จนท.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เร่งไล่ล่าแม่ใจดำ หลังแอบมาคลอดลูกแล้วทิ้งไว้คาโถส้วมในบริเวณห้องน้ำของโรงพัก ล่าสุดยังไร้วี่แวว เร่งสืบหาตัว อยากถามทำไมมาคลอดลูกแล้วปล่อยทิ้งไว้...


จากกรณีที่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากประชาชนที่เข้ามาใช้บริการห้องน้ำของโรงพักว่า พบทารกน้อยถูกคลอดแล้วทิ้งไว้ในโถส้วม ซึ่งในตอนนี้นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังอยู่ในระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานในที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ได้เดินเท้าตรวจสอบรอยเลือดที่หยดอยู่บริเวณในโรงพัก ซึ่งคาดว่าจะเป็นรอยเลือดของหญิงที่เดินทางเข้ามาคลอดลูกทิ้งไว้แล้วเดินออกจากห้องน้ำมา

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนรายหนึ่งทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นได้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการห้องน้ำ แล้วก็ได้ยินเสียงเด็กร้องจากนั้นก็ได้เข้าไปดูในห้องน้ำที่เกิดเหตุที่เป็นห้องน้ำชายจากนั้นก็พบว่ามีทารกเพศหญิงถูกทอดทิ้งไว้ในโถส้วมจึงรีบวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตอนนั้นก็เลยรีบมาที่ห้องน้ำแล้วอุ้มเด็กออกจากโถส้วมมาวางบนอ่างล้างมือก่อนที่จะเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.พ.2562 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งพบว่ายังมีคราบรอยเลือดติดอยู่บริเวณห้องน้ำเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวแม่ใจยักษ์ที่คลอดลูกทิ้งไว้มาสอบสวนว่า ทำไมถึงต้องทิ้งลูกไว้ในห้องน้ำจนเกือบตาย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าเป็นการเจตนาก็จะได้ให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

...

รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนภาพกล้องวงจรที่เห็นว่าเป็นผู้หญิงเดินเข้ามานั้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นภาพในเวลากลางคืน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุนั้นเป็นวันที่มีกิจกรรมถนนคนเดินวันอาทิตย์ซึ่งจัดบริเวณถนนหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากที่เข้ามาใช้บริการห้องน้ำจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแม่ที่เข้ามาคลอดลูก

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชิญตัวแม่ที่คลอดลูกในห้องน้ำมาสอบสวนได้นั้น หากทราบสาเหตุที่แน่ชัดก็จะสามารถบอกได้ว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร หากมาจากการเจตนาก็จะถูกดำเนินคดีอาญาในความผิด ปล่อยทิ้งไว้ให้เด็กช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และอาจเป็นอันตราย แต่ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอเจอตัวแม่รายนี้ก่อน และยังไร้วี่แววในตอนนี้.