Thairath Women ตื่นเต้นมากๆๆๆ กอไก่ล้านตัวให้กับ งาน "Met Gala 2019" หรือ "เม็ท กาล่า 2019 งานแฟชั่นระดับโลก"ที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันจันทร์ที่จะถึงนี้ ตามเวลาที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ดังนั้นสาวสายแฟชั่นจงเตรียมตัวให้พร้อม จับตาดูให้ดี ปีนี้คนดังระดับโลกจะมีอะไรมาอวด เพราะธีมงานสำหรับปี 2019 นี้เป็นธีมที่ชิคสุดๆ กับธีมที่มีชื่อว่า "Camp : Notes on Fashion" เราจะมาพูดคุยกับสาวไทยสุดมั่น อย่าง "ป่าน-ณิชาภัทร สุภาพ" สาวไทยเพียงคนเดียวที่ได้เชิญเข้าร่วมงานระดับโลกครั้งนี้ สำหรับงานนี้แล้วถึงคุณจะเป็นดารา จะเซเลบริตี้แค่ไหน หรือมีเงินล้นฟ้าอย่างเดียว ก็ไปไม่ได้นะจ๊ะ รู้มั้ยคุณผู้หญิงทั้งหลาย!! เดี๋ยวไว้เราจะเล่าให้ฟังนะจ๊ะ...(ทำไมแฟชั่นต้องเว่อร์วัง "MET Gala 2019" รู้ลึก "แอนนา วินทัวร์" คือใคร?)

แอบบอกว่า...ตั้งสติจ้า เพราะสาวป่านเธอเม้าส์มอยแบบจัดเต็ม อะไรก็เบรกเธอไม่อยู่ ฟังแล้วอยากจะตามไปยืนดูเธอข้างๆ รันเวย์จริงๆ แหม่...มันช่างน่าสนุกยิ่งนัก โดยเฉพาะกับเรื่องของ โลกแฟชั่น ที่เหล่าคนดัง เซเลบริตี้ระดับโลก จะมาปรากฏกายในชุดที่เราคาดไม่ถึง เดาไม่ถูกเลยจ้า ว่าใครจะสวมใส่ชุดไหนหรือแบรนด์อะไรกันมา

Thairath Women ได้พูดคุยกับสาว "ป่าน-ณิชาภัทร สุภาพ" ซึ่งขณะนี้เธออยู่ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาแล้ว เพื่อเตรียมตัวไปร่วมงาน Met Gala 2019 โดยเธอเริ่มเล่าว่า...

...

ทุกอย่างต้องเริด!

ตอนนี้ป่านตื่นเต้นมาก เพราะใกล้ถึงวันงานแล้ว ช่วงนี้ก็กำลังเตรียมตัวเองให้พร้อม ทั้งเรื่องหุ่น ชุด เสื้อผ้า หน้า ผม ทุกอย่างมันจะต้องเริด และต้องแมตช์กับธีมให้มากที่สุด ไม่ใช่จะใส่"ชุดราตรียาว"สวยๆ ไป ไม่ได้นะคะ ถือว่าผิดอย่างแรงเลยแหละ หากแต่งตัวแบบเดินงานพรมแดงไป งานนี้มันไม่ใช่ค่ะ!

ชุดที่เลือก...ไปเฉิดฉาย

ป่านบอกไม่ได้เลยจริงๆ ไว้ถึงวันจริงจะได้เห็นชุดกัน ซึ่งป่านตั้งใจเลือกมาเป็นอย่างดี โดยแบรน์ที่ป่านเลือกนั้น เค้าก็คัดสรรชุดมาให้อย่างดี ซึ่งภายในงานจะมีชุดป่านเพียงชุดเดียวจากแบรนด์นี้ด้วย

แอนนา วินทัวร์ เป็นคนเลือกแขก!

จริงๆ ก็เกือบไม่ได้ไปเหมือนกันงาน Met Gala ปีนี้ แต่โชคดีได้ไป ซึ่งป่านอยากไปมากๆ คือต้องใช้เงินซื้อบัตรด้วยนะ ราคาก็ไม่ได้ถูกๆ เกือบล้านเลย คืออย่างที่บอก มีเงินก็ไปไม่ได้นะคะ เพราะงานนี้ แอนนา วินทัวร์ เค้าเป็นคนตัดสินใจและอนุมัติเอง ว่าจะให้ใครเข้าร่วมงานบ้าง? ซึ่งป่านก็ได้รับเลือก ดีใจสุดๆ

ทำไมต้องไป?

งานนี้คือ"งานแฟชั่นระดับโลก" เป็นงานกาล่าสุดหรูของวงการแฟชั่น ที่ทุกคนในวงการแฟชั่นต่างปรารถนาที่จะได้ร่วมงานนิทรรศการครั้งนี้ รวมถึงคนดังระดับโลก เซเลบริตี้ ผู้นำแห่งวงการความงามต่างๆ ด้วย ส่วนตัวป่านเอง ก็มีโอกาสได้ทำงานด้านแฟชั่นมานาน มันก็คือความฝันของคนสายแฟชั่น

มันคืองานอะไร

เล่าคร่าวๆ งาน Costume Institute Gala คืองานกาล่าสุดหรูระดับโลก ที่จัดขึ้นเพื่อระดมทุนให้กับแผนกแฟชั่น หรือ Costume Institute ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน Metropolitan Museum of Art หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า The Met ซึ่งสถานที่จัด Met Gala งานแฟชั่นระดับโลก

มาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนที่ป่านจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา Thairath Women ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ ถึงเรื่องราวชีวิตและความเป็นมา สู่งานกาล่าแห่งความฝัน Met Gala เธอบอกเล่าเส้นทางชีวิตไว้อย่างน่าสนใจ สาวๆ คนไหนมีความฝันแบบเธอ หรือความฝันในวงการไหน จะเอาเธอเป็นแบบอย่างก็ดีไม่น้อย เพราะดิฉันคิดว่า...เธอคือผู้หญิงที่สุดยอดคนหนึ่ง ที่ไม่เคยท้อถอยกับความใฝ่ฝันของตัวเอง แน่นอนจุดเปลี่ยนคนเรามันต้องมี ไปฟังพร้อมๆ กัน กว่าจะเป็น "ป่าน ณิชาภัทร"

...

โดนแกล้งตลอด

เมื่อก่อนนี้เราโดนเพื่อนแกล้งตลอดเวลา พอโตขึ้นบุคลิกภาพเราก็เปลี่ยน เป็นตัวเองมากขึ้น เป็นเด็กเนิร์ดที่เฮฮาตลก อีกอย่างนึงคือเราตั้งใจเรียน จนเราเรียนเก่งมากๆ แต่อย่างที่บอกว่า เราไม่ใช่คนสวย อยู่ที่ไหนก็ถูกเปรียบเทียบตลอด

สวยขึ้นตามเทคโนโลยี

โดนแกล้งมาเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่า ฉันต้องมีอะไรดีในตัวเอง นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เพราะมันเกิดจากการโดนบูลลี่ ทำให้เราผลักดันตัวเอง เรื่องความสวยเราก็มีพัฒนาบ้าง สวยขึ้นตามเทคโนโลยีเป็นเรื่องธรรมดา (หัวเราะ)

การศึกษา

เราเป็นเด็กธรรมดาคนนึงที่มีความฝัน มาจากครอบครัวธรรมดา เริ่มแรกเรียนที่โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง จากนั้นก็มาศึกษาต่อที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ศิลป์เยอรมัน แล้วก็เรียนต่อปริญญาตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษค่ะ

เรียนต่ออเมริกา

พอเรียนจบปริญญาตรี ก็อยากไปอยู่อเมริกามาค่ะ เพราะรู้สึกว่าเมืองเค้าเหมาะกับเรา มันเป็นที่สำหรับเราในงานด้าน "แฟชั่น" มากๆ จนใช้เวลาปีนึงในการสมัครเรียนปริญญาโทที่โน้น แต่ที่แรกไม่ได้

...

ทำงานกระทรวงการต่างประเทศด้วยนะ

ตอนนั้นรู้สึกเฟลมาก ก็เลยกลับมาประเทศไทย มาเริ่มต้นใหม่ ได้ทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศเป็นเวลา 2 เดือน จากนั้นก็สมัครเรียนใหม่ไป 4 มหาวิทยาลัย จนได้หนึ่งที่ เลยเลือกเรียนทันที เพราะเราอยากไปอยู่ที่นั่น

เริ่มต้นการทำงาน

พอเรียนจบปีแรก ขึ้นชั้นปีใหม่ เราก็ไปสมัครงานที่"แบรนด์เสื้อผ้า"แบรนด์หนึ่ง แต่ไม่ได้เค้าไม่รับ เรารู้สึกเฟลอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็มาได้งานที่ Alberta Ferretti หน้าที่ป่านตอนนั้น คือ แต่งตัวให้นางแบบ รู้สึกดีใจมากที่เจ้านายให้เราทำ ทำได้ 6 เดือน จากนั้นก็ย้ายไปทำ Roberto Cavalli กับเจ้านาย จากนั้นก็ได้มาทำ Vogue us ซึ่งแต่ละที่ที่ทำงาน ก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไปค่ะ

ชีวิตหลังเรียนจบ

จนเรียนจบเราก็หางาน ไปสัมภาษณ์งานแรกได้เลยที่ Macy’s เป็น Assistant Buyer ซึ่งคัดเลือกทั้งหมดทั่วประเทศ 25 คน แต่เราติด 1 ในนั้น ทำงานได้ 1 ปีก็ย้ายงาน ไปทำที่ Bloomingdale's เพราะเรารู้สึกว่าทำที่เดิมแล้วไม่มีความเติบโต และที่สุดท้ายที่ทำงานก็คือ New York & Company

...

จากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไป

ก่อนหน้ามีคนถามว่า ป่านทำอะไร? บางทีเราก็ตอบไม่ได้ จนตอนนี้เริ่มบอกได้ ว่าเราเป็นคนทำพีอาร์ ด้วยความที่เล่ามาทั้งหมด มันผสมผสานทุกอย่าง จนเป็น ป่าน ณิชาภัทร ในวันนี้ที่รู้จักคนเยอะ มีเพื่อนเยอะ รู้เรื่องแฟชั่น

แบรนด์ไทยฝรั่งใส่

เราก็มาคิดว่าตัวเราเองก็มีเพื่อนในวงการนี้เยอะ ลองเอาแบรนด์ไทยให้บล็อกเกอร์ฝรั่งใส่ดีมั้ย หลังจากนั้นพอรู้จักมากขึ้น ก็มีดารานักแสดง ได้ลูกค้ามากขึ้น อย่างแบรนด์สุวิมล ลาบูทีค O&B เราก็เป็นคนทำ

แฟชั่น 2019

แฟชั่นในไทยตอนนี้ต้องยอมรับว่าบูมมาก คนไทยเข้าใจแฟชั่นมากขึ้น ถามว่าตอนนี้แฟชั่นอยู่ในยุคไหน ก็ต้องบอกว่า ยุค 90’s กำลังกลับมา ไม่ว่าจะเป็น"รองเท้า" "กางเกง"ทรงต่างๆ คนกลับมาใส่แนวนี้เยอะ นี่คือเทรนด์ตอนนี้นะ

แฟชั่น = ประชาธิปไตย

ถามว่าคำว่า แฟชั่น ของป่าน คืออะไร? แฟชั่นสำหรับป่าน มันคือ ประชาธิปไตย หมายความว่า ทุกคนที่สิทธิ์เท่าเทียมกัน และเข้าถึงได้หมด เราไม่จำเป็นต้องใส่แบรนด์ไปซะหมด ตราบใดที่คุณเป็นคนมีสไตล์ มันก็คือแฟชั่น

ชอบก็แค่ซื้อใส่!

ถ้าให้พูดถึง "ผู้หญิง" คุณสามารถแต่งตัวอะไรก็ได้ ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตามเทรนด์เสมอไป เน้นอะไรที่ชอบแค่นั้นพอ ถ้าชอบก็ซื้อแล้วใส่ แค่นี้คุณก็ดูดีแล้ว

นี่แหละ "ป่าน ณิชาภัทร สุภาพ" ผู้หญิงสายแฟชั่น กูรูไอคอน ทั้งสายแฟชั่นและแรงบันดาลใจ

นอกจากนี้สาวป่านยังมี ทริกเด็ดเก่งภาษาอังกฤษมาฝากด้วย แนะนำให้ทำตามดังเธอว่าเลยจ้า

เมื่อก่อนเราเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง ถึงแม้จะเรียนเอกภาษามา วิธีที่เราใช้แล้วเวิร์คที่สุด คือ การดูหนัง ฟังเพลง ดูรายการทีวี ดูข่าว หรือหาซีรีส์ที่ชอบสักเรื่อง เราจะดูไปเลยให้ติดเพื่อความต่อเนื่อง ฟังซาวด์แทร็กเท่านั้น ที่สำคัญ...ห้ามอ่านซับไตเติ้ลเด็ดขาด ถ้าคุณอยากเก่งภาษา ไม่ต้องไปเรียนพิเศษอะไรมากมายหรอกค่ะ ภาษามันต้องเรียนจากหู ไม่ใช่เรียนจากตา

แหม่...แนะนำไว้ดีเชียว สาวๆ นาทีนี้ต้องยกให้เธอ สาวมั่นสายแฟชั่น สำหรับใครที่สนใจเรื่อง "ผู้หญิง" ติดตามได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ

อ่านเพิ่มเติม :