ขอบคุณภาพจาก @bnk48official และ stage48.net
ท่ามกลางวิกฤติศิลปินที่แม้แต่วงดนตรีชื่อดังระดับประเทศก็ยากที่จะขายแผ่น CD ออก แต่รู้หรือไม่ว่า วงไอดอลญี่ปุ่น พวกเขาขายได้เป็นแสนๆ แผ่นในยุคที่ใครอยากฟังเพลงก็ใช้เพียงปลายนิ้วกดโทรศัพท์เท่านั้น
เราจะมาพูดถึงไอดอลแห่งวงการธุรกิจค่ายเพลงของกลุ่ม 48 นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีตระกูล 48 ไปทั่วเอเชียทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน เวียดนาม และอินเดีย ทั้งหมด 14 กรุ๊ป สามารถขายแผ่น CD ได้หลายแสนแผ่นต่อปีในยุคที่ปัจจุบันคนหันไปฟังบนอินเทอร์เน็ตกันหมดแล้ว
เมื่อวิเคราะห์การตลาดของวงไอดอลญี่ปุ่นจะเห็นวิธีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ซึ่งถือเป็นไอเดียที่ดี เช่น การขายบัตรจับมือรวมกับแผ่น CD การจัดกิจกรรมถ่ายรูปคู่ แม้กระทั่ง การขายของที่ระลึกแบบกาชาปอง เป็นการสุ่มว่าจะได้ของสมาชิกคนใด ถือเป็นจุดเด่นในด้านการตลาดก็ว่าได้
แต่ในวันนี้ จะขอยกตัวอย่างการจัดงาน “เลือกตั้งเซ็นบัตสึ” หรือ Senbatsu Sousenkyo เป็นงานกิจกรรมประจำปีที่ใหญ่ที่สุด และเป็นเอกลักษณ์ของวง โดยเป็นการเปิดโอกาสให้แฟนคลับของแต่ละคนสามารถลงคะแนนให้กับสมาชิกที่ตนเองชื่นชอบ เพื่อให้เป็นเซ็นบัตสึ แต่เนื่องจากจำนวนสมาชิกที่เยอะ การออกซิงเกิลทุกคนนั้นทำไม่ได้ จึงต้องมีการคัดเลือกสมาชิกขึ้นมาที่แสดงในเพลงนั้นๆ แทน
...
ทั้งนี้ การจะโหวตได้นั้น จะต้องซื้อ CD และจะได้รับ Code สำหรับเข้าไปโหวตสมาชิกที่ชื่นชอบ และปัจจุบันของ BNK48 ได้เพิ่มช่องทาง Music Card ด้วย
สำหรับงานเลือกตั้งครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2009 โดยมีวงที่เข้าร่วม คือ AKB48 และ SKE48 เพื่อหาเซ็นบัตสึในซิงเกิลที่ 13 “Iiwake maybe” สำหรับผู้ที่ได้เป็นเซ็นบัตสึ คือ มาเอดะ อัตสึโกะ (Maeda Atsuko) ได้คะแนนโหวตอันดับ 1 ไปทั้งสิ้น 4,630 คะแนน มียอดขายแผ่น CD เฉพาะในปี 2009 รวม 145,503 แผ่น โดยราคา CD แผ่นละประมาณ 430 บาท
เท่ากับว่า ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว อีเวนต์นี้ AKB48 กวาดเงินจากเหล่าโอตะไป 62 ล้านบาท
ขณะที่ ในประเทศไทย งานเลือกตั้งครั้งแรกของ BNK48 เกิดขึ้นปี 2562 เพื่อหาเซ็นบัตซึในซิงเกิลที่ 6 สำหรับผู้ที่ยืนหนึ่งครั้งนี้ เป็นไปตามคาด นั่นคือ แคปเฌอ หรือ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวงคนเก่งนั่นเอง ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับ 1 รวม 84,195 คะแนน หากคิดเฉพาะคะแนนโหวตในราคาต่ำที่สุดจาก Music Card มูลค่า 200 บาท เท่ากับว่า เหล่าคามิโอชิเฌอปราง เปย์หนักถึง 16,839,000 บาทเลยทีเดียว
ลองมาดูในภาพรวมกันบ้าง จากคะแนนโหวตที่ได้รับการเปิดเผยของสมาชิกทั้ง 32 คน รวมทั้งสิ้น 762,747 คะแนน ยังไม่รวมคะแนนของสมาชิกที่ไม่ติดอันดับอีก 19 คน
ในกรณีที่ขาย CD Limited Edition หมดเกลี้ยง ซึ่งถูกผลิตมาแค่ 300,000 แผ่น คิดเป็น 300,000 คะแนน มูลค่าแผ่นละ 350 บาท เท่ากับ 105 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 462,747 คะแนน มาจาก Music Card Edition ใบละ 200 บาท เท่ากับ 92.54 ล้านบาท
ดังนั้น อาจคาดการณ์ได้ว่า การจัดอีเวนต์เลือกตั้งครั้งเดียว เหล่าโอตะเปย์ไปกว่า 200 ล้านบาทเลย.