รองสว.(สอบสวน)สน.ลุมพินี ถูกไล่ออก หลังหลักฐานปรากฏให้ผู้ต้องหาชาวเกาหลีดื่มสุราแทนข้าวเย็นในห้องสอบสวน พออีกวันผู้ต้องหาตายจากหัวใจล้มเหลว ในกระเพาะเจอแอมเฟตามีน ผิดวินัยร้ายแรง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผบช.น. เป็นประธานการประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.ลุมพินี และพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อคลี่คลายคดี นายกอน อิล ฮวาง อายุ 28 ปี นักธุรกิจเกี่ยวกับหุ้นชาวเกาหลี ผู้ต้องหาถูกจับกุมคดีอนาจารผู้เสียหายเป็นผู้ชาย เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา เสียชีวิตในขณะถูกควบคุมตัวในห้องขัง สน.ลุมพินี โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย และตัวแทนญาติผู้เสียชีวิต ร่วมรับฟังรายงานความคืบหน้าคดีด้วย

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยว่า วันนี้มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเเกาหลี และตัวแทนญาติชาวเกาหลีผู้เสียชีวิตมารับฟังความคืบหน้าทางคดี เนื่องจากญาติสงสัยเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนรายละเอียดคดีเกิดขึ้นจากผู้ตายถูกจับคดีอนาจาร นำตัวมา สน.ลุมพินี เวลา 14.00 น. ระหว่างถูกควบคุมตัวเกิดอาการเครียด หงุดหงิด นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเหมือนจะฆ่าตัวตาย และขอล่าม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญล่ามอาสาสมัครมา โดยล่ามได้แจ้งว่า ชายชาวเกาหลีรายนี้ไม่อยากรับประทานข้าว อยากจะดื่มสุรา ด้วยความหวังดี ร้อยเวรเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จึงนำสุรามาให้ผู้ต้องหารายนี้ดื่มภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยตัวร้อยเวรและล่ามได้นั่งอยู่ด้วยในช่วงเวลาเที่ยงคืนจนถึงเวลา 04.00 น. ผู้ต้องหาจึงกลับเข้าห้องขังและไม่ได้นอนหลับ กระทั่งตอนเช้ามีคนมาพบผู้ต้องหาคนดังกล่าวหมดสติ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้ การที่ร้อยเวรให้ผู้ต้องหานั่งดื่มสุราบนโรงพัก ถือว่าเป็นข้อบกพร่องอย่างมาก อีกทั้งเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพัก ก็ปรากฏภาพว่ามีการนั่งดื่มสุรากันจริง ทางคณะกรรมการสอบสวนจึงเอาผิดทางวินัย ได้ไล่ร้อยเวรคนนี้ออกจากราชการแล้ว แม้จะทำไปเพื่อให้ผู้ต้องหาผ่อนคลาย แต่เป็นทางออกที่ไม่ถูกต้อง

...

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยอีกว่า ในเบื้องต้น แพทย์ได้ชันสูตรพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องหาเกิดจากหัวใจล้มเหลว และมีหลอดเลือดเส้นหนึ่งตีบ 60% แต่ญาติแจ้งว่าผู้ตายไม่มีโรค เมื่อแพทย์ได้ตรวจละเอียดก็พบว่า ในกระเพาะอาหารและในกระแสเลือดมีสารเสพติดประเภทเมตแอมเฟตามีนอยู่ด้วย ซึ่งการพบสารเสพติดในกระเพราะอาหาร คงต้องรับประทานเข้าไป ถ้าเป็นฉีดจะเข้ากระแสเลือดด้วย ส่วนการสูบจะมีอยู่ที่ปอด ทางญาติจึงมีข้อสงสัยว่า ยาเสพติดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตด้วยหรือไม่ ใครเป็นผู้มอบยาเสพติดให้ผู้ตาย และยาเสพติดเข้าไปอยู่ในตัวผู้ตายได้อย่างไร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปสอบสวนแพทย์เพิ่มเติม และจะชี้แจงกับสถานทูตฯ รวมถึงญาติผู้ตายให้ทราบ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างยุติธรรมให้มากที่สุดตามข้อเท็จจริงโดยไม่มีการปกปิด

มีรายงานว่า นายตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ คือ ร.ต.อ.ณัฐพล ล่อดงบัง รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี ซึ่งเคยทำคดีอุ้มบุญ คดีดังเมื่อปี 2557 ด้วย