กรมอุทยานฯ เผยกรณี "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์" ถ่ายรายการในพื้นที่หวงห้ามบริเวณภูคิ้ง เขตรักษาพันธุ์ฯภูเขียว เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ เผยติ๊กขอเข้าทำรายการผ่าน รมว.ทรัพยากรฯ แต่เรื่องนี้เป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานฯ ...

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณี น.ส.กาญจนา นิตยะ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ได้แจ้งความติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี พิธีกรรายการเนวิเกเตอร์ และพระเอกชื่อดัง ที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเข้าไปถ่ายทำรายการในพื้นที่หวงห้ามบริเวณภูคิ้ง เขตรักษาพันธุ์ฯภูเขียว ว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้กรมอุทยานฯ ไม่ได้ดำเนินคดีกับนายเจษฎาภรณ์ แต่เป็นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ฯ ที่เป็นห่วงเกรงจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จึงไปแจ้งความไว้ ส่วนรายการที่จะออกอากาศ ตนและคณะกรรมการของกรมอุทยานฯ ได้ดูเทปรายการดังกล่าว และอนุญาตให้ออกอากาศในวันที่ 12 ส.ค. นี้ได้แล้ว แต่ขอให้ตัดบางส่วนออกไป เช่น ภาพที่นายเจษฎาภรณ์จับปู หรือต้นไม้เล็กๆ ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม บริเวณดังกล่าวเป็นทุ่งหญ้าตามธรรมชาติที่มีไม้พื้นล่างพืชและสัตว์เล็กๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่ง น.ส.กาญจนามีความเป็นห่วงเพราะที่ผ่านมาเคยมีการเปิดให้ประชาชนเข้าไปใน พื้นที่ได้  แต่ได้ปิดพื้นที่มา 5-6 ปีแล้ว เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง  น.ส.กาญจนาเป็นนักวิชาการซึ่งก็คงมีเหตุผลของเขาในการอนุรักษ์พื้นที่ ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเคยขอให้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ฯ ภูเขียวไม่ยอม เพราะเจ้าหน้าที่มีน้อยเกรงจะดูแลพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึง และอยากให้สภาพป่าได้ฟื้นฟูตัวเอง

นายสุนันต์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับคดีดังกล่าว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นคดีลหุโทษธรรมดา มีโทษปรับไม่เกิน  500 บาท แต่เมื่อเป็นคดีอาญาจึงยอมความไม่ได้ จากนี้จึงขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เข้าใจว่านายเจษฎาภรณ์ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าวระบุว่านายเจษฎาภรณ์ไม่ได้ขออนุญาตกรมอุทยานฯ ก่อนเข้าพื้นที่ แต่ใช้วิธีการขออนุญาตผ่าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ฯ นายสุนันต์ กล่าวว่า คงไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานฯ

ผู้ส่ือข่าวรายงานว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ข้าราชการในกรมอุทยานฯ มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เกิดขึ้นเพราะนายเจษฎาภรณ์ไม่ได้ทำหนังสือขอถ่ายทำรายการผ่านกรมอุทยานฯ แต่ได้ขอเข้าพื้นที่ผ่านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรฯ โดย น.ส.กาญจนา นักวิชาการและเป็นข้าราชการที่มีความเคร่งครัดในหลักการจึงไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำรายการในพื้นที่หวงห้าม ซึ่งมีความเปราะบางด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ  ซึ่งโดยหลักการแล้วเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ มีกฎหมายดูแลที่เข้มงวด มากกว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในเรื่องการท่องเที่ยว แต่เป็นพื้นที่อนุรักษ์และอนุญาตสำหรับการศึกษาวิจัยบางกรณีเท่านั้น 

ทั้งนี้ นายเจษฎาภรณ์มีความผิดตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 37 ซึ่งระบุว่า นอกจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานอื่นใด ซึ่งต้องเข้าไปปฏิบัติการตามหน้าที่ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก พนักงานเจ้าหน้าที่อีกทั้ง ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต้องปฏิบัติตาม เงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง.

...