แน่นอนว่าชาวจังหวัดสงขลาทุกคนต้องรู้จัก ป๋าเปรม หรือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี อดีตรัฐบุรุษ อดีตที่ปรึกษาและกรรมการในคณะอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตัวท่านถูกปลูกสร้างไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่จังหวัดสงขลา
และสำหรับ นายปาล มารวิสุทธิ์ หนุ่มใต้วัย 42 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มรีพลับบลิคซับพลาย นักวิชาการอิสระด้านหุ่นยนต์ ศิษย์เก่าโรงเรียนมหาวชิราวุธ ที่เติบโตมาพร้อมกับบรรยากาศแวดล้อมที่ป๋าเปรม มีคุณูปการกับเด็กนักเรียน และคนในจังหวัด จึงมีความรักและศรัทธาป๋าเปรม ถึงแม้ว่าทั้งชีวิตที่เกิดมาจะมีโอกาสได้เจอป๋าแค่ครั้งเดียว
...
"ตอนนั้นยังเด็กมากเรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนวิเชียรชม จังหวัดสงขลา คุณแม่พาไปนั่งเล่นที่ริมทะเลสาบสงขลา มีน้องชายไปด้วยกัน ระหว่างนั้นเอง ป๋าเปรม เดินมาพร้อมกับตำรวจ 2 นาย มุ่งตรงมาที่ผมและคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็ยกมือไหว้ท่านด้วยความเคารพ พร้อมกับบอกให้ผมกับน้องไหว้ท่าน ซึ่งผมก็ไหว้แล้วหันไปจดจ่อกับการเล่นทรายต่อ ป๋าได้พูดคุยกับคุณแม่ผมซึ่งเป็นชาวบ้านฐานะไม่ได้ร่ำรวย เป็นแค่คนธรรมดาๆด้วยความใส่ใจโดยสื่อสารเป็นภาษาใต้ จากนั้นก่อนที่ป๋าจะเดินจากไปก็ได้ใช้มือลูบหัวผม แล้วบอกว่า ให้ขยันตั้งใจเรียนให้เก่งนะ อนาคตจะได้ทำงานดีๆ เพื่อที่โตมาจะได้ดูแลแม่"
นับจากวันนั้นจนวันนี้ ไม่เคยได้เจอป๋าเปรมอีกเลย แต่คำพูดของป๋าเพียงคำพูดเดียวทำให้มีความขยันตั้งใจเรียนเพิ่มมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะเป็นเด็กที่มีพื้นฐานการเรียนที่ดีอยู่แล้ว เพราะสอบได้ที่ 1 มาตลอดทุกเทอม
"ในวันนั้นผมก็ไม่เคยรู้แบบซึมซับว่าป๋าเปรมเป็นใคร ทำประโยชน์อะไรให้จังหวัดสงขลาบ้าง แต่พอได้เจอครั้งนั้น คุณแม่ก็เล่าให้ฟังถึงคุณงามความดีของป๋าและบอกผมว่าต้องสอบเข้าโรงเรียนมหาวชิราวุธให้ได้ เพราะป๋าเปรมก็เคยเรียนที่นี่ ต่อมาผมก็สอบเข้าเรียนได้ที่นี่และทราบถึงประวัติความเป็นมาของป๋า ทั้งตึกอาคารการเรียนรู้รวมถึงการให้ทุนการศึกษาเด็กนักเรียนที่เรียนเก่งไปเรียนต่อวิชาแพทย์ตามสถานศึกษาต่างๆ และเด็กที่พ่อแม่ยากจนจริงๆ"
นอกจากนี้ เมื่อได้ศึกษาในโรงเรียนมหาวชิราวุธ ก็จะซึมซับถึงคำกล่าวของป๋าเปรมจากปากครูอาจารย์ในโรงเรียนอยู่เสมอเรื่องของการทดแทนพระคุณแผ่นดินเกิด ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามที่จะดำเนินรอยตามคำสอนของป๋าเปรม
"รู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ที่คนสงขลาได้ทำคุณงามความดีเพื่อแผ่นดินไทย ตัวผมเองทุกวันนี้ถึงแม้ว่าจะเคยเจอป๋าเปรมครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็ไม่เคยลืมประโยคที่ท่องจำจนขึ้นใจไว้ โตขึ้นมาผมเลือกที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่เด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังเยาวชนใช้เวลาว่างพัฒนาศักยภาพสอดคล้องกับการเรียนการสอนที่โรงเรียน ซึ่งการจัดแข่งขันผลิตหุ่นยนต์ประเภทต่างๆ ถือเป็นการเสริมทักษะวิชาความรู้ นอกจากนี้ยังได้ถ้วยรางวัลจากพระบรมวงศานุวงศ์ และถ้วยรางวัลจากบุคคลสำคัญในประเทศเอาไว้เชิดชูเกียรติแก่คนในครอบครัวอีกด้วย"
ส่วนเรื่องที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตคือ ได้ร่วมกับอาชีวศึกษา จัดการเรียนรู้ด้านหุ่นยนต์ให้กับนักเรียน ตชด. และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทอดพระเนตรและทรงชื่นชมที่คณะทำงานได้ให้ความสำคัญกับนักเรียน ตชด.
...
"ป๋ามีบุญคุณกับผมและลูกศิษย์โรงเรียนมหาวชิราวุธ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะโรงเรียน ตึกอาคาร โต๊ะนักเรียน ฯลฯ ส่วนหนึ่งเป็นทุนทรัยพ์ส่วนตัวที่ป๋าได้บริจาคให้กับรุ่นน้อง ดังนั้นความทันสมัย ก้าวไกลพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยีของโรงเรียนมหาวชิราวุธ ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย จึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเพราะแรงช่วยขับเคลื่อนของป๋า และท้ายที่สุดแล้วโรงเรียนแห่งนี้ก็ก่อร่างสร้างศิษย์ผลิตเด็กนักเรียนที่มีคุณภาพออกสู่สังคม เพื่อทดแทนพระคุณแผ่นดินตามคำสอนของป๋า" นายปาล กล่าวทิ้งท้าย
...