สรุปกรณี ศาลอ่านคำพิพากษา คดีม็อบ กปปส. "สุเทพ-3 รมต." และพวกรวม 8 ราย นอนเรือนจำพิเศษกรุงเทพ รอยื่นประกันศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง 12 จำเลย อีก 12 จำเลย รอลงอาญา 2 ปี
จากกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวก เดินทางมายังตามที่ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ กับพวกรวม 39 คน ฐานร่วมกันเป็นกบฏ และข้อหาอื่นๆ กรณีชุมนุมขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป บุกยึดสถานที่ราชการ ปิดกรุงเทพมหานคร (Shutdown Bangkok) ด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพมหานคร รวม 7 จุด
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มจำเลย พร้อมทนายความ ได้ทยอยเดินทางมาที่ศาล โดยมีประชาชนมารอมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ และมีกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธิน ดูแลความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบ

ซึ่ง นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้า ที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 39 คน ทำใจไว้แล้ว ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งศาลจะพิจารณาอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และที่ให้กำลังใจผ่านโซเชียล
สำหรับจำเลย ทั้งหมด 39 คน เดินทางมาศาล 37 คน เนื่องจาก พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เสียชีวิต และจำเลยอีกคน มีคดีถูกจำคุก ไม่สามารถเบิกตัวมาได้ จึงเหลือจำเลยที่สามารถเดินทางมาศาลได้ทั้งหมด 37 คน
...

โดยจำเลยทั้ง 39 คน ประกอบด้วย
1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
2. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
3. นายชุมพล จุลใส
4. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
5. นายอิสสระ สมชัย
6. นายวิทยา แก้วภราดัย
7. นายถาวร เสนเนียม
8. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
9. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
10. น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก
11. พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
12. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
13. นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์
14. นายถนอม อ่อนเกตุพล
15. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
16. พระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ
17. นายสาธิต เซกัลป์
18. นางสาวรังสิมา รอดรัศมี
19. พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี
20. พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ
21. นายแก้วสรร อติโพธิ
22. นายไพบูลย์ นิติตะวัน
23. นายถวิล เปลี่ยนศรี
24. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์
25. นายมั่นแม่น กะการดี
26. นายคมสัน ทองศิริ
27. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์
28. นายพิภพ ธงไชย
29. นายสาวิทย์ แก้วหวาน
30. นายสุริยะใส กตะศิลา
31. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด
32. พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์
33. นายสำราญ รอดเพชร
34. นายอมร อมรรัตนานนท์ (เปลี่ยนชื่อบ่อย)
35. นายพิเชษฐ พัฒนโชติ
36. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ
37. นายกิตติชัย ใสสะอาด
38. นางทยา ทีปสุวรรณ
39. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

จากนั้น ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาเวลา 10.30 น. คำพิพากษามีความยาว 187 หน้า ใช้เวลาอ่านนานกว่า 7 ชั่วโมง โดยศาลเรียกจำเลยให้ยืนทีละคน แล้วให้นั่งลง และอ่านต่อเนื่องโดยไม่พัก ใจความว่า อัยการฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 25 พ.ย.56 ถึง มี.ค.57 ได้มีการยุบสภารัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ.56 แต่พวกจำเลยไม่ยอมรับ
โดยจะเข้าบริหารประเทศ และเสนอชื่อคณะรัฐบาลขึ้นทูลเกล้าฯ เอง และใช้กำลังกระจายปิดสถานที่ราชการที่สำคัญ บังคับให้ข้าราชการหยุดการปฏิบัติงาน บุกเข้าสถานที่ทำการรัฐ คล้องกุญแจ ทำลายทรัพย์สิน ตั้งเวทีปราศรัย เป็นการที่จำเลยกับพวกร่วมกันก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ยุยงให้ประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายในลักษณะก่อการร้ายขัดขวางการบริการขนส่งสาธารณะ ทำลายทรัพย์สินราชการ
นอกจากนี้ ยังปิดถนน 7 จุด อาทิ แจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว ราชประสงค์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหตุเพราะไม่พอใจการบริหารประเทศ และการพยายามนิรโทษกรรมอดีตนายกรัฐมนตรี โดยขัดต่อหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง และเพื่อขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นต้น ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต จึงขอให้ศาลลงโทษ และเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองกับจำเลยเป็นเวลา 5 ปีด้วย
ซึ่ง จำเลยให้การว่า เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ ไม่ได้ทำลายทรัพย์สิน ข้าราชการของหน่วยงานที่เข้าไปก็ให้การต้อนรับ เช่น พาไปไหว้ศาลพระภูมิ

ต่อมา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานความผิดแล้ว พิพากษาจำคุกดังนี้
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 5 ปี
- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 9 ปี
- นายชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน
- นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 7 ปี
- นายอิสสระ สมชัย 7 ปี
- นายวิทยา แก้วภราดัย 1 ปี ปรับ 1.3 หมื่น
- นายถาวร เสนเนียม 5 ปี
- นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 6 ปี 16 เดือน
- นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 1 ปี ปรับ 1.3 หมื่น
- นายสาธิต เซกัลป์ 2 ปี
- พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี 1 ปี
- พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ 1 ปี ปรับ 1.3 หมื่น
- เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ 4 ปี 16 เดือน
- นายมั่นแม่น กะการดี 1 ปี ปรับ 1.3 หมื่น
- พระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ 4 ปี 8 เดือน
- นายคมสัน ทองศิริ 2 ปี
- นายสาวิทย์ แก้วหวาน 2 ปี
- นายสุริยะใส กตะศิลา 2 ปี
- นายสำราญ รอดเพชร 2 ปี 16 เดือน
- นายอมร อมรรัตนานนท์ 24 เดือน
- นายพิเชษฐ พัฒนโชติ 1 ปี ปรับ 1.3 หมื่น
- นายกิตติชัย ใสสะอาด 4 เดือน
- นางทยา ทีปสุวรรณ 1 ปี ปรับ 2.6 หมื่น
โดยจำเลยที่ 6, 9, 10, 12, 14, 17, 19, 20, 25, 35, 37, 38 ให้รอลงอาญา เป็นเวลา 2 ปี
พร้อมยกฟ้อง จำเลยที่ 2, 13, 18, 21, 22, 23, 27, 28, 31, 32, 36, 39
และให้นับโทษ จำเลยที่ 15, 25, 30 กับคดีอื่น ที่ตัดสินไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ศาลได้ตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายชุมพล จุลใส, นายอิสสระ สมชัย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ, เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์, นายสำราญ รอดเพชร และ นางทยา ทีปสุวรรณ เป็นเวลา 5 ปี
ต่อมาทนายความจำเลย ได้ยื่นประกันเเกนนำ กปปส. ซึ่งศาลพิเคราะห์คำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัว นายสมศักดิ์, นายคมสัน, นายสาวิทย์, นายสุริยะใส, นายสำราญ และ นายอมร โดยตีราคาประกันรายละ 6 แสนบาท
ส่วน นายสุเทพ, นายชุมพล, นายพุทธิพงษ์, นายอิสสระ, นายถาวร, นายณัฏฐพล, นายสุวิทย์ และ เรือตรีแซมดิน ศาลอาญาเห็นควรให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา เพื่อมีคำสั่งต่อไป ทำให้ นายสุเทพ กับพวกรวม 8 ราย วันนี้ ต้องถูกควบคุมตัวไปขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ระหว่างรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังศาลอ่านคำพิพากษา กลุ่มจำเลยได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก โดยยอมรับคำตัดสินของศาล อาทิ
"เรียนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ทุกท่าน วันนี้พวกเราแกนนำ กปปส. ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกคนละหลายปี อย่างไรก็ตามทุกคนยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลงครับ" นายสุเทพ โพสต์
"ผมน้อมรับคำพิพากษา พรุ่งนี้ไปขนของออกจากกระทรวงคมนาคม พร้อมลาพี่น้องข้าราชการ จากนั้นเขียนคำอุทธรณ์ศาลให้พิจารณาคำพิพากษา ด้วยความเคารพศาลแต่ไม่เห็นด้วย ซึ่งกฎหมายเปิดโอกาสให้ยื่นได้ จะรีบคัดคำพิพากษามาใช้เขียนคำอุทธรณ์ หลังจากนี้ผมทำหน้าที่ ส.ส. ไม่น้อยอก น้อยใจ ยังมุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน ในบทบาทการเป็น ส.ส. ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ห่วงใยทุกคน" นายถาวร โพสต์
"What will be will be....พวกเราทำดีที่สุด ณ เวลานั้น เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เคยคิดเสียใจ และจะน้อมรับคำตัดสินศาลอย่างสง่างาม...ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ" นางทยา โพสต์
"ผมตระหนักในผลของการกระทำของผมอยู่เสมอว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำไปนั้นเพื่ออะไร เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามาอยู่ ณ ตำแหน่งนี้ก็ยังคงอยู่ในหลักการนั้น ผมจึงตั้งมั่นอยู่เสมอว่าจะต้องพลิกการศึกษาไทยให้ได้ เพราะคือปัจจัยหลักที่ช่วยสร้างศักยภาพที่สำคัญให้กับประเทศ สิ่งที่ได้วางรากฐานไว้ในกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรในกระทรวงศึกษาธิการ ผมเพียงแค่หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะได้รับการถ่ายทอดต่อไป เดินหน้าทำงานต่อ ทำให้ระบบการศึกษาไทยแข็งแกร่งเป็นพื้นฐานที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน
ผมขอขอบคุณบุคลากรทุกท่านในกระทรวงศึกษาธิการที่เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบการศึกษาไทยและร่วมเดินทางกันมากว่า 1 ปีครึ่ง ถึงผมจะไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้จนเห็นแผนงานทั้งหมดสัมฤทธิ์ผล แต่ผมขอฝากอนาคตของการศึกษาไทยไว้กับพวกท่านด้วยครับ" นายณัฏฐพล โพสต์

