ใครจะรู้ว่าชีวิตของ บอย พีชเมกเกอร์ และ เจี๊ยบ พิจิตตรา กว่าจะมีวันนี้ทั้งคู่ต้องจับมือกันแน่นแค่ไหน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคความรัก โดยเฉพาะในปี 2556 ที่ชีวิตของทั้งคู่ต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เปิดใจทั้งน้ำตาว่าเป็นหนี้เกือบ 50 ล้าน ต้องขายทรัพย์สินสิ่งของมีค่าที่มีเพื่อใช้หนี้ เคยไม่มีเงินแม้จะจ่ายค่าไฟ โดยทั้งคู่เปิดใจเล่าแบบหมดเปลือกที่รายการ คลับฟรายเดย์โชว์ ว่า
จริงๆ มีแพลนว่าจะแต่งงานกันตั้งแต่ปี 2556 เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว แต่ว่าปีนั้นมีเรื่องร้านไฟไหม้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดงานช่วงนั้น กว่าจะได้เริ่มคบก็จีบนาน โทรคุยกว่า 11 เดือนถึงจะยอมให้เจอ พอคบกันก็ได้ไปเจอคุณแม่ ซึ่งแม่เจี๊ยบดุมาก แต่สุดท้ายแม่ก็โอเค และตอนที่ตกลงเป็นแฟนกัน ก็มีแต่คนรวยๆ มาจีบเจี๊ยบ
...
เอางานมาบังหน้า จ้างเค้าไปงาน แล้วไม่ยอมให้กลับบ้าน เคยไปนั่งรอรับ 3-4 ชั่วโมง บางงานเจี๊ยบต้องวิ่งหนีออกมากับผู้จัดการก็มี บางครั้งโทรมาคุยจนเจี๊ยบไม่รู้จะทำยังไง ก็ยื่นโทรศัพท์ให้คุย บางท่านก็เป็นผู้ใหญ่
เล่าย้อนไปเมื่อปี 56 เช้ามืดน้องชายโทรมาบอกว่าที่ร้านโดนไฟไหม้ ก็ขับรถไปดูร้าน พอเห็นสภาพร้าน เจี๊ยบเป็นลม ตอนนั้นถูกประกันทางโครงการฟ้อง เหตุที่เป็นต้นเพลิง เราไม่โดนคดีอาญาเพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เกิดจากความร้อนในร้านทำให้ร้านไหม้ แต่เกิดจากความร้อนที่อื่นที่ทำให้ร้านไหม้ แต่ก็ต้องหาพยานเพื่อไปสู้กันอีกที
โดนฟ้องเยอะมาก นึกว่าเล่นเกมเศรษฐี รวมมูลค่าเกือบ 50 ล้าน ราคานี้ต่อรองแล้ว จนต้องเลื่อนงานแต่งออกไปก่อน เพราะเราไม่มีพยาน ไม่มีใครพร้อมมาเป็นพยานให้เรา เราเลยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายหมดเลย
ตอนนั้นเจี๊ยบร้องไห้ทุกวัน ส่วนบอยก็แอบร้องไม่ให้เจี๊ยบเห็น มันกำลังจะเริ่มต้นแต่มาเจอเรื่องนี้ 9 ปีที่ทำงานในวงการมา ไม่ใช่แค่ศูนย์ แต่ว่ามันติดลบ มันไม่รู้จะไปทางไหน
ตอนนั้นต้องขายเรือนหอ เพราะไม่มีเงินผ่อนแล้ว แต่มีพี่ที่รู้จักให้ไปเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้แต่ละคน เลยทำให้ยังมีความหวังว่ายังเหลือบ้าน ส่วนแหวนเงินทองนาฬิการถ ไม่เหลือเลย ขายหมดเลย เป็นหนี้ทั้งหมด 48 กว่าล้าน คือท้อไม่ได้ ทำงานไม่มีเวลาท้อเลย
บอยเล่าต่อว่า สะเทือนใจอยู่ครั้งนึง ที่เจี๊ยบถอดของมีค่าบอกเอาไปขายเถอะ (บอย-เจี๊ยบร้องไห้) ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็ต้องขอบคุณวันนั้น ที่ทำให้เรา 2 คนเก่งที่จะผ่านพ้นอะไรไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องใช้หนี้ หรือความรักที่มีให้กันมากกว่าเดิม 3 ปีที่เราจัดการกับหนี้ก้อนนี้ บางเดือนเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ตอนนี้ไม่น่าจะเกิน 2 ปีในการชำระหนี้
ทุกวันนี้จะใส่เสื้อตัวละ 100 บาท ก็ทำได้ จะกินข้าวแกงข้างทางก็ทำได้ จะไม่ไปเที่ยวต่างประเทศเลยก็ทำมาแล้ว มันเป็นการพิสูจน์ใจกันวันที่ลำบากอยู่ด้วยกันได้มั้ย ไม่ใช่จะร่วมสุขกันอย่างเดียว.
...