่านมาในอินเทอร์เน็ตบ้างไหม?
A : ก็ดีมากกว่าลบครับ แต่จริงๆ ผมไม่อ่าน ก็มีคนมาบอกเรื่องกระแสลบในเน็ตบ้าง แต่ว่าผมตัดไปนานแล้ว คือถ้าใครจะดำเนินชีวิตนี้ไม่ว่าจะอยู่วงการอะไร แล้วอินแต่ในอินเทอร์เน็ต มันเฟค ไปเช็กไอพีเถอะมันซ้ำ มันเชื่ออะไรใครไม่ได้ครับ
...
Q : เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนชีวิตครั้งใหญ่เลยไหม?
A : โอ้โห คือถ้าตายตอนนี้ก็ไม่เสียดายนะ เพราะผมผ่านมาทุกอย่าง นี่คือครั้งที่แย่ที่สุดในชีวิต ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ได้ เจ็บมาก เจ็บแล้วจำเลย (ผิดหวังกับกลุ่มเพื่อนนี้มาก?) อย่าเรียกว่าเพื่อนเลยครับ ไม่ใช่เพื่อนด้วยซ้ำ เป็นคนที่เพิ่งรู้จักครับ จริงๆ เรื่องของเรื่องทั้งหมดมันไม่ได้เกิดกับกลุ่มนั้น เพียงแต่เขาเป็นส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนั้น ผมพูดไม่ได้ว่าใคร แต่คนคนนั้นเขารับกรรมไปแล้วระยะนึงตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ผมก็รู้สึกแย่ไปเลยครับ แต่ผมคิดว่าผมมีสัจจะ ผมเป็นลูกผู้ชายพอมากกว่าคนบางคน
...
Q : มีข่าวออกมาทำให้สาวๆ หายไปหมดเลยไหม?
A : ไม่หายครับ ผมมีแฟนแล้วด้วย เป็นคนนอกวงการ เป็นลูกสาวเซียนพระ ชื่อน้องนาวครับ ผมรู้จักคุณอาของเขาก่อน คือคุณอุ๊ กรุงสยาม พอดีผมชอบพระ แต่ผมไปเจอเขาเพราะเขาเป็นเพื่อนรุ่นน้อง เจอกันมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสพัฒนาสัมพันธ์เพราะตอนนั้นผมมีแฟนแล้ว ผมชอบเขามาก เป็นคนที่เราปลื้มอยู่แล้ว ไม่มีเบอร์ติดต่ออะไร แต่ดวงจริงๆ ที่ทำให้ได้เจอกันอีก
Q : เรื่องข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเขารับได้ไหม?
A : เขาไม่ใส่ใจเลยครับ เขาเชื่อในตัวเรา ตอนที่คบกันเป็นช่วงที่เกิดเรื่องแล้วครับ ผมก็รู้สึกดีที่ถึงแม้เรามีช่วงแย่ๆ แต่เขาก็คบกับเรา ผมอยากจะบอกอย่างนึงว่าการที่เราจะคบใครสักคน อย่าคบกันเฉพาะตอนดีๆ กัน ช่วงที่เราแย่ที่สุด เขาควรจะอยู่ข้างเรา ตอนดีๆ ไม่ต้องมาบอกเราว่ารัก เราวัดตอนที่เราแย่ ใครที่อยู่ข้างเรา ผมเห็นทุกอย่าง ช่วงที่เกิดเรื่องคนเก่าเขาเลิกผม แต่ก็ไม่ได้โทษเขานะ ผมคบกับเขา 7 ปี เลิกกับเขามา 3 ปี ผมให้โอกาสเขามา 3 ปี ผมพิสูจน์ตัวเองในวันที่ผมชนะ ผมก็คิดว่าเขายังรอผมอยู่ นี่แหละที่ทำให้ผมรักคนนี้ (แฟนใหม่) มาก ผมเอาบทเรียนที่เกิดขึ้นกับคนเก่ามาใช้กับคนใหม่ ผมไม่เคยนอกใจเขาแม้แต่นิดเดียว จากที่เคยมีบ้างตามประสาผู้ชาย ช่วงที่เราเกิดเรื่องแล้วเขาหายไปก็เคว้งนิดนึงแต่ก็ทำใจ แอบเสียใจนิดๆ ที่ทำไมไม่เป็นเขาที่อยู่ข้างเรา แต่ผมคิดว่ามันเป็นสัจธรรม ใครทำอะไรก็เอาเถอะ
...
Q : ที่แฟนเก่าเลิกกับเรานอกจากเพราะข่าวแล้วเป็นเพราะเจ้าชู้รึเปล่า?
A : ไม่ครับ คือ 3 ปีแรกก็ยอมรับว่าเจ้าชู้ แต่ 4 ปีหลังก็รักเขา ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันบ้าง เราเป็นเพื่อนกัน ผมไม่โกรธไม่เกลียดใคร เป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่ผมเป็นคนให้โอกาสและให้อภัยคน แม้กระทั่งเพื่อนผมก็ตาม ไม่ว่าจะทำไม่ดีสักแค่ไหน เวลาผ่านไปเดือนนึงผมก็ลืมแล้ว
Q : กับคนรักใหม่ตอนนี้แฮปปี้มากไหม?
A : แฮปปี้มากครับ เขาคือกำลังใจ เขาเข้าใจหมดทุกอย่าง เขาอาจจะเด็กกว่ามาก ผมอายุ 27 เขาอายุ 20 ห่างกัน 7 ปี แต่นิสัยเขาความคิดความอ่านโตมาก เหมือนผมนึกย้อนไปหาตัวเองว่าคนนี้แหละเราจะต้องคบ ส่วนคนเก่าเขาอายุมากกว่าผมปีนึงครับ
Q : พอมาคบเด็กก็น่าจะมีความแตกต่างกันเยอะ?
A : ผมคิดว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข การใช้ชีวิตประจำวัน นิสัยใจคอสำคัญกว่าอายุมาก เราดูที่จิตใจของเขา นิสัยของเขาว่าโตขนาดไหน เขาแมนกว่าผมอีก บางทีผมท้อ ทำงานเหนื่อยๆ หรือมีอะไรไม่ลงตัว เขากลับเป็นฝ่ายสอนผมมากกว่า บอกให้ใจเย็นอย่าใช้อารมณ์ มันทำให้เรามีกำลังใจ นี่แหละคือคนที่เราคบแล้วก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่คนที่มาจิกแล้วเช็ก เขาเป็นคนแรกที่ผมคบแล้วทิ้งมือถือไว้ด้วยได้ ผมทิ้งมือถือให้เขาไปเลยวันนึง เขาก็ไม่เปิด เขาให้เกียรติเรามาก มันเลยแฮปปี้ แล้วทุกอย่างก็คลิกกันครับ
Q : มองถึงอนาคตร่วมกันไว้บ้างรึยัง?
A : ยังไม่อยากหวังอะไรมาก ตอนนี้ผมอยากโฟกัสกับงาน ทุกอย่างที่ทำก็บอกได้เลยว่าเพื่อเขา
Q : ช่วงนี้มีงานเยอะ มีเวลาเจอกันไหม?
A : เจอครับ แค่ข้อความอันนึงที่ส่งมาตอนดึกๆ มาถามว่าเหนื่อยไหม สั้นๆ แค่นี้มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาได้ การที่เจอกัน จับมือจับไหล่กัน มันทำให้คนเรารู้สึกมีกำลังใจ
Q : เรียกว่ารักครั้งนี้แฮปปี้มากกว่าครั้งที่แล้วไหม?
A : ไม่อยากเปรียบเทียบเพราะคนเก่าเขาก็ดี เขาก็น่ารัก แต่คนนี้คือคนที่เราคบในปัจจุบัน ผมให้เกียรติกับคนเก่าและคนปัจจุบัน ทุกคนดีหมด แต่ดีในแบบไหน ไม่ดีแบบไหน มันแตกต่างกันไปครับ