คุณยายเจ้าของรีสอร์ตวัย 71 เล่านาทีระทึก โดดอ่างเก็บน้ำช่วยชีวิตหญิงวัย 66 น้อยใจไม่มีใครรัก คว้าผ้าขาวม้าผูกคอกับราวเหล็ก ลอยคอหวังฆ่าตัวตาย เผยป่วยเป็นโรคทางจิตเวช

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ก.พ.62 ตำรวจสายตรวจ สภ.นางรอง รับแจ้งจากพลเมืองดี มีเหตุคนผูกคอกับราวเหล็กขอบกั้นริมสระน้ำ หวังฆ่าตัวตาย ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองตาหมู่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ นางรอง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบ พลเมืองดีกระโดดน้ำลงไปช่วยชีวิตหญิงจมน้ำ อยู่ในสภาพที่คอมีผ้าขาวม้าผูกรัดแน่น ทราบชื่อต่อมาคือ นางทองเลี่ยม ชัยมะเริง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/179 ถ.งามกมลพัฒนา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  

จากการสอบถามพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือ คือ นางทับทิม สังวรณ์กิจ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 ถ.ณรงค์รักษาเขต อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของบ้านทับทิมรีสอร์ท ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนได้ยินคนตะโกนว่ามีคนผูกคอและปีนรั้วลงน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองตาหมู่ จึงรีบวิ่งเข้าบ้านไปหยิบมีดปอกผลไม้ เพราะคิดว่าถ้าผูกคอต้องมีมีดมาช่วยตัด หลังจากนั้นก็กระโดดลงไปช่วยเหลือ ก่อนพยุงร่างนางทองเลี่ยมขึ้นมาไว้ที่ตักของตนเอง และนำมีดมาตัดผ้าที่ผูกคอ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยที่เดินทางมาถึงและกระโดดลงน้ำมาช่วย โดยมีเพื่อนบ้านคือ นางสังวาลย์ รุกขชาติ อายุ 58 ปี นำเรือมาช่วย เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการช่วยเหลือ เนื่องจากนางทองเลี่ยมมีร่างกายใหญ่ และดิ้นตลอดเวลา ไม่ต้องการให้ช่วยเหลือ ร้องไห้และตะโกนตลอดเวลาว่า “อยากตาย ไม่มีใครรัก”

ต่อมาลูกชายนางทองเลี่ยม (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) เผยว่า แม่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวช เมื่อเวลาเที่ยงบอกลูกว่าจะเอาผ้าออกมาตัดกระโปรง ลูกยังถามว่ามีเงินไหม ผู้เป็นแม่ก็บอกว่ามี หลังจากนั้นจึงมีคนมาแจ้งตนว่าแม่ผูกคอลงน้ำจะฆ่าตัวตาย น่าจะมาจากการคิดเองของแม่ แล้วน้อยใจลูกต่างๆ นานา 

...

“ครอบครัวก็อยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง เรื่องสภาพการกินอยู่ ลูกแต่ละคนก็มีอาชีพเป็นนายแพทย์ อีกคนค้าขาย ส่วนตนก็สอบไปทำงานประเทศเกาหลีได้ ไม่คิดว่าแม่จะน้อยใจขนาดมาคิดสั้นแบบนี้” ลูกชายนางทองเลี่ยมกล่าวทิ้งท้าย.