"บิ๊กตู่" เอาจริง เตรียมออกคำสั่ง คสช. ส่งทหารเข้าตรวจทุกโรงงานแก้วิฤติฝุ่น PM 2.5 ขู่พื้นที่ไหนเกียร์ว่างสั่งลงโทษหมด พร้อมจ่อขอความร่วมมือใช้รถ วันคู่ วันคี่ ห้ามนั่งรถยนต์คนเดียว...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมยุทธศาสตร์ชาติ "อนาคตไทย อนาคตเรา" our country our future ตอนหนึ่งว่า "วันนี้เรามีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองทั้ง PM 2.5 และ PM 10 ปัญหามาจากหลายภาคส่วน แต่ตนไม่ได้พูดโจมตี หรือตัดรอนเกษตรกรอย่างที่มีคนกล่าวหา เพียงแต่บอกว่าการเผาวัชพืชหรือตอซังข้าวเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ไม่ได้คิดไปรังแกใคร แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามากขึ้นอีก"

ขณะนี้ มีการนำเรื่องฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน มาหาเสียงโจมตีรัฐบาล ที่ผ่านมาเราพยายามทำทุกอย่าง ตอนนี้มาตรการระยะสั้นคือใช้น้ำแก้ปัญหา ให้ข้อมูลประชาชน จัดหาหน้ากากให้ แต่ยังมีคนบ่นว่าถ้าเด็กทำหน้ากากหลุดแล้วจะทำอย่างไร จึงต้องถามกลับไปว่า แล้วตนจะต้องไปใส่หน้ากากให้เด็กหรืออย่างไร นี่คือคนที่เขียนตามโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ต่างๆ ถามว่ามันเป็นหน้าที่ตนหรือไม่ ที่จะต้องไปใส่หน้ากากให้เด็ก เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวได้สั่งการแล้วให้มีแจ้งเตือนประชาชนในเขตพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ใน กทม.พื้นที่ใดไม่ได้รับการแก้ไขเลย และไม่มีคำชี้แจงว่าได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง ตนจะสั่งลงโทษ ผอ.เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าของรถต้องมีจิตสำนึก ถ้าก่อมลพิษอย่าขับออกมา ถ้าทุกคนต้องการให้ตนเข้มงวด ตนจะทำให้ ควันดำตรงไหนจอดตรงนั้น ลากเอาไปเก็บจนกว่าจะปรับปรุงแล้วค่อยวิ่งได้

...

"ผมจะสั่งแบบนี้นะ ถ้ายังแก้ไม่ได้ ดูซิจะเดือดร้อนกันหรือไม่ ผมไม่ได้ต้องการให้เดือดร้อน แต่อยากให้ทุกคนมีจิตสำนึก ต่อไปหากพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ยังแก้ไม่ได้ ผมจะให้วิ่งรถเป็นวันคู่ วันคี่ และต่อไปจะห้ามไม่ให้รถดีเซล วิ่งบนถนนเส้นเหล่านี้ ดูสิมีปัญหากันอีกหรือไม่ เมื่อทุกคนบอกว่าผมอ่อนเกินไปในเรื่องนี้ ไม่เข้มงวดจริงจัง แต่ความจริง ผมพร้อมทำทุกอย่าง ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกัน รีบไปแก้เสียในวันนี้"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนในต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น จ.สมุทรปราการ, จ.สมุทรสาคร ต้องทำให้ค่าฝุ่นละอองลดลงให้ได้ ส่วนภาคอุตสาหกรรม โรงงานอุตสากรรมอาจต้องปิดโรงงานในช่วงเช้า บ่าย หรือเย็น หรือช่วงที่ค่าฝุ่นละอองสูง ขอให้เตรียมตัวไว้ และจะมาบอกว่านายกฯ ไม่เอาใจใส่อีกไม่ได้ คอยดูก็แล้วกัน ว่าจะมีอะไรกลับมาหรือไม่ จะยอมเสียสละกันหรือไม่

วันนี้จะขอให้รณรงค์กัน โรงงานหยุดทำการในช่วงเช้าหรือเย็นได้หรือไม่ วันละ 1 ชั่วโมงก็ยังดี แล้วจะต้องตรวจโรงงาน โดยใช้อำนาจ คสช.ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แต่ละจังหวัดเข้าไปตรวจสอบทุกโรงงาน ซึ่งวันนี้ได้ออกคำสั่งแล้ว เพื่อให้ดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากโรงงานใดไม่ได้รับการดูแล จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องรับผิดชอบ ไปชี้เป้ามา เรามีหน่วยตรวจสอบอยู่แล้ว

"เดี๋ยวผมจะออกคำสั่ง คสช.แต่ไม่ใช้มาตรา 44 เพราะมาตรา 44 นั้น มีอำนาจอยู่แล้ว พอใจหรือไม่ ที่ผมประกาศแบบนี้ ต่อไปนั่งรถคนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนนั่งรถไปด้วย 2-3 คน ด่าผมดีนักว่าอย่างนี้ทำหรือไม่ทำ เด็กไอจะเป็นเลือดอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ผมจะทำให้ ต่อไปนี้ไปไหนต้องชวนเพื่อนไปด้วย จะนั่งแท็กซี่คนเดียวไม่ได้ ต้องลากคนขึ้นไปด้วย 2-3 ที่หมาย ถ้าไม่แก้กันผมจะทำแบบนี้ จะมีใครคัดค้านผมบ้าง ใครไม่เห็นชอบให้บอกมา เงียบแสดงว่าทุกคนเห็นชอบร่วมกับผม หากมีอะไรสะท้อนกลับมาก็ช่วยกันรับผิดชอบด้วย ยุให้นายกฯ ทำดีนัก แต่พอมีเรื่องไปก่อน"

"ไม่ได้ต้องการทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือเดือดร้อน เพราะนี่ถือเป็นเรื่องยากในการบริหารราชการ ยิ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงกระแสการเลือกตั้ง ยิ่งไปกันใหญ่ เดิมทีมีการโจมตีนโยบายต่างๆ แต่วันนี้กับทุกพรรคมีนโยบายร่วมกันคือโจมตีรัฐบาล ซึ่งแปลกดีเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร สู้ได้ วันนี้เสียดายที่มีรัฐมนตรีลาออกไป 4 คน ทั้ง 4 คนต่างมีผลงาน แต่เมื่อไม่ได้ทำงานกับรัฐบาล ก็ปล่อยเขาไป เพราะอย่าลืมว่าประเทศชาติเป็นของเรา อนาคตก็เป็นของเรา ถ้าไม่ช่วยกันทำ ก็จะเป็นของคนอื่น พวกเราก็ไม่ดีขึ้น ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเรา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว