แม่ไม่เชื่อ ลูกชายและลูกสะใภ้ผูกคอตายในไร่มันสำปะหลัง ชี้ครอบครัวรักกันดีไม่มีมูลเหตุให้ฆ่าตัวตาย เชื่อถูกฆ่าอำพราง พร้อมเผยลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ หลับตาทีไรจะเห็นรถลูกพุ่งตกน้ำ...

จากกรณี เกิดเหตุคนผูกคอตายที่บริเวณไร่มันสำปะหลังแห่งหนึ่ง บริเวณข้างลำห้วยป่าดำ อ.เมือง จ.ลำปาง พบศพนายจรัญฐาธีนากร วงผาบุตร อายุ 23 ปี และ น.ส.ทิพวรรณ สิมโสม อายุ 23 ปี ภรรยา ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ใช้เชือกผูกคอตายกับต้นไม้ ด้วยเชือกเส้นเดียวกัน ทำการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง พร้อมนำร่างส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ลำปาง อีกครั้งตามข่าวที่เสนอไปนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นางเพชรา วงผาบุตร อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตาย อาศัยอยู่บ้านพักในไร่มันสำปะหลังบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมเผยว่า ไม่เชื่อลูกจะฆ่าตัวตายเพราะไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ เลย ครอบครัวของลูกชายรักกันดีไม่ได้ทะเลาะกัน ส่วนการเงินก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้มาพักเพราะเหนื่อยจากการขุดมันสำปะหลัง

จากนั้น ประมาณ 20 นาที ก็ชวนภรรยาไปซื้อแพมเพิร์สให้ลูก แล้วก็หายไปทั้งคู่ กระทั่งไปพบศพดังกล่าว และคืนที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนแถวๆ จุดเกิดเหตุ 2-3 ครั้ง ขณะที่ก่อนเกิดเหตุตนมีลางสังหรณ์ พอหลับตาทีไรจะเห็นรถลูกพุ่งตกน้ำ จึงออกตามหาและพบศพดังกล่าว

นอกจากนี้ ที่สำคัญลูกชายและภรรยาจะไม่เข้าไปจุดที่ผูกคอตาย เนื่องจากกลัวเพราะจุดดังกล่าวเคยมีคนตายแถวนั้น ประกอบกับวันที่เกิดเหตุตนเห็นร่องรอยรถอีกคัน ซึ่งปกติแล้วแถวนั้นจะไม่มีรถใครเข้าออก จึงเชื่อว่าลูกอาจจะถูกฆ่ามาจากที่อื่นแล้วอำพรางคดี หรือ ถูกคนอื่นฆ่าได้

...

ทางด้าน นายวิรัตน์ พุดตาน อายุ 20 ปี น้องชายผู้ตาย เผยว่า ทางครอบครัวไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีมูลเหตุอะไร ผลผลิตมันสำปะหลังก็กำลังจะออก และขายได้ไปบางส่วนแล้วได้เงินมาหลายหมื่นบาท ก่อนตายยังบอกว่าให้ตนและพ่อช่วยขุดมันให้อยู่เลย.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง