สองหนุ่มนั่งรถตูหรูอัลพาร์ด แหกโค้งตกลงไปคว่ำขวางทางรถไฟ พลเมืองดีรีบเรียกกู้ภัยไปช่วยแต่ไม่ทัน รถดีเซลรางเปิดหวูดมาแต่ไกล เบรกไม่ทันชนอย่างแรง ตายคาที่ 1 สาหัส 1 

เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 9 เม.ย.62 พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปะเตมีย์ สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเสียหลักพุ่งชนแท่งแบริเออร์ บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานบ้านม้า ช่องทางคู่ขนาน ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น หลักกิโลเมตรที่ 23 ต.บ้านม้า อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตกอยู่บนรางรถไฟ ก่อนถูกรถไฟชนซ้ำ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิพุทไธสวรรย์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและเจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ผ-7773 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ร่องกลางระหว่างรางรถไฟ มีเศษชิ้นส่วนของตัวเครื่องยนต์กระจายเกลื่อน ทั่วบริเวณ ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายอนันต์ ศรีบุญ อายุ 28 ปี ที่อยู่ ม.3 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยร่างอยู่บนรางรถไฟ สภาพร่างกายแหลกเหลว ชิ้นส่วนอวัยวะ มันสมองกระจาย เต็มรางรถไฟ ห่างออกไปเล็กน้อย พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช ทราบชื่อคือ นายวารสาร จารวิจิต อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  โดยทั้งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกระเด็นออกมาจาก รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด 

ตรวจสอบบนรางรถไฟ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบขบวนรถไฟดีเซล ที่ 134 หนองคาย-กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้าขบวนได้รับความเสียหาย ตรวจสอบบนถนนบริเวณทางโค้ง จุดกลับรถใต้สะพานพบแท่งแบริเออร์ ที่กั้นทางโค้งถูกชน และมีเสาไฟฟ้าหักโค่น

...

จากการสอบถามนายศุภโชค หลินกาญจนบุตร พขร.ขบวนรถไฟ ในเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถไฟเพื่อเข้าเทียบที่สถานีรถไฟอยุธยาโดยเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ก็เห็นรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุตกลงมาอยู่บนรางรถไฟแล้ว และเป็นจังหวะเดียวกันที่รถไฟกำลังจะเข้าเทียบชานชาลา และอยู่ในระยะกระชั้นชิด ตนไม่สามารถหยุดรถไฟได้ทัน จึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง

ขณะที่นายสุเมธ สินธุแสง อายุ 42 ปี พลเมืองดีผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายเอเชียกลางสะพานข้ามรถไฟบ้านม้า จากนั้นได้มองลงมาข้างล่าง เห็นรถยนต์เกิดอุบัติเหตุอยู่บนรางรถไฟ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ลงมาข้างล่างเพื่อมาตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ พบผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่ในพงหญ้า ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิมาทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ขณะนั้นรถไฟได้วิ่งมาพอดี จึงพุ่งชนรถยนต์คันดังกล่าวเข้าอย่างจัง เป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อนดังกล่าว ตนรีบเข้าไปดู ก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย นอนอยู่ในรางรถไฟ 

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบตรงจุดเกิดเหตุ และสันนิษฐานว่า รถยนต์น่าจะขับขี่มาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง คาดว่าผู้ขับขี่ไม่ชินทาง จึงทำให้พุ่งชนแท่งแบริเออร์ จนรถกระเด็นตกลงไปบนรางรถไฟและเป็นจังหวะเดียวที่รถไฟกำลังวิ่งเข้าชานชาลา จึงพุ่งชนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนผู้บาดเจ็บ ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป