นักเขียนหญิงอเมริกันคนดังด้านการบิน เชื่อ นักบินผู้ช่วย เที่ยวบิน MH370 อาจเป็นคนเดียวที่มีชีวิตนานที่สุด ขณะผู้โดยสาร ลูกเรือ รวมทั้งกัปตันเสียชีวิตหมดแล้ว ก่อนเครื่องบินจะตกทะเล


เมื่อ 18 ก.พ.62 เว็บไซต์ เดอะ ซัน สื่อในอังกฤษ รายงาน คริสทีน นีโกรนี นักเขียนหญิงด้านการบิน ชาวอเมริกันวัย 62 เชื่อว่า นายฟาริก อับดุล ฮามิด นักบินผู้ช่วยอาจเป็นเพียงคนเดียวที่มีชีวิตอยู่บนเครื่องบินโดยสารสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 เส้นทางกัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ที่สูญเสียความดันอย่างกะทันหัน ก่อนตกทะเล เมื่อมีนาคม 2557 ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ 239 ราย

ครีสทีน นีโกรนี ซึ่งยังมีงานเขียนลงในนิวยอร์ก ไทมส์, ซีแอตเทิลโพสต์-อินเทลลิเจนเซอร์ ฟอร์ทูน ยังเชื่อว่า นายซาฮารี อาห์เหม็ด ชาห์ กัปตันเที่ยวบิน MH370 อาจอยู่ระหว่างการพักเบรกในขณะนั้น และปล่อยให้ นายฟาริก อับดุล ฮามิด นักบินผู้ช่วยทำหน้าที่ควบคุมเครื่องบิน โดยนักเขียนหญิงครีสทีน ตั้งข้อสงสัยว่า ฟาริก นักบินผู้ช่วยไม่สามารถที่จะหยุดเครื่องบินที่ดิ่งต่ำลงในช่วงสุดท้าย หลังจากเขาประสบอาการ Hypoxia หรือภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซินเจน ซึ่งเป็นภาวะที่สมองและร่างกายมีปริมาณออกซิเจนในเนื้อเยื่อต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม นายฟาริก นักบินผู้ช่วยเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องนักบิน ซึ่งนักเขียนหญิงด้านการบินผู้นี้ เชื่อว่า นายฟาริก เป็นเพียงคนเดียวที่มีชีวิตนานกว่าคนอื่นๆ บนเครื่องบิน และปล่อยให้เครื่องบินบินด้วยระบบออโต้ จนตกทะเล

...

นายซาฮารี อาห์เหม็ด ชาห์ กัปตันเที่ยวบินMH370 (ขวา) และนายฟาริก อับดุล ฮามิด นักบินผู้ช่วย (ซ้าย)
นายซาฮารี อาห์เหม็ด ชาห์ กัปตันเที่ยวบินMH370 (ขวา) และนายฟาริก อับดุล ฮามิด นักบินผู้ช่วย (ซ้าย)

คริสทีน ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง ‘The Crash Detective: Investigating the World’s Most Mysterious Air Disasters’ กล่าวกับนักข่าว เดลี่สตาร์ ออนไลน์ว่า เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ได้เริ่มหันหัวลงใต้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ขณะนั้น เธอเชื่อว่า นายซาริก ผู้ช่วยนักบิน ได้หมดสติไปแล้ว ‘มีออกซิเจนสำหรับผู้โดยสาร แค่ประมาณ 15 นาที ดังนั้น ผู้โดยสารทุกคนจึงเสียชีวิตทั้งหมด ไม่มีโอกาสที่จะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา และได้เสียชีวิตเป็นเวลานานก่อนเครื่องบินจะกระแทกผืนน้ำทะเล

เดอะ ซัน ยังเผยด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน นายแลร์รีย์ แวนซ์ เจ้าหน้าที่สืบสวนด้านอุบัติเหตุเครื่องบินตกชาวแคนาดา กล่าวว่า เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 ถูกทำให้ตกด้วยความจงใจ ซึ่งเป็นการก่อฆาตกรรมเพื่อฆ่าตัวตาย และเขาสามารถพิสูจน์ในเรื่องนี้ได้

นายแวนซ์ ซึ่งก่อนหน้าเคยทำงานอยู่ในคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมของแคนาดา เชื่อว่า ไม่กัปตันชาห์ หรือไม่ก็นักบินผู้ช่วยเป็นคนก่อเหตุฆาตกรรมนี้ขึ้นมา และทำให้มันหายไปตลอดกาล พร้อมกล่าวกับ CBC NEWS ว่า ‘มันไม่ใช่อุบัติเหตุ เหตุการณ์นี้มีการวางแผนและทำตามแผน โดยใครคนใดคนหนึ่งซึ่งควบคุมเครื่องบิน ผ่านการทำตามแผนของเขาที่ต้องการควบคุมเครื่องบินลำนี้’

นายแวนซ์ ซึ่งใช้เวลาถึง 18 เดือน ทำวิจัยสำหรับหนังสือของเขาในชื่อ ‘MH370 Mystery Solved’ ยังอ้างว่า นักบิน หรือนักบินผู้ช่วยได้ตัดสินใจขับเครื่องบินไปให้ไกลที่สุดในมหาสมุทรอินเดีย และทำให้มันหายไปตลอดกาล

อย่างไรก็ตาม เดอะ ซัน เผยว่า ทฤษฎีของนายแวนซ์ในเรื่องนี้ ยังไม่มีใครยอมรับ โดย นายมาร์ติน โดแลน อดีตหัวหน้าสำนักงานความปลอดภัยด้านคมนาคมของออสเตรเลีย กล่าวในรายการ‘ซิกซ์ตี้ มินิตส์’( 60) นาทีว่า ‘หลักฐานดังกล่าว ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ยืนยันข้อสรุปตามนั้น’ โดยนายโดแลนชี้ว่า มีทฤษฎีที่เป็นไปได้ 2 ประการ คือ มีใครควบคุมเครื่องบินหรือไม่ และมีหลักฐานที่จะสนับสนุนทฤษฎีเหล่านี้หรือเปล่า.

อ่านข่าว