รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลงข่าวหลังประชุมสุดยอดทรัมป์-คิมล่มกลางคัน แจงเกาหลีเหนือไม่ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯยกเลิกคว่ำบาตรทั้งหมด ในขณะที่ทรัมป์แถลงเรื่องนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้
เมื่อ 1 มี.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศและบีบีซี ยังเกาะติดประเด็นร้อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เจรจาล่มไม่เป็นท่า ต้องกลับบ้านมือเปล่า ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ทั้งที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กันที่กรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม ระหว่าง 27-28 ก.พ.62 หลังจากประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กันเป็นครั้งแรก ที่สิงคโปร์ เมื่อ 8 เดือนก่อน
...
บีบีซีแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.62 นายรี ยอง-โฮ รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ ได้แถลงข่าวในช่วงค่ำวันที่ 28 ก.พ.62 หลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และคิม จอง อึนยุติลงกลางคัน ไม่มีการลงนามในข้อตกลงร่วมใดๆ ว่า เกาหลีเหนือไม่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อเกาหลีเหนือแลกเปลี่ยนกับการที่เกาหลีเหนือจะยุติการดำเนินการทั้งหมดที่ศูนย์พัฒนานิวเคลียร์ยองเบียนแต่อย่างใด ‘เราขอให้ยกเลิกคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด’ นายรี กล่าวกับนักข่าว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แถลงข่าวหลังการเจรจากับคิม จอง อึน ประสบความล้มเหลวว่า คิม จอง อึน ต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งสหรัฐฯ ไม่สามารถตกลงได้
พร้อมกันนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ยังเผยว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้ยื่นข้อเสนอที่จะยุติการดำเนินการในศูนย์พัฒนาและผลิตนิวเคลียร์ที่ยองเบียนทั้งหมด ซึ่งศูนย์แห่งนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ โดยสหรัฐฯ ต้องแลกเปลี่ยนด้วยการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อนในข้อเสนอดังกล่าวของเกาหลีเหนือ
ด้านเว็บไซต์อัลจาซีรา รายงานว่า บรรดานักวิเคราะห์การเมืองกล่าวถึงการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับคิม จอง อึน ที่ล้มเหลวว่า ถือเป็นการถอยหลังครั้งใหญ่สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งด้านนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ เพราะในขณะนี้ ทำเนียบขาวยืนยันว่าการเจรจาในการลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินต่อ ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า เขาเดินออกจากประชุมอย่างมิตร และมีการจับมือกันกับคิม จอง อึน ทว่าตามความเห็นของนักวิเคราะห์มองว่า ทั้งสองฝ่ายได้สูญเสียอย่างมาก บนความจริงที่ว่าต้องกลับบ้านมือเปล่า การเจรจาล้มเหลว
นายลามี คิม อดีตนักการทูตเกาหลีใต้ กล่าวกับนักข่าวอัลจาซีราว่า ทรัมป์จะต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เหินฟ้าบินมาไกลครึ่งโลก โดยไม่มีข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้นจากการเจรจาเลย ในขณะที่นายลามี ก็คิดว่า การเจรจาที่ล้มเหลวไม่เป็นผลดีต่อคิม จอง อึนเช่นกัน เพราะสื่อเกาหลีเหนือได้ประโคมข่าวการประชุมสุดยอดครั้งนี้และหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศชาติจะพัฒนาขึ้น และขณะนี้เราจะต้องดูกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อ่านข่าว