คุมเข้ม"หุ่น"บอลจุฬาฯ-มธ. โดนตอกกลับรอดูมุกเด็ด สร้างเครือข่ายจับโกงลต.
กลุ่มล้อการเมืองแฉถูกแทรกแซง อ้างตัวเป็น จนท. สั่งห้ามล้อ “ลุงตู่” งานบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ห่วงเสียภาพลักษณ์ นายกฯช่วงใกล้เลือกตั้ง แต่ทีมล้อไม่สน ให้รอดูมุกเด็ด ยันจุดยืนยังคงความแยบคาย ลั่นถ้าคุกคามหนักมีตอบโต้ เครือข่ายวิชาการผุดเครือข่าย fffe จับตาโกงเลือกตั้ง เน้น 152 เขตแข่งขันกันดุเดือด ทุกพรรคหวั่นตกม้าตาย สั่งห้ามขบวนแห่หาเสียง “มาร์ค” แจ้งสมัครเสร็จแยกย้าย ลงพื้นที่ ไม่มีขึ้นรถแห่ “เจ๊หน่อย” ขอกองเชียร์อย่าเต้น อาจถูกจับแพ้ฟาวล์ ลั่นจะหยุดแจกบัตรคนจน “เสี่ยหนู” สั่งงดกองเชียร์-ขบวนรถแห่ กกต.ตีกรอบห้ามล้ำเส้น ศึกชิงทำเลติดป้ายหาเสียงลาม ถึงคิว “ไอติม” โวยโดนกรีดใบหน้า ปาร์ตี้ลิสต์ พปชร.ยังไม่สะเด็ดน้ำ นายทุนพรรคชิงดำบิ๊กการเมือง แถม “บิ๊กตู่” ไม่ปลื้ม คนมีคดีติดโผเบอร์ต้นๆ
แม้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ส.ส. กลับสู่เส้นทางประชาธิปไตย แต่ล่าสุดกลับมีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปแทรกแซงงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ห้ามกลุ่มล้อการเมืองจัดทำหุ่นล้อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. อยากให้ภาพลักษณ์ของนายกฯ ดูดีในช่วงใกล้เลือกตั้ง
สั่งห้ามล้อ “ลุงตู่” งานบอลประเพณี
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่สนามศุภชลาศัย กลุ่มนักศึกษากลุ่มอิสระล้อการเมืองแห่งมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (มธ.) เริ่มลงพื้นที่สำรวจเส้นทางสำหรับเคลื่อนขบวนพาเหรดหุ่นล้อการเมือง ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 ก.พ. ที่สนามศุภชลาศัย ทั้งนี้ นายพิธพงศ์ คำนนท์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะโฆษกกลุ่มอิสระล้อการเมืองฯ กล่าวว่า การจัดทำหุ่นล้อการเมืองในปีนี้ ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ สังเกตได้ว่าช่วงนี้เริ่มมีชายแปลกหน้าหัวเกรียน เข้ามานั่งสังเกตการณ์การทำหุ่นที่ มธ.ศูนย์รังสิต ครั้งละหลายชั่วโมง แต่ที่น่าแปลกคือสัปดาห์ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ 6 คนไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ยศ และตำแหน่ง มาขอพบกองกิจการนักศึกษา พร้อมทีมงานล้อการเมือง และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) โดยสอบถามว่า จะล้อประเด็นใดบ้าง ทั้งกำชับมาว่าช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งแล้ว เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย จึงอยากให้ภาพลักษณ์ของนายกฯดูดี และไม่อยากให้ทำหุ่นล้อการเมือง ที่เป็นหุ่นล้อ “ลุงตู่” หรือคนในรัฐบาลคนใดทั้งสิ้น
...
ทีมล้อการเมืองให้รอดูมุกเด็ด
นายพิธพงศ์กล่าวอีกว่า แม้การพูดคุยครั้งนี้เป็นไปด้วยดี แต่ออกในเชิงบังคับกันเล็กน้อย น่าแปลกคือตนทราบภายหลังว่าปกติเจ้าหน้าที่รัฐจะกำชับ หรือประสานไปทางสมาคมศิษย์เก่า แต่ครั้งนี้มาติดต่อโดยตรง แต่กลุ่มอิสระล้อการเมืองไม่ได้รับปากว่าจะทำหรือไม่ทำ ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่าจะขอเข้ามาตรวจหุ่นล้อการเมืองในวันที่ 7-8 ก.พ. ก่อนงานเริ่ม ยืนยันกลุ่มอิสระเราไม่ชี้นำพรรคใดแน่นอน ทั้งยังคงความแยบคายในความคิดการล้อการเมืองเหมือนทุกปี โดยยืนหยัดในจุดเดิม คือการทำหน้าที่อย่างอิสระ ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกเซ็นเซอร์หรือแบน เพราะคงให้ตรวจได้แต่ต้องมีขอบเขต ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรเรารับฟัง แต่ถ้าโดนคุกคามเราคงมีมาตรการตอบโต้ และไม่ว่าล้อการเมืองจะถูกกดดันแค่ไหน เราจะยังคงความเป็นตลกร้าย และสะท้อนปัญหาสังคมเหมือนเดิม
ผุดเครือข่าย fffe จับตาโกงเลือกตั้ง
วันเดียวกัน ที่ห้องบรรยายโครงการปริญญาเอก คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ.ท่าพระ-จันทร์ “เครือข่ายประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีผลในทางปฏิบัติ” หรือ fffe ประกอบด้วย เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง หรือ คนส. โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ฯลฯ ร่วมกันแถลงถึงการสร้างเครือข่ายจับตาการเลือกตั้ง 62 โดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาฯ มธ. แกนนำ คนส.กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่ทาง fffe ยื่นไว้กับ กกต. เพื่อขอให้ผลักดันแก้ไขให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมที่สุด รวม 7 ข้อ ปัจจุบันได้รับการตอบสนองน้อยมาก โดยเฉพาะข้อเรียกร้องการขอให้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพรรค การเมืองกับรัฐบาล คสช. การขอให้รัฐบาล คสช.ลดบทบาทลงเท่ารัฐบาลรักษาการ หยุดแทรกแซงการดำเนินการของ กกต. จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันจับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ หากพบว่ามีกระบวนการที่ไม่สุจริตในทุกกรณี สามารถบันทึกภาพถ่าย วิดีโอแล้วส่งเข้าไปในโซเชียลมีเดียที่ใช้อยู่โดยให้ตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #จับตาเลือกตั้ง 62 หรือแฮชแท็ก #fffe ถ้ายังไม่แน่ใจว่าเป็นการโกงเลือกตั้งหรือไม่ ขอให้ใช้วิธีตั้งเป็นประเด็นสงสัยไว้ เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท
เน้น 152 เขตแข่งขันกันดุเดือด
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันทาง fffe ยังเตรียมจัดทำแบบสำรวจ ในรูปแบบออนไลน์ไว้ที่หน้าเฟซบุ๊กเพจของ fffe เชิญชวนประชาชนเข้ามา กรอกข้อมูลที่พบการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต เครือข่ายนักวิชาการ คสน.จาก 24 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จะประสานนักศึกษาในสถาบันส่งตัวแทนเข้าไปจับตาเลือกตั้งในเขตต่างๆ ทั้ง 350 เขต เน้นพื้นที่ 152 เขตที่คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ร้อนแรง ทั้งก่อนเลือกตั้ง หลังเลือกตั้ง และนับคะแนน ข้อมูลทั้งหมดจะส่งมาประมวลเพื่อจัดทำรายงานผลโดยนักวิชาการ จะมีข้อมูลวิจัยทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพออกมาภายใน 1 สัปดาห์ หากพบสิ่งผิดปกติเร่งด่วน จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขทันที ในส่วนของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ยังเตรียมเปิดแคมเปญการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากมีกติกาหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะเริ่มจากมหาวิทยาลัย ต่างจังหวัด คือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยบูรพา ส่วนใน กทม. จะเริ่มที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“มาร์ค” มุ่งยกระดับชีวิตคนกรุง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. แถลงนโยบาย “ยกระดับ...ชีวิตจริงคนกรุงเทพฯ” ว่า กทม.ต้องน่าอยู่ สวย สะอาด เป็นเมืองแห่งโอกาส ปลอดภัยด้วย 10 นโยบาย อาทิ ปรับเปลี่ยนรถเมล์ ทั้งระบบใน กทม. และปริมณฑลร่วม 5,000 คัน เข้าสู่ระบบสมาร์ทบัส (Smart Bus) เป็นรถเมล์ไฟฟ้าภายใน 7 ปี จัดให้มีรถแท็กซี่สมาร์ท (Smart Taxi) เรียกใช้บริการง่าย ถูกกฎหมาย แผงลอยสีฟ้าดีมีคุณภาพ เร่งนำสายไฟทุกประเภท 191.18 กิโลเมตร ลงใต้ดินภายในปี 2565 ลอกท่อระบายน้ำทั่ว กทม.ทุก 6 เดือน แก้ปัญหาน้ำท่วม ทำแอปพลิเคชัน “City OK” อำนวยความสะดวกการติดต่อหน่วยงานของ กทม.และภาครัฐอื่น สร้าง กทม.เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำโลก สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในแฟลตการเคหะแห่งชาติ พรรคมีนโยบายให้สิทธิผู้เช่านำไปเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้
นัดลูกทีมพร้อมสมัคร ส.ส.กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 4 ก.พ. ซึ่งเป็นวันแรกที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบเขตทั่วประเทศ ในส่วนของ กทม. นายอภิสิทธิ์ได้นัดหมายกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานเขตดินแดง เวลา 07.00 น. เพื่อเดินเท้าพร้อมกันไปยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เพื่อสมัครลงรับเลือกตั้ง จากนั้นจะแยกย้ายลงพื้นที่ของตนเอง โดยไม่มีขึ้นรถแห่แต่อย่างใด
“จ้อน” เดาทางอนาคต “บิ๊กตู่”
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหลือไม่กี่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ต้องตัดสินใจอนาคตการเมืองของตัวเอง คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีทางเลือกแค่ตอบรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯตามคำเชิญของพรรคพลังประชารัฐ ยังมีอีกทางเลือกคือเป็นประธานวุฒิสภา ส่วนทางเลือกนายกฯคนนอก ตนไม่แนะนำ เพราะจะนำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรง จนอาจกลายเป็นชนวนวิกฤตการณ์ครั้งใหม่ หากเลือกทางแรกต้องแข่งขันตามกติกาแบบสุภาพบุรุษ ผลแพ้ชนะขึ้นอยู่กับการตัดสินของประชาชน เป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยง ตรงข้ามกับทางเลือกที่สองที่ไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นการแต่งตั้ง และถ้าต้องการเป็นประธานวุฒิสภาก็ไม่ยาก โดยมีความรับผิดชอบสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเป็นนายกฯ กำกับดูแลการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลต้องรายงานความคืบหน้าของการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน
อัด “อ๋อย” ความจำไม่ค่อยดี
น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์นั้น คงความจำไม่ดี ลืมไปหรือเปล่าว่าพรรคไหนเคยบอกว่าใครไม่เลือกเราจะไม่พัฒนา การเมืองสร้างสรรค์ควรเริ่มต้นด้วยพรรคที่ไม่โกงชาติบ้านเมือง ไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบ นโยบายพรรคที่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ พูดถึง ล้วนยกระดับความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต สงสัยบางคนคงมัวแต่รับใช้เจ้านายที่หนีคดี จนไม่มีเวลามาติดตามข่าว อย่าดูถูกประชาชน
อย่ามั่วมโน ปชป.จับมือ คสช.
นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าภาคไหน เราปฏิบัติเท่าเทียมกัน ส่วนที่นายจาตุรนต์กล่าวหาว่าเราจะไปร่วมรัฐบาลกับ คสช.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ย้ำเสมอว่าเราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่ใช่ใครก็ได้มาร่วมเพื่อให้เป็นรัฐบาล แต่ก็ต้องมีนโยบายและอุดมการณ์ไปในแนวทางเดียวกัน คือประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต
“เจ๊หน่อย” ลั่นเลิกบัตรคนจน
ที่ชุมชนเคหะเจริญชัย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมนายประพนธ์ เนตรรังษี ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 6 และกลุ่ม nextgen พรรคเพื่อไทย อาทิ นายภัทร ภมรมนตรี นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ลงพื้นที่ชุมชนเคหะเจริญชัย ที่อยู่ใต้โครงการรถไฟฟ้าและประสบปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะสานต่อโครงการบ้านมั่นคง ที่ริเริ่มในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร แต่จะไม่แจกบัตรคนจน แจกบัตรมั่นคงแทน นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนจากประธานชุมชนและประธานสหกรณ์ ว่าต้องทนกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อม อันส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน ต่อมาคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมนายสุรชาติ เทียนทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่ชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันที่ 4 ก.พ.หากพี่น้องคนไหนไปเชียร์พรรคเพื่อไทย ขอความร่วมมือเวลาที่เราเปิดเพลง แม้จะมันอย่างไรขอให้นั่งพับเพียบเรียบร้อย เพราะถ้าลุกขึ้นเต้นพรรคอาจแพ้ฟาวล์ จนมีชาวบ้านตะโกนแซวว่า “ขอเต้นนิดนึงก็ไม่ได้หรือ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวติดตลกว่า “ไม่ได้ เดี๋ยวผิดกติกา ถ้าอยากเต้นเพลงพรรคเพื่อไทย คงต้องเข้าไปอยู่ในห้อง แล้วปิดห้องเต้นเอา”
ใช้สวนลุมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่
คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงการสมัคร ส.ส.ในวันที่ 4 ก.พ.ว่า พรรคเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้หมดแล้ว จะมีแกนนำกระจายไปตามจังหวัดสำคัญๆ เช่น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ไป จ.ขอนแก่น นายชัยเกษม นิติสิริ ไป จ.เชียงใหม่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไป จ.นครราชสีมา ส่วนตนอยู่ที่ กทม. หลังสมัครเสร็จจะไปกราบพระแก้วมรกต ไหว้ศาลหลักเมือง และวัดชนะสงคราม อย่างที่เคยทำมาตลอด หลังจากนั้นจะให้ผู้สมัครไปกระจายข่าวในแต่ละพื้นที่ว่าผู้สมัครแต่ละคนได้เบอร์อะไร และในวันสุดท้ายของการรับสมัคร คือวันที่ 8 ก.พ. พรรคจะจัดปราศรัยใหญ่ที่ กทม. โดยกำลังดำเนินการขอใช้พื้นที่สวนลุมพินี ทำหนังสือขอไปหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา จากนั้นจะแบ่งผู้ใหญ่ในพรรคเป็น 3-4 ทีม ตระเวนปราศรัยทุกพื้นที่
“เสี่ยหนู” สั่งงดกองเชียร์–รถแห่
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอให้ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยทุกคนที่จะเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 4 ก.พ. ซึ่งเป็นวันแรกที่ กกต.เปิดรับสมัคร ใน กทม. และปริมณฑล ห้ามจัดรถแห่ ห้ามจัดรถขบวนกองเชียร์ไปให้กำลังใจผู้สมัครในสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง และบริเวณใกล้เคียง เพื่อไม่สร้างมลพิษในอากาศ ช่วยกันลดปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 ของ กทม.และปริมณฑล “ถ้าเราจะมาอาสาเป็นผู้แทนประชาชน มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน สิ่งแรกที่ต้องทำคือไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน” พร้อมกำชับเมื่อสมัครเสร็จแล้วให้กลับไปประชาสัมพันธ์ในเขตเลือกตั้งของตัวเอง นอกจากนี้ นายอนุทินยังให้กำลังใจลูกพรรคขอให้โชคดี ประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้ทำประโยชน์เพื่อพี่น้องประชาชน
ย้ำนโยบายทำงานที่บ้านลดวิกฤติฝุ่น
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี กรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทุกคน ดำเนินการตามแนวทางของนายอนุทิน เพื่อช่วยกันลดมลภาวะฝุ่นพิษ ไม่ซ้ำเติมปัญหาให้คน กทม. เป็นไปตามนโยบายพรรคที่หัวหน้าพรรคนำเสนอต่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ คือนโยบาย Home office อยู่บ้านก็ทำงานได้ เป็นเศรษฐกิจของโลกยุคใหม่ นอกจากช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษแล้ว ยังลดระยะเวลาการไปทำงาน และลดค่าใช้จ่ายให้คนทำงานด้วย เราต้องเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมารับใช้มนุษย์ ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาลจะพยายามผลักดันนโยบายให้บางตำแหน่งสามารถทำงานที่บ้านได้ โดยไม่กระทบต่อการทำงาน ไม่ต้องเสียอารมณ์ ไม่เสียเวลาเดินทาง ปัจจุบันกำลังมีปัญหามลพิษทางอากาศ การเดินทางก็เสี่ยงชีวิตเสี่ยงเจ็บป่วย วันที่ 4 ก.พ. ซึ่งเป็นวันแรกของการรับสมัคร นายอนุทินจะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัครของพรรค ก่อนเวลา 08.00 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
รปช.โต้ปลดป้าย พท.เขตบึงกุ่ม
ส่วนประเด็นการหาเสียงที่เริ่มดุเดือด มีทั้งการเผาป้ายผู้สมัคร ปลดป้ายคู่แข่งแล้วเอาป้ายตัวเองขึ้นแทน ในหลายพื้นที่ ล่าสุดนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรคพลังประชาชาติไทย (รปช.) ออกแถลงการณ์ผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวประจำพรรค ถึงกรณีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 14 พรรคเพื่อไทย แจ้งความที่ สน.โคกคราม กรณีถูกปลดป้ายหาเสียง แล้วนำป้ายหาเสียงของนายแมน เจริญวัลย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค รปช.ขึ้นแทนนั้น ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทีมงานนายแมนได้นำป้ายหาเสียงขึ้นติดตั้งในบริเวณดังกล่าว โดยก่อนนำขึ้นติดตั้งพบว่ามีป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยได้วางพิงไว้ที่รั้วสังกะสีอยู่ก่อนแล้ว การที่นายพลภูมิกล่าวพาดพิงในเชิงที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และความเสียหายต่อพรรคได้ จึงต้องลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกคราม และพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว ให้ประชาชนทราบถึงข้อเท็จจริงต่อไป
“พลภูมิ” บี้ตรวจกล้องวงจรปิด
ด้านนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 14 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พรรค รปช.ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีดังกล่าว ยืนยันว่านับตั้งแต่ กกต.ประกาศให้ผู้สมัครติดตั้งป้ายหาเสียงได้ ตนและทีมงานดำเนินการติดป้ายทันทีตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. ทำงานกันทั้งคืน โดยป้ายที่เสาหน้าโรงปูน ซอยรามอินทรา 40 ทีมงานตนติดตั้งเสร็จตั้งแต่เวลา 02.56 น. มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายแสดงเวลา ณ จุดติดตั้งป้ายที่เก็บข้อมูลไว้ทุกจุดที่ติดตั้ง ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดเหตุแบบนี้ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือใคร แค่เล่าตามข้อเท็จจริงว่าจุดดังกล่าวป้ายตนถูกปลด และนำป้ายนายแมนขึ้นมาติดตั้งแทนเท่านั้น เมื่อพรรค รปช.ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตนก็พร้อมเช่นกัน ขอให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องนัดหมายโดยเร็ว เพื่อให้ความจริง ความถูกต้องปรากฏแก่สายตาประชาชน
“ไอติม” ก็โวยโดนกรีดใบหน้า
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประสบปัญหาเรื่องป้ายหาเสียงเช่นกัน ทั้งป้ายหายไปจากจุดที่ติดตั้งไว้ บางป้ายถูกกรีดภาพใบหน้า มีบุคคลมาย้ายป้ายหาเสียงของตนออกไปจากจุดที่ติดตั้งไว้ก่อน แล้วนำป้ายผู้สมัครพรรคอื่นมาแทนที่ ซึ่งถูกกระทำในหลายจุด ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบสืบหาว่าใครเป็นผู้กระทำ
เซ็งส่ง ตร.ตามประกบจนอึดอัด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคนเริ่มประสบปัญหาเรื่องป้ายหาเสียงถูกทำลาย ทั้งปลดป้ายออกโดยพลการ แล้วติดป้ายผู้สมัครพรรคอื่นแทน รวมถึงย้ายป้ายจากจุดที่ กทม.อนุญาตให้ติดตั้งได้ แล้วเอาไปติดในจุดที่ กทม.ห้ามติด นอกจากนี้ยังมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางคน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตามประกบถ่ายภาพตลอดการเดินลงพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอ้างว่าได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ตัวว่าที่ผู้สมัครและประชาชนในพื้นที่เกิดความอึดอัด และไม่สบายใจอย่างมาก
ปาร์ตี้ลิสต์ พปชร.ยังไม่สะเด็ดน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดลำดับ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เบื้องต้น ได้วางแกนนำกลุ่มการเมืองไว้ลำดับ 1-10 ประกอบด้วย 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน 3.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 4.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 5.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 6.นายสุพล ฟองงาม 7.น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 8.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 9.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และ 10.นายเอกราช ช่างเหลา ส่วนลำดับที่ 11-20 เป็นสัดส่วนกลุ่มทุนพรรค แต่จนถึงขณะนี้อันดับ 1-10 ถือว่ายังไม่นิ่ง เพราะแกนนำพรรคบางคนยังอยากให้เป็นชื่อนายทุนพรรคมากกว่า เพื่อเรียกความเชื่อมั่น โดยทั้งหมดจะไปเคาะครั้งสุดท้ายวันที่ 8 ก.พ. และเสนอชื่อให้ กกต.พร้อมกับชื่อนายกฯในบัญชีพรรค ขณะที่แกนนำ พรรคบางคนประเมินว่าจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อย่างน้อย 30 คน
“บิ๊กตู่” ไม่ปลื้มคนมีคดีติดโผต้นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเหตุผลข้างต้น แล้ว อีกสาเหตุคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ที่อยู่ระหว่างตัดสินใจตอบรับเป็นนายกฯในบัญชีพลังประชารัฐหรือไม่ ได้พิจารณาโผรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ที่ไม่ต้องการให้มีนักการเมืองอยู่ในรายชื่อลำดับต้นๆ โดยเฉพาะในรายที่ยังมีคดีติดตัวอยู่ ทั้งนี้ จากโผรายชื่อใน 10 ลำดับแรก พบ มีชื่อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่เป็นอดีตแกนนำกลุ่ม กปปส. มีคดีถูกกล่าวหาร่วมกันเป็นกบฏ ยุยงปลุกปั่น อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมกันเกิน 10 คน ประทุษร้ายขัดขวางการเลือกตั้ง ขณะที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการสรรหาผู้สมัคร พปชร. มีคดีอยู่ใน ป.ป.ช. ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล
กกต.กทม.พร้อมเปิดรับสมัคร
ช่วงสาย ที่ศูนย์กีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุง– เทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) ร่วมดูการซักซ้อมการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตใน กทม.เสมือนจริง ตรวจความเรียบร้อย และชี้แจงขั้นตอนการรับสมัคร โดยผู้สมัครสามารถลงทะเบียนบริเวณด้านหน้าอาคารได้ตั้งแต่เวลา 05.30 น. แต่เวลาเริ่มสมัครจริงคือ 08.30 น. อนุญาตให้ผู้สมัครและผู้ติดตามได้ 1 คน เข้ามานั่งในห้องที่จัดไว้ให้บริเวณโถงกลาง ส่วนกองเชียร์ให้นั่งอยู่ด้านบนอัฒจันทร์ สำรองที่นั่งไว้ 1,500 ที่ เจ้าหน้าที่ กกต.จะชี้แจงการปฏิบัติให้แก่ผู้สมัคร โดยช่วงระหว่างที่รอการจับสลาก ผู้สมัครสามารถให้เจ้าหน้าที่ประจำเขตต่างๆ ตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสารก่อนได้ ขณะนี้การเตรียมความพร้อม สถานที่ เจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกพร้อมแล้ว รวมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ
ตีกรอบกองเชียร์ห้ามล้ำเส้น
น.ส.วิชชุดากล่าวว่า สำหรับกองเชียร์ รถแห่ การเปิดเพลงประจำพรรค กลองยาว สามารถส่งเสียงเชียร์ได้ตั้งแต่เดินทางมาถึงก่อนที่ผู้สมัครจะได้หมายเลข แต่เมื่อถึงเวลา 08.30 น. ห้ามกองเชียร์ส่งเสียงเชียร์ และเมื่อได้หมายเลขแล้ว ให้ผู้สมัครกลับไปหาเสียงในเขตของตนเองได้ทันที ยกเว้นเขตดินแดง สามารถเชียร์ได้ตลอดเพราะเป็นพื้นที่ของตัวเองอยู่แล้ว
ให้เลิกขบวนแห่หลังสมัครเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. มีหนังสือลงวันที่ 1 ก.พ. ถึง ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัด และ กทม. เรื่องแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดขบวนแห่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง ระบุว่า กกต.ได้ประชุมพิจารณาการจัดขบวน แห่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ วันที่ 4-8 ก.พ. หากมีการจัดขบวนหรือกองเชียร์ เมื่อกระบวนการสมัครเสร็จสิ้นลงแล้ว ไม่ควรจัดขบวนหรือกองเชียร์ออกจากสถานที่รับสมัครไปตามถนนตำบล หรือหมู่บ้านอีก เนื่องจากเคยมี คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยไว้ในทำนองเดียวกันว่าการจัดขบวนแห่ และรถยนต์ติดแผ่นป้ายผู้สมัครรับเลือกตั้งภายหลังการสมัครรับเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีการแสดงดนตรีหรือการรื่นเริงใดๆ ถือเป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนน อันเป็นการหาเสียงด้วยการจัดให้มีการรื่นเริง ซึ่งขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง