ผัวเมียพลเมืองดีข้องใจ เก็บเงินได้ 1 ล้าน ตกหน้าแบงก์กสิกรไทย สาขาวังน้ำเย็น สระแก้ว นำไปมอบให้ จนท.ธนาคารฯ รีบนำไปเก็บโดยไม่ชี้แจงแถลงไข ผ่านมาเกือบครึ่งเดือน ด้วยความสงสัยเลยไปถาม ได้รับคำตอบ "รถขนเงินทำตก"


เวลา 12.00 น. วันที่ 6 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายมณฑล น้อยจันทร์ กำนันตำบลวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ที่กำลังรับเรื่องร้องเรียนจาก นายชยุต สิงห์สุระ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี กับ น.ส.กัญญา โอนรี พนักงานฝ่ายบัญชีสำงานไฟฟ้าอำเภอวังน้ำเย็น สามีภรรยาที่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้ำเย็น

นายชยุต กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 62 ที่ผ่านมา ตนกับภรรยามาทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร ขณะกำลังเดินขึ้นธนาคาร ภรรยาเรียกว่า พี่ๆ มีเงินตก ตนตอบว่าเงินอะไร เมื่นหันไปก็เห็นเงินตกอยู่จำนวน 1 มัด ประมาณ 1 ล้านบาท ตนก็ให้ภรรยาเก็บเงินได้นำไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารที่เคาน์เตอร์รับเงิน เจ้าหน้าที่นำเงินเข้าห้องไปโดยไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ไม่บอกว่า เป็นเงินอะไร เงินของลูกค้ามาทำตกไว้หรือเปล่า ตนก็ข้องใจมาตลอด และวันนี้จึงได้ไปหากำนันตำบลวังน้ำเย็น ซึ่งบอกว่าให้ไปร้องสื่อมวลชนเพื่อจะได้ความกระจ่าง โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า มีใครทำเงินตกหล่นไว้หน้าธนาคารหรือไม่

ด้าน น.ส.กัญญา โอนรี พนักงานฝ่ายบัญชีสำงานไฟฟ้าอำเภอวังน้ำเย็น กล่าวว่า ตนเดินตามสามีกำลังจะเข้าไปในธนาคารก็เมื่อเห็นธนบัตร 1 มัดตกอยู่ ตนจึงได้เรียกสามีมาดู ก่อนที่ตนจะก้มเก็บเงินไปให้ธนาคาร เพราะเชื่อว่าน่าจะมีผู้ทำตกหล่นไว้ และเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจถูกผู้ไม่หวังดีเก็บไปเป็นของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสองผัวเมียเข้าไปสอบถามในธนาคาร ได้มีการห้ามถ่ายภาพ ไม่ให้ชื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เป็นผู้มารับเงินจากผู้ที่เก็บได้ 

...

จากนั้น นายชยุต ได้ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า เงินดังกล่าวเป็นของธนาคารเอง ได้ส่งมอบเงินให้กับรถขนเงินไป แต่พนักงานขนเงินได้ทำถุงเงินขาดตกหล่นอยู่หน้าธนาคาร และมีพลเมืองดีเก็บได้ส่งคืน ซึ่งเงินดังกล่าวมีความสำคัญกับคนขนเงิน เนื่องจากเป็นเงินของธนาคารฝากไป

“ทางธนาคารบอกว่า พอเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรไปบอกว่ามีพลเมืองดีเก็บเงินได้ ตอนแรกพอพนักงานขนเงินรู้ตัวว่าทำเงินหล่น ก็รู้สึกตกใจ และรีบกลับมาเอาเงินคืนไป ซึ่งนับว่ายังโชคดีที่เป็นพลเมืองดีเป็นผู้พบเจอและเก็บส่งให้ธนาคาร ต้องขอขอบคุณและขอชื่นชมที่ทั้งสองทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น” นายชยุต กล่าว.